ยังมีหวัง! เตรียมเพาะเนื้อเยื่อ "ต้นโพธิ์" ที่ "ในหลวง ร.9" ทรงปลูก หวังฟื้นต้นใหม่อีกครั้ง

วันที่ 29 สิงหาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า จากกรณีเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กรณีปรากฏภาพสุดสะเทือนใจชาวประจวบคีรีขันธ์ เป็นภาพต้นพระศรีมหาโพธิ์ทรงปลูกของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวง รัชกาลที่ 9

เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินขึ้นเขาช่องกระจก เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2501 ทรงปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ ภายหลังพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นหน่อเดิมจากต้นพระศรีมหาโพธิ์จากพุทธคยาในหลวง บนยอดเขาช่องกระจก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์

สถานที่แห่งนี้จึงถือเป็นศูนย์รวมจิตใจและเป็นสิ่งแทนใจของประชาชนชาวประจวบคีรีขันธ์ จนเกิดกระแสความไม่พอใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต่อมาพระราชสุทธิโมลี

เจ้าอาวาสวัดธรรมิการามวรวิหาร เจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ฝ่ายธรรมยุต ได้เปิดเผยว่า ได้ตัดต้นพระศรีมหาโพธิ์เนื่องจากยืนต้นตาย โดยเตรียมปลูกต้นทดแทน

เป็นต้นโพธิ์ต้นใหม่ ที่ได้จากสมเด็จพระสังฆราชนำมาจากพุทธคยาพระราชทานผ่านสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยจะปลูกในวันที่ 1 มกราคม 2562 ในกิจกรรมขึ้นเขาห่มพระงานประจำปีวันขึ้นปีใหม่ แต่ก็ยอมรับว่าไม่สามารถทดแทนกันได้ นั้น

โดยล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา นายสมพร ปัจฉิมเพชร ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย สำนักโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด, สถานีวนวัฒนวิจัย และหน่วยงานต่างๆ

ตลอดจนชาวบ้านที่ทราบข่าวการตัดต้นพระศรีมหาโพธิ์ต่างเดินขึ้นเขาช่องกระจก บนเขาสูง 245 เมตร จากระดับน้ำทะเล เพื่อไปตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยล่าสุดทางจังหวัด พร้อมด้วยสำนักงานพระพุทธศาสนา, ทสจ.จังหวัด และ พระราชสุทธิโมลี เจ้าอาวาสวัดธรรมิการามวรวิหาร

ได้ทำพิธีต่อชะตาต้นพระศรีมหาโพธิ์ ด้วยการสวดเจริญมงคลคาถา จากนั้นได้นำตอต้นพระศรีมหาโพธิ์กลับมาปลูกบริเวณเดิม พร้อมใส่ปุ๋ยสูตรเร่งการเจริญเติบโตและยาป้องกันรา เพื่อฟื้นฟูเบื้องต้น ซึ่งอาจจะมีความหวังว่าต้นพระศรีมหาโพธิ์อาจฟื้นกลับมาแตกกิ่งใบได้

นอกจากนี้จะนำเนื้อเยื่อของต้นเดิมไปเพาะเนื้อเยื่อเพื่อให้แตกต้นใหม่ แล้วนำกลับมาปลูกที่เดิม หากวิธีแรกไม่ได้ผล โดยจากมีนักวิชาการที่มีความรู้ดูแลใกล้ชิด โดยหลังจากนี้จะมีหน่วยงานเข้ามาดูแลร่วมกับทางวัดธรรมิการาม

เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนกระทบต่อความรู้สึกของประชาชน อย่างไรก็ตามจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องที่เกิดขึ้นอีกครั้ง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในวันพรุ่งนี้