ชนวินาศซ้ำซ้อน 7 คัน สิบล้อตัดหน้ารถพ่วง หักหลบกระบะชนรถตู้ไฟลุก
เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนบนถนนสาย 314 วุ่นวายทำสภาพจราจรติดขัด ต้นเหตุเพราะรถบรรทุกตัดหน้ารถพ่วง ต้องหักหลบเสยท้ายรถรอยูเทิร์น กระเด็นชนรถตู้ ก่อนเกิดไฟลุกห้องเครื่อง
เมื่อวานนี้ (28 ส.ค.) ร.ต.อ.พุฒิพงษ์ ชื่นชม รองสารวัตรสอบสวนเวร สภ.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดเหตุรถยนต์ชนกันซ้ำซ้อนต่อเนื่อง บริเวณจุดยูเทิร์นกลับรถด้านหน้าโรงงานผลิตรถยนต์แห่งหนึ่ง บนถนนทางหลวงสาย 314 ฉะเชิงเทรา-บางปะกง พื้นที่ ม.2 ต.ลาดขวาง อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้รถกระบะโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ที่ถูกรถตู้โตโยต้า สีบรอนซ์เงิน โดยมี นายวสันต์ อายุ 47 ปี เป็นคนขับมาทางตรงด้านฝั่งขาออกจากตัวเมืองฉะเชิงเทรา พุ่งชนท้ายจนกระเด็นเข้าไปชนกระแทกซ้ำอย่างแรงเข้ากับประตูรั้วทางเข้าโรงงาน
เจ้าหน้าที่ของทางบริษัทผลิตรถยนต์ใกล้ที่เกิดเหตุ ได้นำถังดับเพลิงเคมีมาทำการฉีดควบคุมเพลิงเอาไว้ไม่ให้ลุกลามไปทั่วตัวรถทั้งคัน แต่ยังคงมีเพลิงลุกไหม้อยู่ที่บริเวณภายในห้องเครื่องใต้ฝากกระโปรงหน้ารถอย่างต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลา
ห่างออกไปประมาณ 70 เมตร พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ สภาพหัวมุมด้านหน้ารถทางขวามีร่องรอยของการพุ่งชน จอดรอเจ้าหน้าที่อยู่ริมทาง โดยมี นายสมหมาย อายุ 43 ปี เป็นคนขับ ให้การว่า ขณะขับรถมาในเส้นทางตรงกำลังมุ่งหน้าไปทางตัวเมืองฉะเชิงเทรา อยู่บนถนนเลนที่สองจากทางขวา ได้มีรถบรรทุกสิบล้อได้พุ่งออกมาจากจุดยูเทิร์นกลับรถตัดหน้าแบบกะทันหัน ตนพยายามเบรกและหักหลบไปทางขวา ทำให้พุ่งเข้าไปชนท้ายรถที่กำลังจอดรอกลับรถอยู่ ทำให้รถกระบะคันที่ไฟลุกไหม้นั้นพุ่งออกและรถตู้ได้ชนซ้ำอีก
นายสาธิต คนขับรถกระบะอีซูซุ อีกคันที่ถูกรถบรรทุกพ่วงพุ่งชนท้าย กล่าวว่า ตนกำลังขับรถมาทางตรงจาก จ.ชลบุรี ในช่องทางด้านขวา เพื่อจะไปยัง จ.ขอนแก่น ได้ถูกรถบรรทุกพ่วงพุ่งชนทางด้านท้ายจนตัวรถกระเด็นไปข้างหน้า ส่วนรถคันที่เกิดเหตุพุ่งชนกันด้านฝั่งตรงข้ามนั้น ตนไม่เห็นว่ามีการพุ่งชนกันได้อย่างไร โดยรถคันของตนได้รับความเสียหายที่บริเวณด้านท้ายกระบะที่หัวมุมทางขวา มีร่องรอยของการถูกพุ่งชนจนกระบะหลังบิดเอียง
ขณะเดียวกัน หลังเกิดอุบัติเหตุรถยนต์พุ่งชนกันจำนวนหลายคัน สภาพการจราจรบนถนนสาย 314 มีรถขับผ่านไปมาเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนขึ้นอีกในบริเวณจุดเดียวกัน โดยมีรถยนต์โตโยต้า อัลติส สีบรอนซ์เงิน ได้มีการชะลอหยุด จึงทำให้รถบรรทุกสี่ล้อขนาดใหญ่ ขับตามมาพุ่งชนท้าย และรถจักรยานยนต์อีกคันชนท้ายรถบรรทุกอีกต่อ
พ.ต.ท.ฐาปนะ คลอสุวรรณา รอง ผกก. สภ.แสนภูดาษ ซึ่งได้เดินทางมาอำนวยการสั่งการในที่เกิดเหตุด้วยตนเอง กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นคนขับรถยนต์กระบะคันที่ถูกเพลิงลุกไหม้โดยยังไม่ทราบชื่อ
ส่วนสาเหตุนั้นจากการสอบสวนเบื้องต้นเกิดจากรถบรรทุกสิบกลับรถพุ่งออกมาตัดหน้ากะทันหัน ทำให้รถพ่วงต้องหักหลบไปชนรถยนต์ที่กำลังจอดรอกลับรถอยู่ ทำให้รถยนต์ถูกชนกระเป็นตัดหน้ารถตู้ที่กำลังขับมาทางตรงบนถนนด้านฝั่งตรงข้าม กลายเป็นอุบัติเหตุต่อเนื่องซ้ำซ้อนขึ้นดังกล่าว