งัดจนเซียน-รวบคนร้ายตระเวนงัด "ตู้น้ำหยอดเหรียญ" ก่อเหตุโชกโชน 11 จุด

งัดจนเซียน-รวบคนร้ายตระเวนงัด "ตู้น้ำหยอดเหรียญ" ก่อเหตุโชกโชน 11 จุด

งัดจนเซียน-รวบคนร้ายตระเวนงัด "ตู้น้ำหยอดเหรียญ" ก่อเหตุโชกโชน 11 จุด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 10 สิงหาคม 2561 พ.ต.อ.สมิทธิ สารอต ผกก.สภ.คูคต พ.ต.อ.วรพันธ์ พิสทุธานนท์ ผกก.สอบสวน สภ.คูคต พ.ต.ท.เหมรัศมิ์ พรนาคสอนโกษา รอง ผกก.สส.สภ.คูคต พ.ต.ต.ธรณินทร์ พุ่มสุวรรณ สว.สส.สภ.คคูต กำลังชุดสืบสวนร่วมกันจับกุมตัวนายพงศ์พณิช อายุ 30 ปี

พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์แท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า ป้ายแดง 1 คัน รถจักรยานยนต์ 3 คัน คีมตัดเหล็กจำนวน 1 อัน กระป๋องแก๊สเดินป่าพร้อมหัวเป่าแก๊ส จำนวน 2 ชุด หมวกกันนิรภัยแบบเต็มใบ สีดำ จำนวน 4 ใบ และอื่นๆ รวม 14 รายการ

โดยกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด เพื่อพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” โดยจับกุมได้ที่หน้าโรงงานแห่งหนึ่งถนนเลียบคลองสี่ธัญบุรี-ลำลูกกา คลองสี่ ม.8 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายพงศ์พณิช ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพจำนวน 11 จุดที่ลงมือก่อเหตุ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าต้องการนำเงินไปใช้จ่ายในครอบครัว ในแต่ละครั้งจะใช้รถจักรยานยนต์และรถแท็กซี่ของพี่เขยลงมือก่อเหตุ กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2561 มีคนร้ายงัดตู้เติมเงินมือถือ และเจาะตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ โดยใช้ความร้อนแล้วลักเอาเงินเหรียญภายในตู้ดังกล่าวหลายครั้ง ชุดสืบสวนได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งจากที่เกิดเหตุ และจากภาพกล้องวงจรปิด เพื่อสืบหาตัวคนร้ายในคดีนี้

ต่อมาเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2561 ได้มีคนร้ายใช้รถแท็กซี่สีชมพู-ขาว หมายเลขทะเบียน ผ 3574 กรุงเทพมหานคร (ป้ายแดง) ก่อเหตุเจาะตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญด้วยความร้อน ที่บริเวณหน้าร้านหมูรำพึง ตลาดลาดสวาย หมู่ 5 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

จึงได้เรียกตัวผู้ครอบครองมาทำการสอบสวน จนพบว่าผู้ที่นำรถไปใช้นั้นเป็นน้องเขยคือ นายพงศ์พณิช จึงเรียกตัวมาทำการสอบสวนและให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวดำเนินคดีทางกฎหมายและนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook