“แม่สปาย” สุดช้ำ ถูก “เสี่ยอ้วน” กล่าวหารับเงินล้าน เสียใจ “แม่ฟอส” ตัดญาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (23 ส.ค.) ที่บ้านเลขที่ 98 หมู่ที่ 1 บ้านนาตาล ตำบลนาตาล อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านน้องสปาย ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปพบ นางวันเพ็ญ แม่น้องสปาย ซึ่งยังอยู่ในอาการเศร้าสลดและตกใจในคำให้การของ “เสี่ยอ้วน” ที่อ้างในทำนองว่า ครอบครัวของตนไปหลอกเอาเงินของ “เสี่ยอ้วน” จนเป็นเหตุให้มีการยิงน้องสปายนั้น
>> "เสี่ยอ้วน" พูดเองจากปาก เปย์ "น้องสปาย" ไป 7 ล้าน มีหลักฐานโอนเงินทุกอย่าง
นางวันเพ็ญ ยืนยันว่า ครอบครัวไม่มีพฤติกรรมหลอกลวงแต่มีความหวาดกลัว “เสี่ยอ้วน” เพราะเป็นเรื่องระหว่างน้องสปายกับเสี่ยอ้วนเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ที่แน่ๆ คือ ลูกสาวของตนไม่ยอมที่จะแต่งงานด้วย เพราะไม่สามารถทนความป่าเถื่อนของเสี่ยอ้วนได้ ในกรณีที่เสี่ยอ้วนกล่าวอ้างนั้นทำให้ครอบครัวรู้สึกเสียใจและบอบช้ำมาก
นางวันเพ็ญ กล่าวต่อว่า ตนยังคงยืนยันว่า ครอบครัวได้รับการโอนเงินจากเสี่ยอ้วนจริง เป็นจำนวนเงิน 1 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านั้นก็ได้ปฏิเสธแต่เสี่ยอ้วนต้องการที่จะโอนให้โดยเสน่หา เพราะจะนำเงินดังกล่าวไปซื้อรถและได้ซื้อไปแล้ว อีกทั้งภายหลังจากเกิดเหตุเงินจำนวนดังกล่าวก็ถูกใช้ไปกับการจัดงานศพให้น้องสปาย
และว่า ขณะนี้บัญชีทางการเงินของครอบครัว มีจำนวน 3 ธนาคาร คือ 1.ธนาคาร ธ.ก.ส.เป็นบัญชีของตน 2.บัญชีธนาคารธนชาติ เป็นบัญชีของพ่อน้องสปาย และ 3. เป็นบัญชีธนาคารธนชาติ ซึ่งเป็นของน้องสปายที่เปิดได้เพียง 1 เดือนแล้วก็ถูกยิงเสียชีวิต ยังคงมีเงินจำนวน 300,000 บาท ทั้งหมดสามารถตรวจสอบได้ที่พนักงานสอบสวน และคงจะไปพิสูจน์กันในชั้นศาลต่อไปว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
กรณีที่เสี่ยอ้วน อ้างว่า ครอบครัวได้ไปหลอกให้โอนเงินนั้น ยืนยันไม่เป็นความจริง ตนและลูกสาวไม่เคยคิดที่จะหลอกใคร แต่ยืนยันว่าพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงต่างหาก ที่ไม่สามารถจะทำให้ น้องสปาย ยอมรับที่จะไปแต่งงานได้ เพราะก่อนที่จะออกจากที่ทำงาน พฤติกรรมที่หึงรุนแรงของเสี่ยอ้วน ก็คือ การเดินเข้าไปบีบคอน้องสปายถึงในกลุ่มเพื่อนที่นั่งเล่นกันอยู่
น้องสปาย จึงตัดสินใจออกจากงานที่ทำกับเสี่ยอ้วน และไปเริ่มต้นใหม่ที่จังหวัดนครปฐม และภายหลังที่ลาออก “เสี่ยอ้วน” ก็เคยโทรศัพท์มาหาตนเพื่อต้องการที่จะให้น้องสปายกลับไปทำงานที่เดิม และตลอดเวลาตนก็ได้อธิบายถึงเหตุผลที่น้องสปายไม่ต้องการที่จะกลับไปทำงาน แต่เสี่ยอ้วนก็ไม่ยอมและยังคงโทรมาตลอดเพื่อขอคุยกับน้องสปายและแม่ ซึ่งก็ไม่เคยมาที่จังหวัดกาฬสินธุ์
กรณีที่เสี่ยอ้วน อ้างว่าได้สร้างบ้านให้สปายที่กาฬสินธุ์ นางวันเพ็ญ ยืนยันว่า บ้านหลังนี้เป็นน้ำพักน้ำแรงของครอบครัว อีกทั้งเป็นเงินที่ได้จากการถูกรางวัลฉลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นเงิน 200,000 บาท เงินที่พ่อของตนตายจากเงินฌาปนกิจ 400,000 บาท และเงินขายโรงสีเล็กเป็นเครื่องจักรเป็นเงิน 90,000 บาท ที่ใช้ปรับปรุงบ้านใหม่
อีกทั้งบ้านหลังนี้ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จก่อนที่น้องสปายจะไปทำงานกับเสี่ยอ้วนอีก ดังนั้นที่อ้างว่ามาสร้างบ้านให้ตนนั้นไม่รู้ว่าเป็นที่ไหน ดังนั้นเมื่อเสี่ยอ้วนอ้างว่าเป็นการนำเงินมาสร้างที่บ้านน้องสปายยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
กรณีแม่น้องฟอส ออกมาบอกว่าตัดญาติกันนั้น นางวันเพ็ญ เปิดเผยว่า ตนยิ่งรู้สึกเสียใจเพราะการสูญเสียลูกสปายและน้องฟอส ไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้นเป็นความเจ็บปวดอยู่แล้ว แต่เมื่อออกมาพูดเช่นนั้น ก็แล้วแต่ใครที่จะคิด เพราะไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร เพราะทั้งสองคนก็เสียชีวิตไปแล้วอีกทั้งสังคมก็มองว่าเรื่องนี้ สปายเป็นต้นเหตุ แต่ต้องการให้มองย้อนไปว่า “เสี่ยอ้วน” มีสิทธิอะไรที่จะต้องมาฆ่าลูกทั้งสองคน
>> "แม่ฟอส" ร่ำไห้ตัดขาด "แม่สปาย" ลูกชายตายทั้งที่ไม่เกี่ยว จี้แจงปมเงินเสี่ยอ้วน
ส่วนกรณีที่เสี่ยอ้วน ออกมาบอกว่าต้องการที่จะยิงตนมากกว่านั้นยิ่งทำให้รู้สึกเสียใจและกลัวมาก เพราะเสี่ยอ้วน มีทั้งเงินและอิทธิพล แต่เมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก็ขอให้ตำรวจดำเนินการลงโทษให้ถึงที่สุด
และสิ่งสำคัญที่สุดในข่าวขณะนี้ ก็ขอให้สงสารและนึกถึงตนและน้องสปายและน้องฟอสที่เสียชีวิตไปแล้ว ว่าทั้งสองคนที่ตายไม่สามารถพูดได้แต่คนที่เป็นฆาตกรมาให้ข้อมูล เชื่อว่าความจริงก็คือความจริงที่จะเห็นในไม่ช้า
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ