สาว ม.6 หวิดถูกขยี้กาม-ก่อน ตร.ลากคอหนุ่มติดยาก่อเหตุแว้นรถประกบชักปืนขู่เหยื่อสาว

( 14 ส.ค. 61 )  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ไมตรี บุญมาศ รอง ผกก.สส.ภ.จว.อำนาจเจริญ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน นำตัว นายยุทธนา อายุ 25 ปี  ภูมิลำเนาอาศัยอยู่ที่ ต.นาจิก อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ มาสอบสวนที่กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ

หลังจากที่ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุชิงทรัพย์ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี เด็กนักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนอำนาจเจริญ ที่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง ถนนชยางกูรอำนาจเจริญ-อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 61 ที่ผ่านมา และผู้ต้องหาได้โทรศัพท์ไอโฟนไปจำนวน 1 เครื่อง

และก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา  ก็มีผู้เสียหายอีก 2 คน ซึ่งเป็นผู้หญิงที่ได้เข้าไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองอำนาจเจริญ ว่ามีคนร้ายขี่  รถ จยย. ตามประกบพร้อมกับชักปืนมาขู่เพื่อชิงทรัพย์ โชคดีที่ผู้เสียหายยังคงมีสติ และสามารถหลบหนีมาได้

น.ส.สุดาพร  อายุ 20 ปี หนึ่งในผู้เสียหายเล่าว่า ตนมีอาชีพเป็นพนักงานขายร้องเท้า ที่ร้านขายรองเท้าแห่งหนึ่งใน จ.อำนาจเจริญ ปกติตนจะเลิกงาน 2 ทุ่ม และหลังจากเลิกงานก็จะขับรถกลับบ้าน ที่บ้านดงสว่าง ซึ่งห่างจากตัวเมืองอำนาจเจริญประมาณ 15 กิโลเมตร

โดยวันที่เกิดเหตุนั่นขณะที่ตนกำลังขับรถกลับบ้าน มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น ขี่รถ จักรยานยนต์ สีแดง ยี่ห้อ ฮอนด้า คลิก ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เร่งเครื่องมาจากด้านหลังแล้วชักปืนขึ้นขู่ให้ตนจอดรถ ซึ่งตอนนั้นเอง  ตนก็ตกใจมาก เพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลยสักครั้ง แต่ก็ดีที่ยังคงมีสติและทำทีแกล้งผ่อนคันเร่งเหมือนจะหยุดตามที่คนร้ายบอก และอาศัยช่วงที่คนร้ายตายใจรีบเร่งเครื่องหนีคนร้าย ขี่รถหลบหนีเข้าไปในบ้านคนเพื่อขอความช่วยเหลือ คนร้ายจึงได้ขับรถหนีไป

ก่อนที่วันรุ่งขึ้นตนจะได้เข้าไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองอำนาจเจริญ และหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ตนก็ต้องเปลี่ยนมาเช่าหอพักที่อยู่ใกล้ที่ทำงานแทน เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก

ทางด้าย น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี เด็กนักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนอำนาจเจริญ เผยนาทีระทึกที่ถูกคนร้ายคนเดียวกัน ใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์  ขณะกำลังขับรถกลับบ้าน หลังจากเรียนพิเศษเสร็จจนมืดค่ำ ว่า หลังจากเลิกเรียนในช่วงปกติ ตนก็จะเรียนพิเศษทุกวัน จนถึงเวลาประมาณ 19.00 น. หลังจากเรียนพิเศษเสร็จตนก็จะขับรถกลับบ้าน ซึ่งห่างที่เรียนพิเศษประมาณ 15 กิโลเมตร

โดยวันที่เกิดเหตุนั่นขณะที่ตนกำลังขับรถกลับบ้าน ได้มีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์สีแดง ยี่ห้อ ฮอนด้า คลิก ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขี่มาประกบ  และพยายามขับเบียดให้ตนขับเข้าซอยป่าข้างทาง แต่ตนก็พยายามเบียดออก คนร้ายจึงได้ชักปืนมาขู่บอกให้ตนจอดรถ ด้วยความตกใจและกลัวตนจึงจอดรถตามที่คนร้ายสั่ง

จากนั้นคนร้ายได้บอกให้ตนขับรถเข้าไปในซอย แต่ตนปฏิเสธ คนร้ายทำท่าทีกล่าวหาว่าตนไปมีเรื่องกับน้องเขา ตนก็ได้แต่ปฏิเสธไปตามความจริงว่าไม่ใช่ จากนั้นคนร้ายได้ขอรูปตนในโทรศัพท์ ตนจึงได้เปิดรูปและยื่นโทรศัพท์ให้คนร้ายไป หลังจากดูเสร็จคนร้ายก็ไม่คืนโทรศัพท์ให้ และบอกว่า ถ้าอยากได้ให้ตนตามมาเอา ซึ่งตนเองก็กลัวว่า จะถูกทำร้ายและทำมิดีมิร้าย จึงได้รีบขับรถหนีออกมา ก่อนที่จะให้แม่พาไปแจ้งความที่ สภ.ลืออำนาจ เพื่อติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

พ.ต.ท.ไมตรี บุญมาศ รอง ผกก.สส.ภ.จว.อำนาจเจริญ เผยว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ลงพื้นที่ตามจุดต่างๆ เพื่อติดตามหาตัวคนร้าย โดยเฉพาะที่ร้านโทรศัพท์ เนื่องจากคาดว่า คนร้ายจะนำของที่ได้ไปขายอย่างแน่นอน

จนกระทั่งมีร้านโทรศัพท์ร้านหนึ่ง ได้โทรแจ้งเบาะแสมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่ามีบุคคลที่มีพฤติกรรมไม่น่าไว้ใจวางใจ นำโทรศัพท์มาขาย ซึ่งคาดว่าจะเป็นโทรศัพท์ที่ขโมยมา จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้แกะรอยตามภาพวงจรปิดที่อยู่ใกล้กับร้านโทรศัพท์ดังกล่าว จนพบบุคคลต้องสงสัย มีลักษณะตรงตามที่ร้านโทรศัพท์แจ้ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสามารถติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด

ซึ่งหลังจากที่จับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เรียกผู้เสียหายที่คาดว่า จะถูกผู้ต้องหาคนนี้ก่อเหตุด้วย มาชี้ตัวว่าใช่คนเดียวกันกับที่ก่อเหตุกับผู้เสียหายหรือไม่ ซึ่งมีผู้เสียหายทั้งหมด 3 คน ที่มายืนยันว่า ผู้ต้องหาคนนี้ใช่คนที่ก่อเหตุชิงทรัพย์กับผู้เสียหายจริง

และจากการสอบสวน ผู้ต้องหาก็ได้ให้การรับสารภาพทั้งหมด สาเหตุการก่อเหตุในครั้งนี้เป็นเพราะผู้ต้องหามีพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยผู้ต้องหาติดยาเสพติดอย่างหนัก ต้องเสพยาบ้าอย่างต่ำวันละ 5-10 เม็ด และผู้ต้องหาเองก็ยอมรับกับทางเจ้าหน้าที่ว่า เมื่อวานนี้ เพิ่งเสพยาบ้ามาจำนวน 3 เม็ด และเนื่องจากที่ผู้ต้องหาเองไม่ได้ประกอบอาชีพอะไรทำให้ไม่มีรายได้ ผู้ต้องหาจึงต้องออกตระเวนชิงทรัพย์กับคนอื่นๆ

โดยจะเน้นเฉพาะเหยื่อที่เป็นเด็ก และผู้หญิง ซึ่งของที่ได้จากการชิงทรัพย์มาก็จะนำไปขาย และนำเงินที่ได้ไปซื้อยาบ้ามาเสพ จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ลืออำนาจ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป