รอดปาฏิหาริย์! กระบะชนรถบรรทุกพ่วง สภาพรถพังยับไม่มีชิ้นดี เหลือเชื่อคนขับแค่บาดเจ็บ

รอดปาฏิหาริย์! กระบะชนรถบรรทุกพ่วง สภาพรถพังยับไม่มีชิ้นดี เหลือเชื่อคนขับแค่บาดเจ็บ

รอดปาฏิหาริย์! กระบะชนรถบรรทุกพ่วง สภาพรถพังยับไม่มีชิ้นดี เหลือเชื่อคนขับแค่บาดเจ็บ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันที่ 24 ส.ค. 61 อาสาฯ กู้ภัยฮุก 31 ยโสธร ต้องเร่งช่วยกันนำเครื่องตัดถ่างเข้าไปตัดซากรถกระบะและช่วยกันงัดเอาตัวคนขับรถ ซึ่งได้รับบาดเจ็บติดคาซากรถบริเวณที่นั่งคนขับ หลังจากเกิดอุบัติเหตุรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ผข-5285 เชียงราย ที่บรรทุกมะเขือเทศมาเต็มคันรถ

ชนเข้ากับด้านข้างฝั่งซ้ายของตัวพ่วง รถบรรทุกพ่วง ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นเดกก้า สีขาว ทะเบียน 82-5327 ศรีสะเกษ และตัวพ่วงหมายเลขทะเบียน 82-5328 ศรีสะเกษ ซึ่งบรรทุกปูนซีเมนต์มาเต็มคันรถเช่นกัน จนทำให้รถกระบะบริเวณส่วนหน้ารถได้รับความเสียหายพังยับเยิน และยุบเข้ามาจนถึงห้องโดยสารอัดก๊อบปี้คนขับติดคาซากรถ

ทราบชื่อคนขับรถกระบะ คือ นายธนวัฒน์ ชัยวงศ์ อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดลำพูน อาสาฯ กู้ภัยต้องใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงสามารถงัดเอาตัวคนขับรถออกจากซากรถได้ก่อนจะนำตัวส่งไปรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลยโสธรล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว

ส่วนรถบรรทุกพ่วงได้รับความเสียหายบริเวณด้านข้างตัวพ่วงเล็กน้อย ทราบชื่อคนขับคือ นายเนรมิต ท้าวแก้ว อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 4 ตำบลห้วยเหนือ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ เหตุเกิดที่บริเวณสามแยกบายพาสศาลาแดง ถนนแจ้งสนิทตัดกับถนนบายพาสเลี่ยงเมืองยโสธร

จากการสอบถาม นายเนรมิต ท้าวแก้ว คนขับรถบรรทุกพ่วง บอกว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถบรรทุกปูนซีเมนต์มาเต็มคันรถมาตามถนนแจ้งสนิท จากทางจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อมุ่งหน้าเข้าจังหวัดยโสธร

แต่พอไปถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบริเวณสามแยกบายพาสศาลาแดง ตำบลตาดทอง อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร ขณะนั้นเป็นสัญญาณไฟกะพริบตนจึงได้ขับรถเลี้ยวขวา เพื่อไปตามถนนเลี่ยงเมืองยโสธร

ในขณะที่รถของตนกำลังจะผ่านสามแยกไปได้ มีรถกระบะคู่กรณีที่วิ่งมาตามถนนแจ้งสนิทจากในตัวเมืองยโสธร เพื่อมุ่งหน้าไปทางจังหวัดอุบลราชธานีด้วยความเร็วสูง และได้พุ่งชนเข้ากับบริเวณด้านข้างตัวพ่วงรถของตนอย่างแรงเสียงดังสนั่น จนทำให้รถกระบะได้รับความเสียหาย และมีคนขับได้รับบาดเจ็บติดคาซากรถดังกล่าว

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนคนขับรถทั้งสองคันให้ละเอียดอีกครั้ง ว่าใครผิดใครถูกก่อนที่จะได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook