แบบนี้ก็มีด้วย! คนขับแท็กซี่อ้างแกล้งผีเข้า หลอกผู้โดยสารให้หยุด "แคะขี้มูก" บนรถ

แบบนี้ก็มีด้วย! คนขับแท็กซี่อ้างแกล้งผีเข้า หลอกผู้โดยสารให้หยุด "แคะขี้มูก" บนรถ

แบบนี้ก็มีด้วย! คนขับแท็กซี่อ้างแกล้งผีเข้า หลอกผู้โดยสารให้หยุด "แคะขี้มูก" บนรถ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีผู้โดยสารผวาขึ้นแท็กซี่กลางดึก เจอคนขับมีพฤติกรรมสุดหลอน พึมพำกลัวผีอำตลอดทาง จนชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความเห็นว่าเคยขึ้นรถแท็กซี่คันนี้ และเจอพฤติกรรมหลอนๆ แบบเดียวกัน หวั่นเกิดเหตุไม่คาดฝัน ขณะที่หลายคนสงสัยว่ามีอาการทางจิตหรือแกล้งผู้โดยสารกันแน่

>> คนขับแท็กซี่สุดหลอน ชาวเน็ตแห่แชร์เจอคันเดียวกันเป๊ะ แต่ต่างความสะพรึง

ล่าสุด นายโอวาท หรือ อ้อย คนขับแท็กซี่คันดังกล่าว เข้ารายงานตัวกับนายสุกรี จารุภูมิ ผอ.กองตรวจการขนส่ง และเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าตนไม่ใช่คนวิกลจริต หรือมีญาณพิเศษใดๆ ทั้งสิ้น แต่ที่เห็นพฤติกรรมบ่นพึมพำเพ้อเจ้อคล้ายผีเข้านั้น ต้องการหลอกให้ผู้โดยสาร หยุดพฤติกรรมการแคะขี้มูกในรถ โดยตอนแรกก็บอกให้ผู้โดยสารคนนี้หยุดแคะขี้มูก เพราะสกปรก แต่ก็ไม่หยุด จึงแกล้งทำเป็นผีเข้า ร้องไห้บ้าง บ่นพึมพำบ้าง ยกมือไหว้บ้าง เพื่อให้ผู้โดยสารหยุดการกระทำแต่ก็ไม่หยุด

ส่วนเงินที่ให้ใส่ขัน หรือวางที่เบาะรถนั้น เพราะมือของผู้โดยสารเลอะขี้มูก ตนรู้สึกสกปรก จึงให้วางเงินไว้และไม่แตะเงินนั้น เวลาจะนำไปใช้ต้องไปฝากธนาคาร ก่อนจะถอนเงินนั้นมาใช้ ที่ผ่านมาเวลารับผู้โดยสารแต่ละคนก็มีพฤติกรรมแคะขี้มูกในรถมาตลอด ทำให้ตนต้องทำพฤติกรรมแบบนั้น

นอกจากนี้ นายอ้อยกล่าวว่ายึดอาชีพขับรถแท็กซี่มากว่า 10 ปี จนผ่อนรถหมด แต่ก่อนไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้ แต่มาระยะหลังเจอแต่ผู้โดยสารแคะขี้มูกและแกล้งตนตลอด ในอดีตเคยขับรถรับส่งคนงานในโรงงาน ก็พบผู้โดยสารแคะขี้มูกเช่นกัน แต่ในรถโดยสารไม่ได้ใกล้ชิดกันกับคนขับ จึงไม่ได้ทำพฤติกรรมแบบนี้

สำหรับขั้นตอนการดำเนินการของกรมการขนส่ง นายสุกรี จารุภูมิ ผอ.กองการขนส่ง ระบุว่า ช่วงนี้ก็ให้นายอ้อยพักการขับรถไปก่อน และนำไปตรวจร่างกาย สภาพจิตใจ ว่าผ่านเกณฑ์ของกรมขนส่งหรือไม่ ซึ่งใบขับขี่ของนายอ้อยจะหมดอายุในเดือนกันยายน หากผลการตรวจของแพทย์ ระบุว่ามีอาการป่วยก็จะไม่สามารถต่อใบอนุญาติได้

นอกจากนี้ยังประสานไปยังสหกรณ์ต้นสังกัด ให้ช่วยตรวจสอบการรับคนขับแท็กซี่ให้ละเอียดมากขึ้นเพื่อป้องกันไมให้เกิด ปัญหาแบบนี้ซ้ำอีก ที่ผานมาสถิติของแท็กซี่ที่มีลักษณะอาการพูดจาเพ้อเจ้อหรือไม่เหมาะสมแบบนี้ เพียง 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook