ปชช. หวั่น ปรับ 50,000 ไม่พกใบขับขี่ อาจเป็นช่องทางเรียกรับผลประโยชน์ของ จนท.
หลังจากที่กรมการขนส่ง ได้เสนอร่างกฎหมายใหม่เกี่ยวกับการเพิ่มค่าปรับกรณีประชาชนไม่มี ไม่พกใบอนุญาตขับขี่ ให้มีเพดานโทษปรับสูงสุดถึง 5 หมื่นบาท ทำให้ขณะนี้ในโซเชี่ยลมีประชาชนจำนวนมากเข้าไปแสดงความคิดเห็น และในวันนี้ทาง สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. จะมาสอบถามความคิดเห็นของประชาชนและผู้ใช้รถบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ว่าคิดเห็นอย่างไรกับร่างกฎหมายใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น
>> ระวัง! ใช้ใบขับขี่หมดอายุจ่อโดนคุก 3 เดือน ปรับอ่วม 5 หมื่นบาท
นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมขนส่งทางบก ชี้แจงถึงที่มาของ ร่างกฎหมายใหม่ ฉบับนี้ว่า เพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งที่ผ่านมาพบว่า อุบัติเหตุบนท้องถนนของไทยมีสถิติสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยมีผลจากผู้ขับขี่เป็นหลักและพบว่า เด็กที่ขับขี่ จยย. อายุน้อยที่สุดคือ 9 ขวบ ทางกรมการขนส่งทางบกจึงพิจารณาว่าควรมีการเพิ่มโทษความผิดเกี่ยวกับใบอนุญาตขับรถ โดยร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้ระบุหากผู้ขับขี่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่หรือใบอนุญาตสิ้นอายุ ถูกยึดจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากผู้ขับขี่ไม่แสดงใบอนุญาตขับขี่จะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
>> ขนส่งฯ แจงเพิ่มโทษไม่พกใบขับขี่ปรับ 5 หมื่น เพื่อสร้างวินัยหวังลดอุบัติเหตุ
ด้าน นายอัครวงค์ อายุ 63 ปี คนขับรถตู้โดยสารดส้นทางอนุสาวรีย์-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างกฎหมายใหม่ฉบับนี้ว่า ตนเองไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น เนื่องจากมีโทษค่าปรับที่สูงเกินไป ตนเองในฐานประชาชนมองว่าการเพิ่มค่าปรับสูงขึ้น อาจจะเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่ได้ใช้ในการทุจริต ซึ่งปกติตนเองก็พบเห็นอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงเห็นด้วยที่สั่งให้ตำรวจเปิดเผยใบหน้าขณะปฏิบัติหน้าที่ เพราะที่ผ่านมาเวลาถูกตำรวจเรียกตรวจ
ตนเองไม่แน่ใจว่าเป็นตำรวจจริงๆ หรือว่าโจรกันแน่เพราะมองไม่เห็นใบหน้า
ส่วนด้านว่าที่ร้อยตรีสุเทพ อายุ 51 ปี วินมอเตอร์ไซต์เขตราชเทวีได้แสดงความคิดเห็นว่า คนเองรู้สึกเห็นด้วยและสนับสนุนให้มีการปรับแก้ไขร่างกฎหมายฉบับนี้ เนื่องจากเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ของการเกิดเหตุบนท้องถนน เพราะตนเองมองว่าการขับขี่รถโดยไม่มีอนุญาตถือเป็นการทำผิดกฎหมาย และคนที่ขับขี่รถควรที่จะต้องมีความรู้และผ่านการอบรมมาก่อน ซึ่งหากประชาชนปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดก็ไม่ต้องเกรงกลัวค่าปรับที่จะเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้สำหรับร่างกฎหมายใหม่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติตามขั้นตอนกฎหมายจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการจะต้องลงประกาศในราชกิจจาฯครบ 1 ปีไปแล้ว
อัลบั้มภาพ 4 ภาพ