ตายปริศนา-เจ้าหน้าที่เร่งพิสูจน์ "ซากวัวแดง" พร้อมติดตามคนล่ามาดำเนินคดีด่วน

วันที่ 12 สิงหาคม 2561 เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี พร้อม ร.ต.อ. สุนทร ประดิษฐสันติกุล พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรลานสัก และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตำรวจ สัตวแพทย์หญิง พิมชนก สรงมงคล

ร่วมกันตรวจพิสูจน์ การตายของวัวแดงขนาดใหญ่ ที่พบในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยทับเสลา-ป่าห้วยคอกควาย หมู่ 10 บ้านไผ่งาม ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี โดยใช้เครื่องตรวจจับโลหะ

ตรวจสอบบริเวณลำตัว และผ่าซากวัวแดง พบว่าเป็นวัวแดง เพศผู้ น้ำหนักประมาณ 700 กิโลกรัม ภายนอกพบบาดแผลเป็นรูขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 ซม. บริเวณลำคอ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.5 มิลลิเมตร จำนวน 2 รู

เมื่อผ่าเปิดซากพบเลือดคั่งในกล้ามเนื้อ และก้อนเลือด และพบหัวกระสุนมนกลมคล้ายลูกตะกั่วกระสุนปืน เส้นผ่านศูนย์กลาง ประมาณ 0.9 ซม. ฝังอยู่บริเวณในผิวหนังบริเวณลำคอ คาดเป็นสาเหตุให้วัวแดงตาย

เจ้าหน้าที่ได้เก็บหัวกระสุนดังกล่าวไว้เป็นหลักฐาน และเก็บตัวอย่างชิ้นส่วนปลายหู และขน เพื่อตรวจสอบสารพันธุกรรม และได้วัดขนาดรอยเท้าที่ตรวจพบในบริเวณพื้นที่ข้างเคียงที่พบซากวัวแดง

รวมทั้งเก็บดินบริเวณรอยเท้าส่งพนักงานสอบสวน เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ และตามล่าตัวกลุ่มที่ล่าวัวแดง มาดำเนินคดี

นายสมโภชน์ มณีรัตน์ โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และอดีต หน.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี ให้ข้อมูล กรณีเจ้าหน้าที่พบวัวแดงถูกยิงตาย ใกล้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ว่าเกิดขึ้นได้ 2 กรณี

คือวัวแดงออกมาหากินนอกพื้นที่ห้วยขาแข้ง ซึ่งเป็นป่ากันชน แล้วอาจเข้าไปกินพืชไร่ชาวบ้านจนถูกยิง หรืออาจถูกกลุ่มนายพรานตั้งใจล่า จากหัวกระสุนที่พบ เป็นลูกโดด มีความเป็นไปได้สูงที่เกิดจากฝีมือพรานล่าสัตว์ เพื่อต้องการหัววัวแดงไปประดับ หรือถูกสั่งตามออเดอร์

เป็นที่น่าสังเกตว่า จุดที่พบอยู่นอกเขตอุทยานฯ แสดงว่าจะมีกลุ่มคนรู้ว่าวัวแดงจะออกมาหากินพื้นนี้จึงคอยเฝ้าและลงมือยิง หลังถูกยิงวัวแดง น่าจะหนีเอาชีวิตรอดเข้าไปในป่าแต่ตายเสียก่อน การลักลอบล่าวัวแดงนี่ไม่ใช่ครั้งแรก

ปัจจุบันพบว่าวัวแดงในป่าห้วยขาแข้ง เพิ่มจำนวนมากขึ้น จากที่เคยสำรวจไว้ล่าสุด พบมีมากกว่า 300 ตัว แรงจูงใจของคนยิงน่าจะหวังเขาไปประดับบ้าน เพราะเนื้อวัวแดง จะไม่นิยมกินมากนัก หากล่าเอาเนื้อมองว่าไม่คุ้มกับเสี่ยงกับการถูกจับ

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนที่ได้เดินตรวจสอบรอบๆ ระยะ 100 เมตร ในรัศมีเกิดเหตุ ไม่พบอาวุธหรือของมีคมตกอยู่แต่อย่างใด