แม่เด็กเดือดบุกขึ้นโรงพัก ครูคว้าฟุตเหล็กกระหน่ำฟาดศิษย์อ่านหนังสือไม่ออก

( 14 ส.ค. 61 )  เมื่อเวลา 18.00 น. ที่ สภ.เมืองระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุเด็กชายคนหนึ่ง วัยเพียง 7 ขวบ ของโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองระยองถูกทำโทษจากครูประจำชั้น จนเป็นรอยฟกช้ำตามร่างกาย ด้วยการตีกระหน่ำไม่ยั้งกับฟุตเหล็ก จนเป็นรอยฟกช้ำไปทั้งตัว

ก่อนที่แม่ของเด็กชายคนดังกล่าวจะพาเข้าแจ้งความกับตำรวจภูธรเมืองระยอง เพื่อดำเนินคดีกับครูคนดังกล่าว โดยมี นางสาว นพพนา หัวหน้าบ้านพักเด็ก และครอบครัวจังหวัดระยอง เข้ามาติดตามตรวจสอบอาการของเด็ก และพาเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลระยอง 

โดยแม่เด็กชายคนดังกล่าว ให้การว่า หลังจากที่บุตรชายเลิกเรียนกลับมาตามปกติ ยายของเด็กได้เห็นร่องรอยฟกช้ำที่แขนด้านขวา เป็นรอยช้ำแดงไปทั้งแขน  โดยเฉพาะที่หัวไหล่จะเห็นได้ชัดเจน รวมถึงที่หางคิ้วด้านซ้ายก็มีรอยปูดขึ้นมา จึงสอบถามว่าถูกใครทำร้ายมา

ในตอนแรกคิดว่าทะเลาะกับเพื่อนร่วมชั้น เพราะเด็กไม่ยอมบอก พอเค้นหนักก็ยอมพูดว่า ถูกครูใช้ไม้บรรทัดเหล็ก หรือ ฟุตเหล็กตี จึงรีบโทรไปหาครูประจำชั้นทันที  ซึ่งเป็นครูผู้หญิง พอสอบถามเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ครูกลับตอบเหมือนเป็นเรื่องปกติ ว่า พลั้งมือไป เพราะเด็กดื้อไม่ยอมอ่านหนังสือหลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จ จึงใช้ไม้บรรทัดฟุตเหล็กตีไป เสมือนเป็นเรื่องปกติ ก่อนจะวางหูไป

เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกโกรธครูที่ลงโทษเด็ก ซึ่งทางผู้ปกครองทุกคนต่างก็เข้าใจ แต่ต้องเป็นการลงโทษตามความเหมาะสม แต่การใช้ไม้บรรทัดฟุตเหล็กตีเด็กวัย 7 ขวบ ถือว่าไม่สมควร และรุนแรงเกินกว่าเหตุ ทางครอบครัวได้ปรึกษากันแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดกับเด็กคนอื่นอีก จึงเข้าแจ้งความ เพื่อให้ดำเนินคดีกับครูที่ลงมือตีลูกตนเอง ให้ถึงที่สุด

ขณะที่เด็กชายคนดังกล่าว ยังอยู่ในอาการเซื่องซึม เจ็บที่รอยช้ำบริเวณแขน และหัวไหล่ บอกว่ายกแขนไม่ขึ้น และเจ็บที่หัวไหล่บริเวณที่ถูกตี และบอกว่าครูตีหลายครั้ง และด่าเสียงดัง ว่าไม่ยอมอ่านหนังสือและอ่านไม่ออก หลังโดนตีเจ็บมากถึงกับร้องไห้ออกมา แต่ครูก็ยังดุด่าอีก จนขณะนี้เกิดความหวาดกลัว และอับอายเพื่อนในชั้นเรียนเป็นอย่างมาก จนไม่อยากไปโรงเรียน

ทั้งนี้ ทางตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกาย เพื่อหาร่องรอยบาดแผลที่ถูกทำร้าย ที่โรงพยาบาลระยอง เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม จะต้องรอการสอบปากคำเด็กต่อหน้าสหวิชาชีพ ซึ่งจะนัดกันอีกครั้ง หลังจากนี้จะประสานไปยังครูประจำชั้นที่ก่อเหตุ เชิญมาสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป