โดนด่า "กินแรง-ขี้ขลาด" หนุ่มคว้าชะแลงทุบเพื่อนร่วมงานหัวยุบ กลับบ้านรอตำรวจมาจับ
เมื่อเวลา 15.00 น. ( 27 ส.ค. 61) ร.ต.อ.ชัชวาล ทอนโพธิ์ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอำนาจเจริญ ได้รับแจ้งเหตุคนโดนทำร้ายจนเสียชีวิต ที่ร้านขายเสาปูน บ้านนาแต้ ม.9 ต.นาแต้ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ จึงได้รายให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนที่จะประสานไปยังเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยจังหวัดอำนาจเจริญ และแพทย์เวร รพ.อำนาจเจริญ ก่อนที่จะรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอำนาจเจริญ
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึง พบศพผู้ตายนอนจมกองเลือดอยู่ ทราบชื่อภายหลังคือ นายสมฤทธิ์ อายุ 53 ปี สภาพศพผู้ตายสวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีดำ ที่บริเวณศีรษะด้านหลังข้างซ้ายมีเลือดออกจำนวนมาก และมีบาดแผลที่ถูกทุบด้วยของแข็งจนกะโหลกศีรษะยุบเข้าไปอยู่ 2 แห่ง และที่บริเวณพื้นที่เลือดจำนวนมาก ห่างจากศพผู้ตายประมาณ 5 เมตร พบชะแลงตัดเหล็ก 1 อัน ซึ่งคาดว่าจะเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้ตีผู้ตายจนเสียชีวิต หลังจากที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บหลักฐานเรียบร้อยแล้ว จึงได้ให้เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยจังหวัดอำนาจเจริญ นำศพของผู้เสียชีวิตไปชันสูตรหาบาดแผลและสาเหตุการตายอีกครั้งหนึ่ง รพ.อำนาจเจริญ
จากการสอบถาม นางน้อย อายุ 37 ปี ภรรยาของเจ้าของร้านดังกล่าว ทำให้ทราบว่า ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุโหดในครั้งนี้คือ นายอำนวย อายุ 46 ปี ก่อนเกิดเหตุนั่น ผู้ตายกำลังซ่อมรถกับคนงานคนอื่นๆ อยู่ จากนั่นผู้ตายได้เดินมาหยิบน็อตที่โกดัง เพื่อที่จะนำไปซ่อมรถต่อ ขณะที่กำลังเดินกลับไปที่รถ จู่ๆ นายอำนวย ก็ได้ใช้ชะแลงเหล็กหกเหลี่ยม ที่วางอยู่ใกล้กับโกดัง ฟาดเข้าที่บริเวณศีรษะของผู้ตาย ก่อนที่ผู้ตายจะล้มลงไปนอนกับพื้น ตนและคนงานอื่นๆ พยายามเข้าไปช่วย แต่ก็ไม่สามารถช่วยได้เนื่องจาก นายอำนวย พยามที่ใช้ชะแลงดังกล่าวทำร้ายพวกตนเช่นกัน โดยผู้ต้องหาบอกกับพวกตนว่าผู้ตายนั่นจะทำร้ายเขา เขาจึงต้องใช้ชะแลงตีผู้ตาย จากนั่นนายอำนวย จึงได้ขับรถมอไซค์หลบหนีไป
นางน้อย เล่าต่อว่า ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหามีอาการทางประสาทจนต้องเข้ารับการรักษามาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาเคยกินยาฆ่าตัวตายมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ตอนนี้สามารถช่วยชีวิตได้ทัน และผู้ต้องหาก็ได้เข้ารับการรักษา จนเป็นปกติ ก่อนที่จะกลับมาทำงานที่ร้านนี้เหมือนเดิม
ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองอำนาจเจริญ นำโดย พ.ต.ท.เทวราช เอื้อวงษ์ประเสริฐ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอำนาจเจริญ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายดังกล่าว โดยลงพื้นที่ไปที่บ้านของผู้ต้องหาเป็นที่แรก ซึ่งจากการลงพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พบผู้ต้องหาอยู่ภายในบ้านพักของผู้ต้องหาเอง โดยที่ผู้ต้องหาบอกทางเจ้าหน้าที่ว่าไม่ได้คิดจะหลบหนีแต่อย่างใด แค่กลับบ้านมาอาบน้ำเพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับ จากนั่นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา มาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองอำนาจเจริญ
พ.ต.ท.เทวราช เอื้อวงษ์ประเสริฐ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุกระทำการดังกล่าวจริง โดยที่ผู้ต้องหาให้การว่าสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ เนื่องมาจากการที่ ก่อนหน้านี้ ผู้ตายได้เรียกผู้ต้องหาไปยกเสาปูนขึ้นรถช่วย แต่เนื่องจากเสาปูนมันหนัก ทำให้ตอนยกเกิดหลุดมือและไหลลงพื้น จากนั้นผู้ตายจึงได้กล่าวว่าผู้ต้องหาว่ากินแรงผู้ตาย ไม่ยอมช่วยงาน ก่อนที่จะด่าผู้ต้องหาว่า ไอ้ขี้ขลาด เดี๋ยวมึงตาย ซึ่งทำให้ผู้ต้องหาโมโหและเดินหนี ก่อนที่ผู้ตายและผู้ต้องหาได้เดินมาเจอกันอีกครั้งที่บริเวณที่เกิดเหตุ
จากนั้นผู้ต้องหาจึงได้หยิบเอาชะแลงเหล็กหกเหลี่ยมที่อยู่ใกล้กับบริเวณที่เกิดเหตุ เดินเข้าไปฟาดที่ศีรษะบริเวณด้านหลังข้างซ้ายของผู้ตาย 1 ครั้ง ก่อนที่ผู้ตายจะล้มลงไปนอนกับพื้น และผู้ต้องหาก็ได้ใช้ชะแลงเหล็กฟาดไปที่ศีรษะใกล้เคียงกับบริเวณเดิมอีก 1 ครั้ง ซึ่งตอนนั่นเองผู้ต้องหาไม่ได้สนใจว่าผู้ตายจะเสียชีวิตไหม จากนั่นผู้ต้องหาจึงได้เรียกภรรยาที่มาทำงานด้วยกันให้ขึ้นรถมอไซค์ที่จอดอยู่ และขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับมาที่บ้าน เนื่องจากรู้อยู่แล้วว่ายังไงก็จะถูกจับ หากถูกจับก็จะขอให้ถูกจับที่บ้านของตัวเอง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้นกับทางผู้ต้องหา ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ก่อนที่จะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอำนาจเจริญ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป