สรุปข่าวเด่นรอบสัปดาห์ ประจำวันที่ 5-11 ส.ค. 2561
ข่าวเด่นรอบสัปดาห์ ประจำวันที่ 5 - 11 สิงหาคม 2561 เพราะทุกวันมีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้พลาดประเด็นร้อนกับทุกเนื้อหาที่น่าสนใจใน Sanook.com ข่าวเด่นจึงถูกรวบรวมไว้ให้อ่านอีกครั้ง
รวบกลางห้าง "บูม จิรัชพิสิษฐ์" ดาราหนุ่มลวงเหยื่อสูญ 797 ล้าน
นายจิรัชพิสิษฐ์ หรือ บูม อายุ 27 ปี ชาว จ.ชลบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ลงวันที่ 26 ก.ค.2561 ในข้อหา ร่วมกันฟอกเงิน โดยผู้ต้องหาพร้อมกับพวกได้สมคบกันหลอกลวงและร่วมกันวางแผนชักชวนให้ชายชาวต่างชาติ ร่วมลงทุนประกอบธุรกิจซื้อ-ขาย สกุลเงินดิจิตอล ในชื่อ dragon coin (DRG) โดยหลอกลวงให้ซื้อหุ้นของบริษัทต่างๆ จนผู้เสียหายหลงเชื่อ ได้ร่วมลงทุนไปด้วยการโอนเหรียญบิตคอย ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิตอล จำนวนหนึ่งโอนเข้าไปกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-wallet) โดยเป็นบัญชีของ นายจิรัชพิสิษฐ์ ที่เปิดรับรองไว้ส่วนหนึ่ง และบัญชีของผู้ต้องหาอื่น ๆ อีก คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย เงินบาท ณ ขณะนั้น จำนวนประมาณ 797,408,454.33 บาท ล่าสุดศาลอนุญาตให้ประกันตัว 2 ล้านบาท แต่สั่งห้ามออกนอกประเทศ
"เป้ย ปานวาด" โพสต์แชทเตือนสติสาวนิรนาม บาปหนา ยุ่งกับสามีชาวบ้าน
คุณแม่ใกล้คลอดอย่าง เป้ย ปานวาด ลุกขึ้นมาโพสต์ภาพบทสนทนา ของสาวปริศนา ที่มีใจความในทำนองว่ากล่าวตักเตือน อย่าไปยุ่งกับคนมีลูกมีเมียแล้ว และที่สำคัญยังเป็นคนที่คนในสังคมรู้จักเป็นอย่างดี โดยฝ่ายคู่สนทนา ก็ได้ตอบกลับมาว่า ชื่นชอบคุณแม่เป้ยอยู่แล้ว และจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ซึ่งจากบทสนทนาดังกล่าว ทำให้หลายๆ คนสงสัยอย่างมาก ว่าเป็นการพูดคุยระหว่างใครกันแน่ โดย เป้ย ได้เขียนข้อความประกอบภาพด้วยว่า "น้องคะ พี่กำลังจะคลอดลูกเดือนหน้า ถ้าน้องบอกว่าชื่นชอบพี่จริงๆ อย่าทำกับพี่แบบนี้" หลังจากที่ เป้ย อยู่ในสภาวะเครียดจนท้องแข็งต้องนอนโรงพยาบาล ทั้งนี้เธอได้กำลังใจอย่างท่วมท้นจากเหล่าแฟนคลับ พร้อมกับมีกลุ่มเพื่อนซี้อย่าง หนิง ปณิตา , เมย์ พิชญ์นาฏ จนกระทั่งออกงานและกล่าวขอบคุณโดยเธอบอกว่าตอนนี้ขอโฟกัสเรื่องลูกอย่างเดียว
ศาลสั่งจำคุก 114 ปี "เณรคำ" ฟอกเงิน-ฉ้อโกง-พ.ร.บ.คอมฯ
ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีฉ้อโกงประชาชน ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายวิรพล สุขผล อายุ 39 ปี หรือ อดีตพระวิรพล ฉัตตโก หรือ อดีตหลวงปู่เณรคำ ที่ทางการสหรัฐฯ ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน เป็นจำเลยในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ 17 ก.พ. 2552 – 27 มิ.ย. 2556 ต่อเนื่องกัน จำเลยอาศัยความเป็นพระภิกษุ ในฐานะประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ และความศรัทธาของประชาชน ได้หลอกลวงว่า จำเลยนิมิต(ฝัน) ว่าพบพระอินทร์ และพระอินทร์ได้ขอให้สร้างพระแก้วมรกตองค์ใหญ่ที่สุดในโลก โดยจำเลยประกาศ ชักชวนให้ประชาชน นำเงิน ทองคำ และทรัพย์สินมาบริจาคกับจำเลย ที่วัดป่าฯ โดยจัดตู้บริจาค 8 ตู้ นอกจากนี้จำเลยยังได้ใช้เว็บไซต์ www.luangpunenkham.com เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการจัดสร้างสิ่งต่างๆ ก่อนที่ภายหลังจะพบว่าจำเลยได้นำเงินที่ได้จากการบริจาคไปซื้อรถยนต์หรู อีกทั้งใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ทั้งนี้ อดีตหลวงปู่เณรคำ กล่าวว่า ขอให้ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง ตนอยู่ภายในคุกมีความสุขดี ไม่ได้รู้สึกกังวลใจอะไร คนในคุกไม่น่ากลัวเท่าคนนอกคุก
ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง "หมอนิ่ม" คดีจ้างฆ่า "เอ็กซ์ จักรกฤษณ์" ส่วนแม่คุกตลอดชีวิต
ศาลจังหวัดมีนบุรี นางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม มารดาของ นายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม หรือ เอ็กซ์ อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย พร้อมทนายความ รวมถึง นางสุรางค์ ดวงจินดา อายุ 76 ปี (มารดาหมอนิ่ม) และ พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือ หมอนิ่ม อายุ 42 ปี และทนายความ ได้เดินทางมาที่ห้องพิจารณา 203 เพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีจ้างวานฆ่า เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ อดีตนักยิงปืนทีมชาติ หมายเลขดำ อ.383/57 ที่อัยการศาลจังหวัดมีนบุรีเป็นโจทก์ฟ้อง นายจีรศักดิ์ หรือ จี อายุ 47 ปี มือปืน นางสุรางค์ ดวงจินดา อายุ 76 ปี พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือ หมอนิ่ม อายุ 42 ปี นายสันติ หรือ อี๊ด ทองเสม อายุ 32 ปี ทนายความ และนายธวัชชัย หรือ อ้น เพชรโชติ อายุ 35 ปี คนขี่จยย. เป็นจำเลย 1-5 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ, จ้างวานฆ่าฯ คดีนี้เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2559 ศาลจังหวัดมีนบุรีได้มีคำพิพากษาประหารชีวิต สถานเดียวหมอนิ่ม ส่วนนางสุรางค์ มารดา หมอนิ่ม ให้ยกฟ้อง ต่อมา ศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งให้หมอนิ่มประกันตัว ตีราคาประกัน 2.5 ล้านบาท โดยให้เหตุผลว่า ความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้น ยังมีความรักต่อกัน เพราะหมอนิ่มและผู้ตายยังไปมาหาสู่ผู้ตายตอนติดคุกยังพาลูกไปหาไม่มีได้ท่าทีโกรธแค้น ขณะที่ นางสุรางค์ ภู่เจริญยศ แม่ของ พญ.นิธิวดี ผู้ว่าจ้างยิงนายเอ็กซ์ ศาลได้พิพากษาให้ประหารชีวิต แต่จำเลยรับสารภารลดโทษ 1 ใน 3 ให้เหลือจำคุกตลอดชีวิต โดยให้สาเหตุว่า นางสุรางค์ นั้น มีความโกรธแค้นที่คนตาย ทำร้ายลูก และหลาน จนทำให้แท้งลูก และเชื่อว่าผู้ตายไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยได้ เลยสั่งมือปืนยิง
เปิดใจ “จตุพร” 1 ปี 15 วัน ในคุกเหมือนสุสานคนเป็น ได้ปรับทุกข์ “สนธิ-พุทธะอิสระ”
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เมื่อวาน (4 ส.ค.) ในคดีหมิ่นประมาท นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กรณีปราศรัยในที่ชุมนุม นปช. เรื่องราวชีวิตในเรือนจำตลอดระยะเวลา 1 ปี 15 วัน ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ถือเป็นครั้งที่นานที่สุด และเป็นครั้งที่ไม่ได้คาดคิดว่าจะถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ แต่เมื่อเข้าไปอยู่ไม่นานก็สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ตนมองว่าขณะที่อยู่ภายในเรือนจำ ไม่ควรมีความทุกข์แล้วควรมองทุกเรื่องอย่างมีความสุข รู้สึกว่าการอยู่ในเรือนจำ เหมือนการบวช เนื่องจาก หลังจากเวลา 12.00 น. จะไม่ทานอาหารโดยในแต่ละวันทานอาหารเพียงวันละ 2 ครั้ง คือ 06.30 น. และ 11.30 น. ซึ่งในเรือนจำจะเป็นแบบนี้ทุกวัน ไม่มีอะไรใหม่ นอกจากนี้มีโอกาสได้พูดคุยกับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล และอดีตพระพุทธะอิสระ ที่ได้เคยเจอกันในเรือนจำ ว่าตลอดระยะเวลาที่อยู่ในเรือนจำ ไม่มีความแค้นใดๆ เพราะความแค้น คือการทำร้ายตัวเอง เมื่อมีโอกาสได้พบกันจึงพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ด้วยความเข้าใจ ในเรื่องที่สามารถพูดคุยกันได้ เรียกได้ว่าเป็นการปรับทุกข์ ส่วนตัวมองว่า เรือนจำ เหมือนสุสานคนเป็น ดังนั้นไม่มีเหตุผลที่ทำให้ทะเลาะกัน