เปิดใจ-โจรลักทรัพย์พี่สะใภ้นายตำรวจ จำต้องทำเพราะโรครุมเร้าหาเงินรักษาตัว

( 22 ส.ค. 61 ) เมื่อเวลา 12.30 น. ที่สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.พงศ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พ.ต.ท.ศุภชัย ศรีศักดิ์ สว.สส.สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน

ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายสาธิต อายุ 53 ปี ภูมิลำเนาอาศัยอยู่ที่ ต.นาหอ อ.ด่านซ้าย จ.เลย พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เสื้อเชิ้ตแขนสั้นมีลาน กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าแตะ กระเป๋าสะพายหนังสีน้ำตาล (ของผู้เสียหาย) โดยกล่าวหาว่า ลักทรัพย์หรือรับของโจร เหตุเกิดที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าโลตัส ลานเอ 4 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 16 ส.ค.61 

สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 16 ส.ค. 61 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความจาก นางดวงรัตน์ อายุ 50 ปี พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พี่สะใภ้ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลแห่งหนึ่ง ว่าถูกคนร้ายลักทรัพย์เป็นกระเป๋าถือหนังสีน้ำตาลที่วางไว้ภายในรถไป ซึ่งภายในมีทรัพย์สิน โทรศัพท์มือถือ เงินสดจำนวน 10,000 บาท เครื่องประดับ พระเครื่อง รวมทรัพย์สินจำนวน 120,000 บาท

จากนั้นคนร้ายได้หลบหนีไป เต้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจนทราบรูปพรรณคนร้าย พบว่า คนร้ายได้หลบหนีขึ้นรถแท็กซี่ สีเขียว-เหลือง ทะเบียน 1 มก 3378 กทม. จากนั้นสืบทราบว่าคนร้ายได้หลบหนีไป อ.ด่านซ้าย จ.เลย จึงได้วางแผนเข้าจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง

ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในลานจอดรถสามารถบันทึกภาพคนร้ายได้เมื่อเวลา 13.51 น.  คนร้ายเป็นชายกลางคน สวมเสื้อแขนสั้นสีขาว สวมกางเกงขายาว สะพายกระเป๋า เดินเข้าไปที่ข้างรถฝั่งคนขับ จากนั้นได้เปิดประตูและหยิบกระเป๋าถือสตรีออกมา จากนั้นได้วิ่งหลบหนีไปทางด้านถนนติวานนท์ โดยมีผู้เสียหายวิ่งตามคนร้าย

ส่วนกล้องวงจรปิดตัวที่สองสามารถจับภาพคนร้ายได้เมื่อเวลา 13.52 น. กำลังวิ่งออกจากลานจอดรถ ออกไปด้านนอก โดยในมือด้านซ้ายอุ้มกระเป๋าถือหนังสีน้ำตาลของผู้เสียหายวิ่งข้ามถนนลานจอดรถด้านนอก ในระหว่างนั้นเหมือนคนร้ายทำสิ่งของตกและมีการก้มเก็บ คนร้ายได้วิ่งต่อจนพ้นรัศมีกล้องวงจรปิด

จากการสอบถาม นายสาธิต  ผู้ก่อเหตุ ทราบว่าตนทำงานรับจ้างทาสี และเป็นโรคเบาหวาน บางครั้งงานน้อยทำให้เงินไม่พอใช้รักษาตัว ปกติตนมาที่ห้างฯ นี้บ่อย  และเมื่อสบโอกาสที่ผู้เสียหายเผลอก็จะก่อเหตุ หลังได้ทรัพย์สินก็จะนำไปขายเพื่อนำเงินมาใช้จ่าย ตนเคยก่อเหตุที่ห้างฯ นี้มาแล้ว 2 ครั้ง ตนเดินผ่านจะเลือกผู้หญิงก่อน และจะดูจังหวะที่ผู้หญิงอยู่คนเดียว 

เบื้องต้น ตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาเคยก่อเหตุที่ห้างฯ ดังกล่าวเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 19 ต.ค. 60 โดยคนร้ายแอบขึ้นไปด้านหลังรถยนต์และใช้เชือกมัดผู้เสียหาย ก่อนบังคับให้ขับไปตามถนนติวานนท์ และนำไปจอดรถทิ้งไว้ที่หน้า รพ.กรมชลประทานปากเกร็ด ได้ทรัพย์สินไปจำนวน  3,000 บาท ก่อนหลบหนีไป  โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุทั้งสองคดี จึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป