ใช่แบบที่คิด "น้าเป็นฆาตกร" สารภาพฆ่าหลานอำพราง แค่ทะเลาะปมตัดหญ้า
เจอตัวฆาตกรแล้ว หญิงสาวเลี้ยงควายไม่ได้จมน้ำตาย น้าสามีสารภาพเป็นคนลงมือ เพราะทะเลาะกันเรื่องตัดหญ้า คว้าไม้ฟาดแล้วเสียหลักตกน้ำตาย ยังไม่สะทกสะท้านมาร่วมงานศพด้วยทุกคืน ทั้งเร่งให้เผาศพเร็วๆ
ความคืบหน้ากรณีที่มีคนไปพบศพ น.ส.เต็ม อายุ 36 ปี ชาวบ้านบ้านชุมแสงใหม่ ต.ดงพลอง อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ จมน้ำเสียชีวิตที่สระสาธารณะท้ายหมู่บ้าน เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่จากการชันสูตรศพพบร่องรอยการถูกทำร้างร่างกาย จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นเหตุฆาตกรรมอำพราง ญาติจึงตัดสินใจยังไม่ทำพิธีฌาปนกิจศพที่เตรียมไว้เมื่อวานนี้ (8 ส.ค.)
ล่าสุดภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แคนดง และตำรวจกองปราบภูธรภาค 3 ได้ลงพื้นที่หาข้อมูลหลักฐานเชิงลึกในพื้นที่เพื่อคลี่คลายคดีดังกล่าว กระทั่งทราบตัวผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่า น.ส.เต็ม ตามที่ญาติและชาวบ้านติดใจว่าเป็นการฆาตกรรม คือ นายสุพรรณ อายุ 50 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าของสามีผู้ตาย เนื่องจากไปพบหลักฐานสำคัญคือเสื้อผ้าที่เปื้อนคราบเลือดซึ่งตากไว้ที่บ้าน จึงได้นำตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวน นายสุพรรณ ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่า น.ส.เต็ม จริง โดยอ้างว่าในวันเกิดเหตุ ตนได้นำควายไปเลี้ยงที่บริเวณใกล้สระน้ำตามปกติเหมือนทุกวัน ซึ่ง น.ส.เต็ม ก็นำควายมาเลี้ยงบริเวณดังกล่าวเช่นเดียวกัน จากนั้นผู้ตายก็เดินมาต่อว่าที่ตนไม่ยอมตัดหญ้าแบ่งให้กับผู้ตายไปเลี้ยงควายด้วย ทั้งที่เครื่องตัดหญ้าเป็นของผู้ตาย ทำให้เกิดมีปากเสียงกันที่บันไดทางเดินขึ้น-ลงสระน้ำสาธารณะที่เกิดเหตุ
>> ฌาปนกิจรอเก้อ ญาติไม่เผาศพสาวจมน้ำตาย เพราะเชื่อเป็นฆาตกรรม
นายสุพรรณ อ้างว่าด้วยความโกรธแค้นที่ถูกผู้ตายต่อว่าไม่ยอมหยุด ประกอบกับก่อนหน้านั้นก็ถูกต่อว่ามาหลายครั้ง จึงได้คว้าท่อนไม้ขนาดใหญ่ตีเข้าที่ท้ายทอยของ น.ส.เต็ม ไป 1 ครั้ง กระทั่งล้มลงแล้วตีซ้ำที่บริเวณด้านหน้าอีกครั้ง น.ส.เต็ม เสียหลักตกลงไปในน้ำโดยไม่ได้ช่วยเหลือ ปล่อยให้เหมือนเป็นการจมน้ำเสียชีวิต ก่อนจะไล่ต้อนควายทั้งของตนและของผู้ตายกลับเข้าคอกหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นายสุพรรณ ยังบอกอีกว่า หลังจากก่อเหตุเสร็จก็ปิดบังเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง กระทั่งมีคนไปพบศพ น.ส.เต็ม จมน้ำเสียชีวิตในสระสาธารณะดังกล่าว แล้วนำศพกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้าน ตนก็ยังเดินทางไปร่วมงานศพตามปกติ
อีกทั้งยังพูดบอกญาติพี่น้องว่าให้รีบๆ เผาศพผู้ตายไปเสีย เพราะไม่มีเงินจะจัดงานศพหลายวัน แต่เนื่องจากญาติและชาวบ้านส่วนใหญ่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงเรียกร้องให้ทางตำรวจช่วยส่งศพไปตรวจพิสูจน์ และสอบสวนหาสาเหตุการตายที่แท้จริง กระทั่งมีการนำศพไปผ่าพิสูจน์และสืบสวนหาข้อเท็จจริง จนสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด
ทั้งนี้ นายสุพรรณ ยังอ้างด้วยว่าจริงๆ ตั้งใจว่าหากเสร็จงานศพแล้วจะเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่มาถูกจับกุมได้เสียก่อน ซึ่งตำรวจยังไม่ปักเชื่อคาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะไปงานศพเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวตลอดเวลา หากไม่มีการติดตามคดีก็คงคิดว่าน่าจะรอดพ้นความผิดได้
พ.ต.อ.โรมรัน จินดานุภาพ ผู้กำกับการสถานีตำรวจแคนดง เปิดเผย ถึงแม้ผู้ก่อเหตุจะยอมรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุฆ่า น.ส.เต็ม แต่ทางพนักงานสอบสวนก็ต้องรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบสำนวนคดีให้แน่นหนามากขึ้นและให้เป็นไปตามกระบวนการ
ซึ่งขณะนี้ก็ได้ตรวจยึดเสื้อผ้าเปื้อนเลือดที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ ท่อนไม้ที่มีเส้นผมของผู้ตายติดอยู่ ซึ่งถือเป็นวัตถุพยานสำคัญ แต่ก็ต้องรอผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ของแพทย์มาประกอบด้วยเช่นกัน