ยาบ้าขายง่ายรวยเร็ว-รวบเยาวชนริเป็นเอเย่นต์ กล่าวทั้งน้ำตา “อย่าหลงผิดเหมือนผม”

( 18 ส.ค. 61 )  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ จันทรกานตานนท์ ผกก.สภ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา  ได้รับรายงานจากสายว่า มีวัยรุ่นมั่วสุม กันอยู่บริเวณหลังบ้านหลังหนึ่งใน หมู่ที่ 13  ต.ด่านขุนทด อ.ด่านขุนทด คาดว่าน่า จะมีการซื้อขายยาเสพติดในบริเวณดังกล่าว

หลังได้รับแจ้งจากสาย จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อรุณศักดิ์ วรรณโฆษิต รอง.ผกก.สืบสวน สภ.ด่านขุนทด พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จำนวนหนึ่งแฝงเข้าไปทำการหาข่าว พบมีการจำหน่ายยาบ้าตรงตามที่สายรายงานมา เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบจึงได้ล้อมและแสดงตัวเข้าตรวจค้น และทำการจับกุมตัวเยาวชนชาย อายุ 17 ปี ตรวจพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงขาสั้นสีเทาทั้งสองข้างพบยาบ้าจำนวน 7 ถุง รวมยาบ้าทั้งหมดจำนวน 1,332 เม็ด  

เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมตัวเยาวชนชายพร้อมของกลางยาบ้า มาทำการสอบสวนที่ สภ.ด่านขุนทด  จากการสอบสวนเพื่อทำการขยายผลเบื้องต้น  เยาวชนชายคนดังกล่าว ให้การว่าเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 61 ที่ผ่านมาตนได้รับยาบ้ามาจาก  พ่อค้ายาเสพติดรายหนึ่งไม่ทราบชื่อนามสกุล  ซึ่งเป็นคนกรุงเทพฯ  นำมาส่ง ให้ตนเองจำหน่ายก่อนในราคาเม็ดละ 80 บาท และนำไปจำหน่ายต่อในราคาเม็ดละ 150-200 บาท   โดยอีก 10 วัน ก็จะมาเก็บเงิน  โดยการนัดแนะรับของและส่งเงินกัน ตามสถานที่ต่างๆ หากจำหน่ายยังไม่หมดก็จะผ่อนผันเวลาให้ จนกว่าจะจำหน่ายได้หมด แต่ตนก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเสียก่อน

หลังถูกจับกุมเยาวชนชาย ได้กล่าวด้วยน้ำตาด้วยความเสียใจและกล่าวเตือนเพื่อนๆ ว่า อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกเลย หากไม่เชื่อก็จะเป็นเหมือนเช่นตนเอง ไม่ตายก็ติดคุก ตนเองเสียใจที่ก้าวผิดพลาด หากพ้นโทษออกมาแล้วตนจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก

พ.ต.ท.อรุณศักดิ์  ได้กล่าวเตือนสติเยาวชนที่หลงผิด ใครที่จะเอาเงินหรือสิ่งของมาแนะนำในทางที่ผิด ขายได้ง่าย ราคาดี เอาของไปขายก่อนอย่าหลงเชื่อนะครับ  ถือว่าทำร้ายเพื่อนทำร้ายเยาวชน เงินไม่มีก็ไปลักขโมยเพื่อที่จะได้ยามาเสพ สังคมสมัยนี้ก็ต้องตักเตือนเยาวชน ส่วนใหญ่ไปหลงเชื่อในทางที่ผิด สุดท้ายก็ต้องถูกจับ เลิกเสียเถอะ มันเสียอนาคต 

โดยเท่าที่สังเกตผู้ที่ถูกจับกุมข้อหาจำหน่ายยาเสพติดส่วนใหญ่ จะเป็นเยาวชนที่อยู่ในวัยเรียน มัธยมปลายอายุไม่ถึง 18 ปี เพราะกฎหมายเด็กเยาวชน มีโทษไม่รุนแรง จึงเป็นช่องว่างให้แก่พ่อค้ายาเสพติดหัวใส  เลี่ยงกฎหมายที่รุนแรง จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่มีการแพร่ระบาดหนักในกลุ่มเยาวชน เป็นจำนวนมากอยู่ในขณะนี้  จึงอยากให้คณะครูอาจารย์ ผู้ปกครองช่วยกันสอดส่องดูแลพฤติกรรมลูกหลานไม่ให้หลงผิด