ไม่เชื่อหมอ! คลื่นมนุษย์ยังแห่รับ “อังกาบหนู” เผยความหวังสุดท้ายคนป่วยมะเร็ง

( 23 ส.ค. 61 )  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่ศาลาอเนกประสงค์วัดดาวลอย หมู่ที่ 5 ตำบลปากท่อ อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี เต็มไปด้วยประชาชนที่เดินทางมาจากทั่วสารทิศมายืนเข้าแถวต่อคิวเพื่อรับต้นอังกาบหนูฟรี จากทางผู้นำชุมชนและชาวบ้านจากชุมชนดาวลอยร่วมกับชุมชนวังมะนาว อำเภอปากท่อ ที่ได้ไปขอรับบริจาค จากชาวบ้านในชุมชนที่มีการปลูกไว้ หรือ ที่ดินที่มีต้นอังกาบหนูเกิดขึ้นตามธรรมชาติ

และจากการออกหาตามป่าเขาในพื้นที่อำเภอปากท่อ และรวบรวมเพื่อนำมาแจกจ่ายให้กับประชาชนที่มาเฝ้ารอด้วยความหวัง แม้จะมีกระแสข่าวที่ออกมาเผยแพร่จากทางแพทย์แผนไทย หรือ ผู้เชี่ยวชาญที่มาให้ข้อมูลว่า ต้นอังกาบหนูไม่สามารถรักษามะเร็งได้จริง

ซึ่งก่อนหน้านี้มีประชาชนที่ทราบข่าวจากสื่อต่างๆ โดยเฉพาะโลกโซเชียลว่า พบต้นอังกาบหนูที่บริเวณป่ารกข้างโรงเรียนอนุบาลปากท่อ วัดดาวลอย หมู่ 5 ตำบลปากท่อ อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นของ นางสาวละเมียด อายุ 70 ปี และเป็นผู้ถือศีลในวัดแห่งหนึ่งในอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เจ้าของที่ดินจำนวน 14 ไร่ แห่กันเดินทางมาเก็บต้นอังกาบหนู 

โดยทุกคนที่มาเก็บต้นอังกาบหนูนั้นมีความเชื่อว่า สามารถรักษามะเร็งได้ และที่ผ่านมามีผู้เคยเด็ดเอาใบของต้นอังกาบหนูไปรับประทานและผลปรากฏอาการดีขึ้นโรคมะเร็งเริ่มหายไป ด้วยการที่เป็นกระแสแรงถึงสรรพคุณที่สามารถรักษาโรคมะเร็งได้ แม้จะไม่มีการยืนยันจากทางการแพทย์ว่า สามารถรักษาได้จริง ทำให้ต้นอังกาบหนูหมดเกลี้ยงจนไม่เหลือแม้แต่ต้นเดียว

ล่าสุด  ( 23 ส.ค. 61 )  ยายละเมียด และครอบครัว ได้นำเครื่องเส้นไหว้ ไปทำพิธีเส้นไหว้เจ้าที่เจ้าทาง และนิมนต์พระสงฆ์จากวัดดาวลอยจำนวน 5 รูป ไปเจริญพุทธมนต์และทำบุญที่ พร้อมทั้งถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ จากนั้นได้นำเงินที่ได้รับการบริจาคจากประชาชนที่เดินทางมาเก็บต้นอังกาบหนู จำนวน 15,000 บาท จากนั้นได้นำเงินส่วนที่ 2 จำนวน 10,000 บาท มอบให้กับโรงพยาบาลปากท่อ เพื่อจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ของทางโรงพยาบาล

ส่วนยอดเงินส่วนที่ 3 จำนวน 20,590 บาท นำไปทำบุญและถวาย ณ วัดสัตบรรพรต (วันต้นงิ้ว) อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตามความประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ หลังเสร็จพิธี ญาติๆ ได้นำเชือกมากั้นพร้อมทั้งนำป้ายเขียนข้อความ “ห้ามเข้าในพื้นที่เด็ดขาด เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล”  หลังจากพื้นที่นี้ต้นอังกาบหนูหมดเกลี้ยง

สำหรับบรรยากาศการแจกต้นอังกาบหนูฟรีให้กับประชาชนที่เดินทางมารับที่วัดดาวลอย ทางผู้นำชุมชน โดย นายประเสริฐ  อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ตำบลปากท่อ ได้จัดทีมงานแบ่งชุดผู้รับ โดยแบ่งเป็นผู้ที่ป่วยด้วยโรคมะเร็ง และ ญาติที่มารอรับเพื่อนำไปให้ผู้ป่วยที่บ้าน ด้วยการเข้าเป็นแถวเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย

โดยผู้ที่มารับจะได้ใบสดเพื่อนำไปต้มรับประทาน และสามารถนำไปเพาะชำได้ พร้อมกันนี้ทางเจ้าหน้าที่ อสม. ได้ประกาศชี้แจงประชาชนที่มารอรับถึงวิธีการนำใบอังกาบหนูไปต้มรับประทาน และข้อมูลจากทางนักวิชาการและแพทย์แผนไทยที่ระบุว่า ไม่สามารถรักษาโรคมะเร็งได้ และใครที่จะรับไปรับประทานให้รักษาควบคู่กับการรักษาของแพทย์ปัจจุบันด้วย แต่ผู้ที่เดินทางมารับยืนยันว่าต้องการนำไปเป็นทางเลือกในการรักษา

นางดำ  วัย 73 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร ผู้ป่วยโรคมะเร็ง กล่าวว่า ตนเองเดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร หลังจากทราบข่าวจากสื่อ ว่าที่วัดดาวลอยมีต้นอังกาบหนู แต่เดินทางมาถึงปรากฏว่าที่ดินโล่งเปล่าและมีเชือกกั้น แต่มีชาวบ้านมาบอกว่าเวลา 17.00 น. วันนี้ จะมีแจกให้ประชาชนฟรีภายในวัดดาวลอยตนจึงได้เดินทางเข้ามาต่อคิวและได้รับต้นและใบอังกาบหนูไปต้มดื่มรับประทาน ซึ่งตนเองป่วยเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกระยะแรก ซึ่งก็ยังไม่ทราบว่าต้นอังกาบหนูนั้นไม่สามารถรักษาโรคมะเร็งได้จากข้อมูลของแพทย์ แต่ตนเองก็อยากหายจึงอยากมาลองนำไปต้มดื่มรักษาดูแต่ก็จะรักษาตามแพทย์สั่งด้วย

ขณะที่น น.ส. นาง สีจันทร์ อายุ 51 ปี ชาวบ้านหนองขุ่น ตำบลโนนงาม อำเภอประทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า หลังจากที่ตนเองติดตามข่าวจากเฟซบุ๊กของเพจ “ตาเป้ – ข่าวราชบุรี”  ว่า ที่ป่าข้างวัดดาวลอย อำเภอปากท่อ มีต้นอังกาบหนู จึงตัดสินใจเดินทางมาพร้อมด้วยสามี เพื่อนำต้นอังกาบหนูไปให้ญาติซึ่งเป็นคนแก่ที่อยู่ข้างบ้าน ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ระยะที่ 3 และกำลังรักษาตัวที่โรงพยาบาล เห็นข่าวว่า มีผู้ที่ดื่มต้นอังกาบหนูแล้วหายจึงได้เดินทางมาเอา มาแบบมีความหวังว่าจะได้ต้นอังกาบหนูกลับไปด้วย

แต่เนื่องจากมาถึงที่ดังกล่าวปรากฏ ว่า ไม่เหลือสักต้นเดียว แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ อสม.รพสต.บ้านหนองวัวดำ อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ทราบข่าวจึงได้นำมาให้โดยนำใบสดและต้นเพื่อนำไปปักชำให้กับตนเองทำให้ตนมาด้วยความหวังและจะเดินทางกลับบ้านทันที

ส่วนที่มีข่าวว่า ไม่สามารถรักษาได้นั้น ตอนนี้ยังไม่เลิกล้มความตั้งใจ ยากนำไปลองให้ผู้ป่วยต้มรับประทานเพราะเป็นความหวังครั้งสุดท้าย ถ้าหายก็อยากให้เขามีชีวิตยืนยาวต่อไป ถึงไม่นำไปต้มดื่มไม่ช้าก็เร็วก็ต้องตายอยู่ดี ทุกอย่างก็ต้องลองดูเพราะเป็นทางเลือกในการรักษา

สำหรับข้อมูลของ ต้นอังกาบหนูนั้น หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Barleria prionitis L. เป็นพืชในวงศ์ ACANTHACEAE ภาษาอังกฤษ เรียก Porcupine flower ไม้พุ่มขนาดเล็ก สูง 1-1.5 เมตร ตามโคนต้นจะมีหนามแหลมยาวประมาณครึ่งเซนติเมตร กิ่งก้านของต้นอังกาบหนูจะแตกออกไปรอบๆ ต้น ส่วนใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกันเป็นคู่ๆ

ลักษณะของใบเป็นทรงรี ปลายและโคนใบจะแหลม ส่วนกลางใบจะกว้างประมาณ 0.5-1 นิ้ว ยาว 1.5-2 นิ้ว ขอบใบเรียบ มีสีเขียวอ่อน ออกดอกเป็นช่อค่อนข้างแน่น ดอกมีหลายสีทั้งสีเหลืองสด สีฟ้า สีขาว สีม่วงอ่อนแกมชมพู