นักธุรกิจร้องสื่อ รปภ.คาร์โก้สายการบิน ฉกพระเครื่องข้ามปีคดีไม่คืบ

นักธุรกิจร้องสื่อ รปภ.คาร์โก้สายการบิน ฉกพระเครื่องข้ามปีคดีไม่คืบ

นักธุรกิจร้องสื่อ รปภ.คาร์โก้สายการบิน ฉกพระเครื่องข้ามปีคดีไม่คืบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อวานนี้ (22 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งร้องเรียนจาก นายต่อ อายุ 45 ปี นักธุรกิจหนุ่มในจังหวัดเชียงใหม่ ขอให้สื่อช่วยติดตามความคืบหน้าคดีที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำคาร์โก้สายการบินชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ ก่อเหตุขโมยพระเครื่องมูลค่าเกือบ 6 แสนบาท ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2560 แต่ถึงขณะนี้คดีไม่มีความคืบหน้าใดๆ

นายต่อ เปิดเผยว่า ตนได้ให้เพื่อนส่งพระเครื่องจำนวน 7 องค์ มาจากอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2560 แต่เมื่อของมาถึง ตนยังไม่ได้เดินทางไปรับเนื่องจากติดธุระที่กรุงเทพมหานคร จึงได้เดินทางไปรับในวันที่ 10 พฤษภาคม 2560 แทน

ขณะไปเซ็นต์รับของที่คาร์โก้ พบสภาพกล่องพัสดุมีรอยห่อไม่เรียบร้อย จึงได้ถ่ายรูปเก็บไว้และได้ถ่ายส่งไปยังต้นทางที่ส่งมาพร้อมกับตำหนิต่อว่า กระทั่งกลับมาบ้านพักได้แกะดูในกล่อง พบมีพระเครื่องเหลือเพียงองค์เดียว จึงโทรศัพท์ไปสอบถามผู้ส่ง ได้รับการยืนยันว่าส่งพระเครื่องทั้งหมด 7 องค์ และเช็คเงินสดการันตีสินค้าอีก 250,000 บาท ที่มาพร้อมกันในกล่อง แต่ต้นทางยืนยันว่าส่งมาหมดแล้ว

ในเวลาต่อมาทราบข้อมูลว่า มีชายคนหนึ่งพยายามนำเช็คที่หายไป ไปขึ้นเงินที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่ ถึง 2 รอบ แต่ทางธนาคารพบผิดสังเกตจึงได้อายัดไว้ ทำให้เชื่อว่าจะมีการขโมยสินค้าเกิดขึ้น ตนเองจึงได้เข้าไปติดต่อที่บริษัทคาร์โก้ แจ้งว่ามีพระเครื่องหายไป 6 องค์ รวมมูลค่าประมาณ 4 แสนบาท พร้อมเช็คเงินสดอีกสองแสนห้าหมื่นบาท

เมื่อเจ้าหน้าที่คาร์โก้ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด จึงพบว่ามีพนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทเอกชนที่รับสัมปทาน เป็นคนแกะกล่องขโมยพระเครื่องและเช็คไป ตนจึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2560 เพื่อให้ขอภาพจากกล้องวงจรปิดและเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี พร้อมกับทำหนังสือถึงบริษัทคาร์โก้สายการบิน และ บริษัทรักษาความปลอดภัยต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ก่อเหตุ

เจ้าหน้าที่คาร์โก้ได้ติดตามพระเครื่องได้ 2 องค์ ที่พบว่า รปภ.ผู้ก่อเหตุ ได้นำไปขายให้กับคนในบริษัท เป็นหลวงปู่ทวดและพระเนื้อว่าน มูลค่ารวม 200,000 บาท แต่ถูกนำไปขายในราคา 200 บาท ซึ่งผ่านมาปีกว่าๆ ตนก็ยังไม่ได้รับพระเครื่องทั้ง 2 องค์คืนจากคาร์โก้

เช่นเดียวกับคดีความที่ไม่มีความคืบหน้าจึงตัดสินใจร้องเรียนกับสื่อมวลชน เพราะต้องการของคืนและไม่ต้องการให้ลูกค้ารายอื่นประสบปัญหาลักษณะนี้อีก

กระทั่งล่าสุด นายต่อได้เข้าพบเจ้าหน้าที่บริษัทคาร์โก้ เพื่อสอบถามความคืบหน้า ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้มอบพระเครื่องที่ติดตามมาได้ 2 องค์ มามอบคืนให้ แต่ก็พบว่าจากเดิมเคยเหลี่ยมกรอบทองสองบาทถูกแกะไปขายแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ชี้แจงว่า ที่ผ่านมาทางคาร์โก้ไม่ได้นิ่งเฉย โดยได้ส่งจดหมายไปตามที่อยู่ในบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อให้มารับของคืนและยืนเรื่องเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายกับบริษัทรักษาความปลอดภัยดังกล่าว แต่ไม่มีการติดต่อกลับ

นายต่อ กล่าวว่า ไม่ได้ติดใจกับค่าเสียหายที่ได้เพียง 5,000 บาท ซึ่งเทียบไม่ได้กับมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกขโมยไป แต่สาเหตุที่ออกมาร้องเรียน เพราะต้องการให้ทางบริษัทมีความกระตือรือร้นในการออกมาแสดงความรับผิดชอบ รวมทั้งขอให้ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook