"แม่ฟอส" แก้ข่าว ไม่คิดตัดขาดครอบครัว "สปาย" ยังไงลูกก็ตายไปแล้วทั้งคู่

"แม่ฟอส" แก้ข่าว ไม่คิดตัดขาดครอบครัว "สปาย" ยังไงลูกก็ตายไปแล้วทั้งคู่

"แม่ฟอส" แก้ข่าว ไม่คิดตัดขาดครอบครัว "สปาย" ยังไงลูกก็ตายไปแล้วทั้งคู่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีคนร้ายก่อเหตุอุกฉกรรจ์ใช้อาวุธปืนยิง นายอนันตชัย หรือ ฟอส อายุ 20 ปี และ น.ส.ปวีณา หรือ สปาย อายุ 20 ปี ชาวอำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ จนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2561 ที่ลานจอดรถฝั่งตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเข้าชีจรรย์ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายได้ทั้งหมด โดยเฉพาะเสี่ยอ้วน ได้ส่งตัวฝากขังดำเนินคดีไปแล้วแต่เกิดเรื่องดราม่า เมื่อฆาตกร “เสี่ยอ้วน”ออกมาพูดในทำนองแฉว่าครอบครัวน้องสปายเอาเงินของตนไปกว่า 7 ล้านบาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

>> "เสี่ยอ้วน" พูดเองจากปาก เปย์ "น้องสปาย" ไป 7 ล้าน มีหลักฐานโอนเงินทุกอย่าง

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 24 สิงหาคม 2561 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ รายงานว่า ขณะที่ผู้สื่อข่าวนำรถไปซ่อมภายในศูนย์รถยนต์แห่งหนึ่งในเขตอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ได้ไปพบกับ นางจอมศรี อายุ 43 ปี แม่ของ น้องฟอส โดยบังเอิญ และจากการสอบถามทราบว่า ครอบครัวน้องฟอส เพิ่งจะเดินทางกลับมาถึงจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่อำเภอท่าคันโท เมื่อเวลา 20.00 น.ของวันที่ 23 สิงหาคม 2561 และในช่วงเช้าจึงได้เดินทางเข้ามาเพื่อนำรถเก๋งมาซ่อมเนื่องจากไฟหน้าแตก และพูดทันทีว่าคำพูดที่สัมภาษณ์ว่า อยู่ใครอยู่มัน ในความรู้สึกนั้นหมายถึงต่างคนต่างอยู่แยกย้ายกันทำมาหากิน ไม่ใช่ตัดขาดกัน

>> "แม่ฟอส" ร่ำไห้ตัดขาด "แม่สปาย" ลูกชายตายทั้งที่ไม่เกี่ยว

นางจอมศรี แม่น้องฟอส ได้ยืนยันว่า คำพูดดังกล่าวไม่ได้หมายถึงว่า ระหว่างครอบครัวของตนกับน้องสปาย จะตัดขาดกัน แต่หมายถึงว่า หลังเกิดเหตุแล้ว ต่อไปก็คงต่างตนต่างอยู่ เพราะต้องแยกย้ายกันไปทำมาหากิน ไม่ได้หมายความว่าครอบครัวตัดขาดกันแต่อย่างใด เพราะยังคงยืนยันว่า เด็กทั้งสองคนเติบโตมาด้วยกัน และระหว่างทั้งสองครอบครัวก็มีความผูกพันกันเป็นญาติสนิทที่อยู่ร่วมกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่

“ตนไม่มีความคิดว่าจะตัดขาดกันเลย แต่จะเป็นการให้กำลังใจกันมากกว่าเพราะตนก็เสียลูกชาย ส่วนครอบครัวนาเมืองรักษ์ ก็สูญเสียน้องสปายซึ่งทั้งสองครอบครัวก็เจ็บช้ำพอกันอยู่แล้ว ต่อไปก็จะมีการความเป็นห่วงซึ่งกันและกันมากกว่ายืนยันว่าแปลความหมายกันผิดไปเอง”

นางจอมศรี กล่าวต่อว่า ในส่วนที่มีประเด็นเรื่องเงิน 7 ล้านบาท ซึ่งเสี่ยอ้วนอ้างว่าได้นำไปให้น้องสปาย เรื่องนี้ไม่ขอพูดถึงเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว อีกทั้งในมุมมอง น้องสปาย ก็เสียชีวิตไปแล้ว แต่ “เสี่ยอ้วน” ซึ่งเป็นฆาตกรก็คงต้องหาวิธีเอาตัวรอดจะพูดยังไงก็ได้ ต่อไปตนไม่ขอพูดถึงอีกเพราะนับจากนี้หลังจากที่น้องฟอส ลูกชายได้ตายไปแล้ว ชีวิตก็คงจะต้องกลับมาทำงานอีกครั้ง ซึ่งก็จะเป็นแม่บ้านดูแลบ้านให้พี่สาว ก็คงจะต้องดิ้นรนไปจนกว่าจะหมดลมหายใจ

“สุดท้ายก็ขอกราบขอบคุณสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวจนสามารถจับกุมคนร้ายมาได้ทั้งหมด และขอกราบขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับกุมตัวคนร้ายมาได้ ขอกราบขอบพระคุณด้วยใจจริง” นางจอมศรี แม่น้องฟอสกล่าว

ขณะที่ นายสุพิน พ่อน้องฟอส ได้ออกมาพูดคุยกับสื่อในครั้งแรกโดยบอกว่าสาเหตุที่ไม่พูดก็เพราะรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด และว่าตั้งแต่รู้ข่าวตนเองซึ่งเป็นคนคิดมากอยู่แล้วและกินยาจิตเวช ก็ล้มชักบนพื้นดินหน้าบ้านและได้ไปกัดลิ้นของตัวเองเกือบขาด โดยได้แสดงบาดแผลให้กับสื่อมวลชนดูด้วย จากนั้นก็ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้กับครอบครัว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook