ลุงประคองเพื่อนขาพิการจะพาไปส่งบ้าน ถูกรถพุ่งชนดับคาถนน 2 ศพ

ลุงประคองเพื่อนขาพิการจะพาไปส่งบ้าน ถูกรถพุ่งชนดับคาถนน 2 ศพ

ลุงประคองเพื่อนขาพิการจะพาไปส่งบ้าน ถูกรถพุ่งชนดับคาถนน 2 ศพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

( 27 ส.ค.2561) เวลา 20.30 น. ขณะที่ ร.ต.อ.สมพงษ์ ศรีนครินทร์ พนักงานสอบสวน ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวร สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนคนเดินเท้าบริเวณถนนภายในหมู่บ้าน บ้านโตก หมู่ 2 ต.บ้านโตก อ.เมืองเพชรบูรณ์ มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ จึงแจ้งแพทย์เวรโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ จากนั้นจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยอาสามูลนิธิร่มโพธิ์เพชรบูรณ์

ที่เกิดเหตุเป็นถนนในหมู่บ้านเชื่อมต่อระหว่างบ้านทุ่งแค - บ้านโตก ใกล้กับวัดจันทร์นิมิต พบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ ทะเบียน บห 1808 เพชรบูรณ์ สีบรอนซ์ สภาพไฟหน้าขวาแตก ด้านหน้าได้รับความเสียหายเล็กน้อย และที่ใต้รถยนต์ พบศพนายเกษม อายุ 62 ปี สภาพศพแขนขาและกระดูกหักหลายแห่ง ใกล้กันพบศพนายพะเยาว์ อายุ 62 ปี สภาพศพกะโหลกศีรษะแตก

จากการสอบสวน นายรุ่งโรจน์ อายุ 34 ปี  คนขับรถยนต์คันดังกล่าวให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถยนต์กำลังจะไปซื้อหมูกระทะเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีรถยนต์คันหนึ่งจอดอยู่เลนฝั่งตรงข้ามและเปิดไฟหน้าไว้ จึงส่องตาตนเองทำให้มองไม่เห็นผู้ตายทั้งสองคนที่กำลังเดินอยู่บนถนนจึงชนเข้าอย่างจัง ซึ่งหลังเกิดเหตุตนก็ไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใด

ด้าน นายศักดิ์ดา อายุ 62 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ให้การว่า ตนกับผู้ตายทั้งสองคนเป็นเพื่อนกัน โดยนายเกษมมีความพิการทางขาเดินไม่สะดวก ก่อนเกิดเหตุทั้งสองคนได้มาหาตนที่บ้านนั่งพูดคุยและกินข้าวด้วยกัน กระทั่งมืดทั้งสองคนขอตัวกลับบ้าน และขณะที่นายพะเยาว์ เดินประคองนายเกษม อยู่บนถนนนั้นได้มีรถยนต์คันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วและชนเพื่อนทั้งสองคนของตนเองจนเสียงดังสนั่น จากนั้นรถได้ลากศพไปไกลเกือบ 30 เมตร จึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายรุ่งโรจน์ ได้ขับรถยนต์เพื่อที่จะไปซื้อหมูกระทะ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่ผู้ตายทั้งสองคนเดินออกมาจากบ้านเพื่อนเพื่อที่จะกลับบ้าน ซึ่งบริเวณนั้นแสงสว่างมีน้อยประกอบกับนายรุ่งโรจน์ อาจจะขับรถมาด้วยความเร็วจึงมองไม่เห็นผู้ตายทั้งสอง จึงชนเข้าอย่างจังจนเสียชีวิตดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook