แม่บ้านตัวแสบย่องสมัครงาน-รื้อห้องแขกโรงแรม ปล้นจนซื้อรถขับได้

แม่บ้านตัวแสบย่องสมัครงาน-รื้อห้องแขกโรงแรม ปล้นจนซื้อรถขับได้

แม่บ้านตัวแสบย่องสมัครงาน-รื้อห้องแขกโรงแรม ปล้นจนซื้อรถขับได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(25 ส.ค.) พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วย พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันสีห์ สว.สส.สภ.เมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมแถลงข่าวการจับกุม น.ส.พิมศิริ อายุ 26 ปี พร้อมของกลางต่างๆ ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำขาว 1 เส้น สร้อยคอนาคพร้อมจี้ 1 เส้น รถยนต์ฮอนด้า สีเขียว ซึ่งผู้ต้องหารับว่าได้นำเงินที่ได้จากการกระทำผิดไปซื้อในราคา 50,000 บาท โดยจับกุมในข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน ตามหมายจับศาลพัทยาที่ จ.345/2561 ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2561

สืบเนื่องจากพฤติกรรมตามที่เป็นข่าวในสังคมออนไลน์ว่า เมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา นางเทรซี่ อายุ 48 ปี สัญชาติอเมริกา เข้าความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุได้เข้าไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ภายในซอยบัวขาว ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยเก็บทรัพย์สินมีค่าต่างๆ จำพวก สร้อยคอทองคำ แหวนเพชร และเงินสกุลต่างๆ รวมราคาประมาณ 464,000 บาท เอาไว้ภายในห้องพัก

หลังจากนั้นได้ออกจากห้องพักไปข้างหน้า เมื่อกลับเข้ามาภายในห้องอีกครั้ง ก็พบว่ามีร่องรอยการรื้อค้น ตรวจสอบพบว่าทรัพย์สินหายไปหลายรายการ หลังเกิดเหตุสืบสวนเวรได้ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุและกล้องวงจรปิดภายในโรงแรมพบผู้ก่อเหตุเป็นแม่บ้านของโรงแรม แต่ได้หลบหนีไปแล้ว จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้พนักงานสอบสวนขอศาลออกหมายจับ พร้อมออกสืบสวนติดตามตลอดมา

โดยได้ติดตามไปที่ภูมิลำเนาของผู้ต้องหาที่จังหวัดนครสวรรค์ แต่ก็เกิดคลาดกัน ก่อนจะรับแจ้งจากญาติว่าได้หนีกลับมาอยู่ที่เมืองพัทยา เจ้าหน้าที่จึงได้ออกสืบสวนตลอดมา แต่เนื่องจากผู้ต้องหานี้ระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา มีการเปลี่ยนที่อยู่บ่อยๆ

ต่อมาเมื่อวานนี้ (24 ส.ค.) ทราบว่าผู้ต้องหานี้ได้หลบหนีไปอยู่ที่ห้องเช่าในท้องที่ สภ.หนองปรือ จึงนำกำลังไปตรวจสอบและสามารถจับกุมตัวได้พร้อมด้วยของกลางดังกล่าวข้างต้น จากการสอบถามผู้ต้องหารับว่าก่อนหน้านี้เคยก่อเหตุลักทรัพย์ในโรงแรมต่างๆ ในเมืองพัทยามาแล้วหลายครั้ง

โดยจะทำทีมาสมัครเป็นแม่บ้านของโรงแรม ใช้ที่อยู่สมมติขึ้นในการเขียนใบสมัคร จากนั้นก็จะใช้จังหวะและโอกาสที่ผู้เสียหายเผลอ เข้าไปลักทรัพย์แล้วหลบหนีไป หรือบางครั้งหากถูกจับได้ก็จะเจรจากับผู้เสียหายเพื่อขอชดใช้คืนให้ จึงไม่มีผู้ใดมาร้องทุกข์

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมพบว่ามีคดียักยอกทรัพย์ในพื้นที่ สน.ชนะสงคราม เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2561 ด้วย หลังจากนั้นได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ ก่อนส่งดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook