“เปิ้ล-จูน” แจงข้อสงสัย ทุ่มหมดตัวจ่ายค่าเทอมสูงปรี๊ดเพื่อลูก คนละ 1 ล้านบาท
อยู่ในช่วงที่ลูกๆ ทั้ง 4 คน ออกัส-ออก้า-ออกู๊ด-ออเกรซ กำลังเข้าโรงเรียนไล่เลี่ยกันทั้งหมด สำหรับครอบครัวใหญ่ของ เปิ้ล-นาคร และ จูน-กษมา ศิลาชัย ซึ่งงานนี้เลยมีกระแสข่าวออกมาว่า ทั้งสองต้องทุ่มหมดตัวเพื่อจ่ายค่าเทอมให้ลูก เทอมละ 1 ล้านบาท
ล่าสุด เปิ้ล นาคร และ จูน กษมา ก็ได้ออกมาชี้แจงให้ฟังว่า ค่าเทอมลูกๆ 1 ล้านบาทจริง แต่รวมทั้งหมด 4 คน ไม่ใช่คนละล้าน พร้อมบอกอย่าว่ากันเพราะมีเงินก็เอาไปไม่ได้ อยากให้ลูกได้เรียนเต็มที่
เห็นว่าค่าเทอมลูกแต่ละคน ก็เทอมละ 1 ล้าน จริงไหม ?
เปิ้ล : “1 ล้านไม่ใช่ต่อคน รวมกัน 4 คน แต่เดี๋ยวพอเขาโตขึ้น คิดว่าคนละล้านสองล้านน่าจะต้องเตรียมเงินไว้แล้ว แต่อย่างที่บอก สำหรับพ่อแม่จะแพงแต่ไหนก็อย่าว่ากันนะ ถ้าพ่อแม่เขามีตังค์จะส่ง เพราะว่าตายไปเราก็เอาไปไม่ได้ มีเงินพันก็เชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนก็ใส่หมดพันให้ลูกได้เรียน มีเงินหมื่นก็ใส่หมดหมื่น มีเงินล้านก็หมดไปเลย เรียนไปก่อนเดี๋ยวพ่อแม่หาใหม่ เพราะฉะนั้นมันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ใช่เรื่องที่เราจะมากั๊กไว้ เพราะว่ามันคือสิ่งเดียวที่เราจะให้เข้าได้ ก็คือความรู้”
วันนี้ถือฤกษ์ดี เปิดกิจการ ?
เปิ้ล : “วันนี้ก็ถือว่าเป็นวันดีที่สุดเลย สำหรับการฉลองครบรอบ 3 ปีของบริษัท Madamegusga ซึ่งบริหารโดนจูน เดิมทีเราก็หานะว่าฤกษ์ดีวันอะไร ไปๆ มาๆ ก็เอาวันเกิดจูนนี่แหละ เป็นฤกษ์ดีที่สุดแล้ว ที่ฟ้าส่งจูนให้มาเกิดเป็นแม่ของลูกทั้ง 4 คน และเป็นมาดามของกัสก้า ที่เกิดขึ้นมาเป็นบริษัทนี้ครับ ปกติเวลาขึ้นบ้านใหม่ ก็จะอาศัยวันเกิดจูน เป็นฤกษ์ มันจำง่ายดี”
จูน : “ก็เหมือนที่พี่เปิ้ลบอก ว่าเราไม่อยากจะเสียวันนี้ไป เลยทำตรงนี้เป็นการเปิดตึกไปเลย จะได้จำกันได้ง่ายๆ เมื่อเช้าก็มีเลี้ยงพระกับครอบครัว กับเพื่อนๆ”
เป็นเพราะเชื่อว่าฤกษ์ของภรรยาจะรุ่งเรืองดีที่สุด ?
จูน : “ตอบให้ดีนะ (หัวเราะ)”
เปิ้ล : “คือเรื่องเลิกกับภรรยาเนี่ย ไม่ใช่ๆ ฤกษ์ของภรรยาเป็นเรื่องดี แต่ถ้าเลิกกับภรรยาเป็นเรื่องไม่ดี เพราะฉะนั้นฤกษ์ของภรรยาคือฤกษ์ที่ดีที่สุดแล้ว สำหรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของครอบครัวเรา วันหนึ่งเราต้องสร้างเครื่องมือหาปลาให้กับลูกกับภรรยาของเรา ก่อนที่จะไม่มีเราแล้ว หรือเราอาจจะแก่ไปแล้ว อายุแล้ว คนอีกไม่กี่ปีจะเลิกแล้วก็ไปวิ่งมาราธอนกับพี่ตูน วันนี้เราก็เลยต้องให้เขารู้จักทำมาหากินเองด้วย เราก็เลยส่งเครื่องมือหาปลาให้ นั่นก็คือการทำธุรกิจที่ออกมาเป็นบริษัทที่เขาสามารถบริหารเองได้ ดูแลเองทั้งหมดได้ ก็เลยออกมาเป็นบริษัท Madamegusga ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความสวยความงาม สกินแคร์ อาหารเสริมต่างๆ ซึ่งทั้งหมดเป็นความชอบของจูนทั้งนั้น สิ่งที่จูนถนัด เพราะฉะนั้นเลยคิดว่าสิ่งที่เขาถนัดที่สุด ก็น่าจะทำได้ดีที่สุด แล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ผลงานของ Madamegusga ที่ออกมา ผลิตภัณฑ์ในแต่ละชิ้นที่ขายในเซเว่น หรือตามบิวตี้ช็อปทั่วประเทศ ทุกที่เราถือว่าเป็นการเริ่มต้นประสบความสำเร็จที่น่ารักมากๆ มันก็เลยก็เกิดเป็นวันนี้ขึ้นมา”
ออกผลิตภัณฑ์มา 3 ตัวแล้ว ถือว่าประสบความสำเร็จไหม ?
จูน : “จูนว่าจูนยังไม่ประสบความสำเร็จมากเพราะว่าเราเพิ่งจะเริ่มทำ ถ้าไปเทียบกับรุ่นพ่อแม่ของเรา เขาเริ่มมาตลอดชีวิต 30 ปี เราเพิ่งเริ่ม 3 ปี ก็รู้สึกว่ายังมีแรงอีกเยอะ ลูกก็ยังเล็กมาก มี 4 คนด้วย แค่นี้มันไม่ได้เหนื่อยเลย มันต้องทำได้มากกว่านี้อีก เลยยังมีแรง มีกำลังใจทำ ก็ขอบคุณแฟนคลับ คู่ค้าทุกคน ที่ไว้ใจในตัวจูน และ Madamegusga เดี๋ยวก็จะมีออกมาอีกค่ะ”
เปิ้ล : “อย่างที่บอก เวลาจูนเขาทำอะไร ทุกอย่างต้องดีที่สุด เขาเป็นคนที่บ้างานมาก 5 ทุ่มลูกนอนแล้ว จะเห็นเขาเป็นผีกระสือทันที ปิดไว้หมด แล้วมีแสงโทรศัพท์ส่องหน้า เวลาเราเดินเข้าห้องมาจะเห็นแต่หัว อยู่แบบนั้น 5 ทุ่ม ถึง ตี 3 เราก็ว่าดูอะไรหนักหนา นึกว่าดูข่าวดารา แต่จริงๆแล้วเขาดูงาน ดูว่าสกินแคร์ตัวไหนมา ศึกษาๆ วันหนึ่งบอกว่าบินไปเกาหลีกัน จะไปดูสารสกัดว่ามันดีจริงไหม จนไปเอาสารสกัดดอกดงเบกจากเกาหลีมาทำเป็นครีมซองขายในเซเว่น ปรากฏว่าขายดีมาก ตอนนี้เป็นอันดับหนึ่งของบริษัทเรา”
จูน : “ขายดีจริงๆ ทำมาจะเข้าเดือนที่ 5 แล้ว ยอดสั่งกว่าล้านซองแล้ว ก็เป็นยอดขายที่น่ารัก มีกำลังใจที่จะทำต่อค่ะ”
เห็นว่าตึก Madamegusga นี้ ลงทุนสร้าง 100 ล้านเลย ?
จูน : “เฉียดๆ”
เปิ้ล : “เกือบนะๆ เฉียดๆ อีกนิดหนึ่งถึงแน่นอน”
มาจากธุรกิจครีมล้วนๆ เลยใช่ไหม ?
เปิ้ล : “คือครอบครัวเรามีหลายธุรกิจนะ มีร้านอาหารที่รัชดาซอย 4 ก็ประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง แล้วมีบริษัทที่ทำเกี่ยวกับมีเดียมาร์เก็ตติ้ง ในส่วนอันนี้ Madamegusga ก็เพิ่ง 3 ปี แล้วเกือบครึ่งของตึกที่สร้างมา ก็เป็นน้ำพักน้ำแรงของลูกๆทั้ง 4 คนด้วย(หัวเราะ) เราขายลูกมา 8 ปี (หัวเราะ) ก็ได้เงินพอที่จะสร้างตึก ที่บอกว่าเกือบคร้อยล้าน มันก็เลยทำได้ บางคนถามว่าฟอกเงินหรือเปล่า อันนี้ขอตอบตรงๆเลยแล้วกันว่าฟอกครับ (หัวเราะ) ฟอกที่เซเว่นทุกสาขาทั่วประเทศ”
เป้าหมายต่อไปมากกว่า 100 ล้านใช่ไหม ?
เปิ้ล : “คือตัวเลขมันไม่ใช่เรื่องที่เราหวังขนาดนั้น จริงๆ อยากให้แบรนด์ของครอบครัวเรามันเกิด มันชัดเจนมากกว่า สมมติว่าไม่มีเราแล้ว อีกหน่อยลูกๆ ก็จะได้มีตึก แล้วก็อาจจะมีซื้อที่เก็บไว้ให้เขาไปปลูกข้าว ทำไร่ไถนาต่อในอนาคตก็ได้ นั้นคือเป้าหมายของเรามากกว่า ไม่จำเป็นต้องพันล้าน แต่ของให้หมื่นล้านก็พอแล้ว (หัวเราะ)”
มีโอกาสเป็นไปได้ไหม เพราะเริ่มต้นก็ดีขนาดนี้แล้ว ?
เปิ้ล : “เอาตรงๆ เลยว่า กับความตั้งใจของจูนที่ทำอยู่ตอนนี้ กับความเมตตาของคนทั้งประเทศมีให้เราแบบนี้ เป็นไปได้มากครับ หมื่นล้านไม่ยากหรอก แต่มันจะยากตรงที่ทำแล้วมีความสุขจริงหรือเปล่า”
เรามั่นใจในคุณภาพของครีมเราใช่ไหม เพราะก่อนหน้านี้มีกระแสครีมเถื่อน สวม อย. ?
จูน : “ไม่ค่ะ ของเราอย่างที่บอกว่าจูนจะทำอะไรก็แล้วแต่ มันไม่ใช่ชื่อจูนคนเดียว มันเป็นชื่อพี่เปิ้ล จูนแทบไม่กล้าคิดเลยอะไรที่มันไม่ดี เพราะทุกๆ อย่าง สามารถตรวจเช็คได้หมด จูนไม่เอาชื่อเสียงพี่เปิ้ลที่เขาสร้างมาตั้งนาน หรือของจูน เอามาตายเพื่อผลิตภัณฑ์ชิ้นเดียว มันไม่ควรค่ะ”
เปิ้ล : “เอาแบบนี้ เราคิดว่าเซเว่นกล้าเอาของเถื่อนไปขายในร้านไหม ร้านทุกร้านที่กล้าเอาของเราไปขาย จะกล้าเอาของเถื่อนเข้าไปขายไหม ถ้ากล้าก็เรื่องของคุณ (หัวเราะ) ก็ถูกจับไป แต่เราไม่ทำ เพราะฉะนั้นที่ที่มีของเรา แสดงว่าเป็นที่ที่สุดยอด และมีมาตรฐานจริงๆ”
จูน : “ไม่ใช่ของเถื่อนแต่แน่นอน เราไม่ได้หวังให้เขาซื้อเราแค่ซองเดียว เราไม่คิดแค่นั้น เราต้องให้เขากลับมาซื้อซ้ำ”
เปิ้ล : “ผมของแค่วันละซองพอ วันละซอง หมื่นสาขา ผมขอแค่นี้ ได้ไหมวัยรุ่น(หัวเราะ)”
จูน : “ของดีที่สุด ไม่จำเป็นต้องแพงที่สุดค่ะ ง่ายๆ ชัดเจน และจริงใจมาก”
ธุรกิจนี้เป็นการวางรากฐานไว้ให้ลูกเลยใช่ไหม ?
เปิ้ล : “ เราทำธุรกิจความสวยความงาม เราก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าลูกโตมาจะมาสานต่อตรงนี้ได้หรือเปล่า คนที่สานต่ออาจจะเป็น ออกู๊ด ก็ได้มาทำเรื่องความสวยความงาม”
จูน : “ไม่ๆ ลูกเป็นผู้ชาย ออเกรซ กับ ออกัส ดีกว่า”
เปิ้ล : “แต่ไม่แน่ ออก้า ก็อาจจะเป็นก็ได้ (หัวเราะ) เราห้ามกันไม่ได้ โตมาอาจจะเป็นจูจูนเน่คลีนิค (หัวเราะ) คือได้หมด แล้วแต่ สิ่งที่เราวางไว้ให้ก็คือการศึกษาอันดับแรก สองคือนิสัยที่เขาจะอยู่กับคนไทยทั้งประเทศและทั้งโลกได้ ตรงนี้มากว่าที่เราปลูกฝัง แล้วก็ซื้อที่ไว้เยอะๆ ถ้าเขาไม่มีข้าวกินก็ไปปลูกกินเอง อันนี้คือสิ่งที่เราตั้งใจทำจริงๆ”
อัลบั้มภาพ 11 ภาพ