"บิ๊กโจ๊ก" ลงพื้นที่เกาะเต่า สืบข่าวอื้อฉาว ยืนยันไม่มีเหตุข่มขืนฝรั่ง

"บิ๊กโจ๊ก" ลงพื้นที่เกาะเต่า สืบข่าวอื้อฉาว ยืนยันไม่มีเหตุข่มขืนฝรั่ง

"บิ๊กโจ๊ก" ลงพื้นที่เกาะเต่า สืบข่าวอื้อฉาว ยืนยันไม่มีเหตุข่มขืนฝรั่ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ลงพื้นที่เกาะเต่า ยันไม่มีข่มขืนแหม่ม ลั่นหากมีหลักฐานใหม่ พร้อมสอบข้อเท็จจริง

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปรีดี พงศ์เศรษฐสันต์ รองผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (พฐ.) พร้อมคณะ เดินทางเข้าตรวจสอบเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษ อ้างว่าถูกข่มขืนที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี

นางสาวภัทรา แจ้มตระกูล เจ้าของโฮสเทลในเกาะเต่า กล่าวถึงประเด็นที่ นางสาวอิซเบลล่า อายุ 19 ปี ชาวอังกฤษ ผู้เสียหายที่อ้างว่าตนเองถูกชายชาวเอเชียข่มขืนที่เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่า นางสาวอิซเบลล่ากับกลุ่มเพื่อน รวม 5 คน ได้เข้ามาพักที่โฮสเทลของตน ตั้งแต่วันที่ 21-26 มิถุนายน 2561

โดยคืนสุดท้าย นางสาวอิซเบลล่า ผู้เสียหาย ได้ไปดื่มกินกับเพื่อนที่ริมชายหาด และกลับมาพักที่โฮสเทลในช่วงเช้า และพบว่ามีอาการซึมร้องไห้ เมื่อเข้าไปสอบถามก็ได้รับทราบข้อมูลว่า ถูกข่มขืนโดยชายชาวเอเชีย ตนก็ตกใจมาก แนะนำว่าจะพาไปแจ้งความ แต่ผู้เสียหายยืนยันว่าจะไปฟูลมูนปาร์ตี้ที่เกาะพะงัน เพราะนัดกับแฟนหนุ่มไว้

จากนั้นวันที่ 4 กรกฎาคม นายมาร์ติน เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับนางสาวอิซเบลล่า ย้อนกลับมาที่เกาะเต่า เพื่อจะมาแจ้งความแทนว่าเพื่อนถูกข่มขืน แต่เนื่องจาก นายมาร์ติน ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรงจึงรับแจ้งความไม่ได้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ลงพื้นที่สืบสวนติดตามข้อมูลทันที

พ.ต.ท.นพา เสนาทิพย์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.เกาะเต่า ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ตร.สภ.เกาะเต่า ไม่ทราบเรื่องจนกระทั่ง วันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา ในช่วงบ่ายมีเจ้าของโฮสเทลมาแจ้งว่าลูกค้าที่มาพักที่โฮสเทล อ้างว่าถูกข่มขืนและพนักงานสอบสวนในการสอบถามว่ามีข้อมูลอะไรบ้างปรากฏว่าไม่มีข้อมูลอะไรเลยที่เกิดเหตุก็ไม่มี หากไม่มีรายละเอียดขอให้ตำรวจทำงานก่อนที่จะหมดสติผ่านสถานบริการ จึงสั่งการให้ตำรวจสารวัตรสืบสวน ไปตรวจเก็บกล้องวงจรปิดไว้

ก่อนจะเก็บกล้องซ้ายขวาเผื่อสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์และได้รับรายงานว่าส่งไลน์มาว่ากล้องไม่สามารถเก็บภาพได้เนื่องจากย้อนไปได้ 7 วัน ทำให้ข้อมูลลบไปแล้ว จึงขอข้อมูลเพิ่มเติม แต่ผู้เสียหายก็เงียบไปและไม่ติดต่อกลับมาอีก จนกระทั่งเป็นข่าวที่ประเทศอังกฤษ และในเพจเฟซบุ๊กของ CSI LA

หลังรับแจ้งได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทุกอย่าง ส่งทีมมาร่วมกับ ภาค 8 ตำรวจเกาะเต่าและตำรวจท่องเที่ยวมาร่วมประสานตั้งแต่วันแรก ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ วันนี้จึงมาตรวจสอบพื้นที่

ส่วนภาพของผู้ต้องหาคดีอนาจาร 2 คน ที่ก่อคดีช่วงเดือนสิงหาคม และมีลักษณะคล้ายกับที่ผู้เสียหายกล่าวอ้างว่า มีรูปร่างสูงดำ ผมหยิกนั้น ตำรวจ สภ.เกาะเต่า ได้ส่งให้เจ้าของโฮสเทล เพื่อส่งต่อให้ผู้เสียหาย ชี้ตัวว่าใช่บุคคลเดียวกับที่ ก่อเหตุหรือไม่

ทั้งนี้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ระบุว่า หลังทราบเรื่องนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษ อ้างว่าถูกข่มขืนที่เกาะเต่าจากการตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด หลักฐาน ปากคำพยาน และร่องรอยสารที่อ้างว่าถูกมอมยาต่างๆ ยังไม่พบว่ามีเหตุการณ์ การข่มขืนเกิดขึ้น แต่หากผู้เสียหายมาพบ มาแจ้งความ มีหลักฐานใหม่อื่นๆ ว่ามีการข่มขืนเกิดขึ้นจริง ตำรวจจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

และเมื่อเช้าได้ประสานสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ก็ระบุว่ายังติดต่อกับผู้เสียหายไม่ได้ พร้อมกันนี้ รอง ผบช.ทท. ได้ฝากถึงนักท่องเที่ยว หากมาเที่ยวในประเทศไทย แล้วเกิดเหตุการณ์ให้มาแจ้งความ เจ้าหน้าที่จะให้ความเป็นธรรมทุกคน

ส่วนคนพื้นที่ต้องการให้ดำเนินคดีกับเพจที่นำข้อมูลอันเป็นเท็จบิดเบือน สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับคนในพื้นที่เกาะเต่าและประเทศไทย และในวันพรุ่งนี้พบกงศุลอังกฤษประจำประเทศไทย ข้อมูลเพื่อให้เป็นข้อมูลไว้ หากมาเมื่อไหร่จะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook