นักธุรกิจเมืองคอนพา 7 ชีวิตหนีตายข้ามจังหวัด หลังถูก "ลูกเขย" ไล่ล่าขู่ฆ่ายกครัว

วันที่ 22 สิงหาคม 2561 ที่ศาลากลางจังหวัดตรัง มีชาวบ้านจากจังหวัดนครศรีธรรมราชหนึ่งครอบครัว ประกอบด้วย นายสำเร็จ อายุ 79 ปี ซึ่งประกอบอาชีพเป็นเกษตรกรและนักธุรกิจส่งออกส้มโอ “ทับทิมสยาม” รายใหญ่ ชาว อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมครอบครัว ซึ่งประกอบด้วย ภรรยา ลูกสาวอีก 2 คน และหลานชาย วัย 15 ปี และหลานสาวฝาแฝด วัย 10 ปี รวม 7 ชีวิต ต้องหลบหนีตายอย่างหัวซุกหัวซุนข้ามจังหวัดจากจังหวัดนครศรีธรรมราชมุ่งหน้ามาที่จังหวัดตรัง เพื่อขอความช่วยเหลือจาก นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง โดยที่เกษตรกรและครอบครัวนี้ รู้จักกับนายศิริพัฒ พัฒกุล ครั้งที่เป็นรองผู้ว่านครศรีธรรมราช เชื่อว่าผู้ว่าฯตรังจะให้การช่วยเหลือคุ้มครองได้ เพราะหากร้องขอความเป็นธรรมที่นครศรีธรรมราชจะไม่ได้รับความปลอดภัย

โดยเล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังว่า ถูกนายวิรัตน์ อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นลูกเขย และสามีของนางกมลทิพย์ และเป็นพ่อของลูกชาย,ลูกสาวฝาแฝดทั้ง 3 คน และเป็นคนที่มีชื่อเสียงและกว้างขวางคนหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช และมีตำแหน่งเป็นคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) สภ.ปากพนัง ทำร้ายร่างกายทั้งการตบตีภรรยา จ่อยิงแต่กระสุนปืนด้าน ข่มขู่ฆ่าลูก พ่อตา แม่ยาย และทุกคนให้ตายยกครัวมายาวนานหลายปี สาเหตุเพราะติดยาเสพติดอย่างรุนแรงมายาวนาน จนเกิดอาการหลอน และหวาดระแวงคนในครอบครัว จนสั่งห้ามไม่ยอมให้ทุกคนออกไปธุระนอกบ้านหากไม่จำเป็น เด็กๆไม่ได้เรียนพิเศษ และทำให้ทั้งหมดอยู่ในอาการหวาดกลัวและยอมจำนนมายาวนาน

จนกระทั่งได้ก่อเหตุล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา นายวิรัตน์ ลากตัวนางกมลทิพย์ ภรรยา ขึ้นรถกลับบ้านระหว่างที่ภรรยาออกไปรับลูกที่โรงเรียน จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนตบตี และใช้อาวุธปืนจ่อศีรษะลากตัวกลับมาทำร้ายร่างกายภายในบ้าน รวมทั้งอาวุธมีดจี้ที่บริเวณคอจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่โชคดีนายวิรัตน์รีบออกไปทำธุระนอกบ้านหลังจากได้รับโทรศัพท์ พร้อมกับข่มขู่ก่อนออกจากบ้านว่า กลับมาจะยิงทิ้งทั้งครอบครัวรอให้ลูกๆ กลับมาพร้อมหน้ากันก่อน

จากนั้นทุกคนในครอบครัว นำโดยนายสำเร็จ ก็ได้อาศัยจังหวะดังกล่าวรีบพาทุกคนในครอบครัวหนีออกจากบ้านด้วยเสื้อผ้าชุดเดียว ขณะที่เด็กๆ ก็หนีออกมาทั้งชุดนักเรียน จากนั้นได้พานางกมลทิพย์ไปตรวจร่างกายพบบริเวณใบหน้าได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก และเข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.ปากพนัง ในข้อหาทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่า แต่จนถึงขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ดำเนินการใดๆ กับนายวิรัตน์ผู้ก่อเหตุ จากนั้นทั้งหมดก็พากันหลบหนีไปเรื่อยๆ โดยที่เด็กๆ ต้องขาดเรียนมาแล้วเป็นเวลานานนับสัปดาห์ โดยที่นายวิรัตน์ พร้อมพวกได้ใช้ความพยายามติดตาม และส่งข้อความหาลูกๆ เป็นระยะว่าจะฆ่าทิ้งให้หมด

จนกระทั่งเมื่อเย็นวานนี้ (21 สค.) ตามไปจนพบแหล่งกบดานของทุกคนในครอบครัวในพื้นที่ อ.ปากพนัง ทั้งหมดจึงออกหนีอีกครั้ง และหนีเข้ามาในจังหวัดตรัง เพื่อร้องขอความช่วยเหลือจากนายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดตรังได้สั่งการให้นายพงษ์ศักดิ์ คารวานนท์ ปลัดจังหวัดตรัง พร้อมด้วย พ.อ.พิชิต โชติแก้ว รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดตรัง และนายณัฐวุฒิ สังข์สุข ป้องกันจังหวัดตรัง เร่งหาทางคุ้มครองช่วยเหลือ จากนั้นทางจังหวัดตรังได้เร่งประสานไปยังมณฑลทหารบกที่ 41 จังหวัดนครศรีธรรมราช และนำตัวทั้งหมดไปรับการคุ้มครองที่ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์จังหวัดตรังต่อไป