เจ้าอาวาสร่ำไห้ ไฟไหม้ศาลา 10 ล้านวอด พระพุทธรูปทองคำแท้ไม่เหลือซาก

เจ้าอาวาสร่ำไห้ ไฟไหม้ศาลา 10 ล้านวอด พระพุทธรูปทองคำแท้ไม่เหลือซาก

เจ้าอาวาสร่ำไห้ ไฟไหม้ศาลา 10 ล้านวอด พระพุทธรูปทองคำแท้ไม่เหลือซาก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(2 ก.ย.) ที่ วัดป่าพรหมนิมิตร บ้านหนองตาพรม ตำบลวังหิน อำเภอวังหิน จังหวัดศรีสะเกษ ชาวบ้าน ญาติโยม ได้เดินทางมาดูความเสียหายของศาลาปฏิบัติธรรมของวัด ขนาดกว้าง 10 เมตร ยาวกว่า 40 เมตร สูงโปร่ง 5 เมตร เสาไม้เบญจพรรณทั้งต้น ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 80 เซนติเมตร จำนวน 64 ต้น ที่พวกญาติโยมจากทั่วสารทิศได้มาร่วมกันสะสมบริจาคทรัพย์ร่วมกันสร้างมาตั้งแต่ปี 2553 แต่เพลิงได้ลุกไหม้เพียงชั่วข้ามคืน วอดไปทั้งหลัง พร้อมกับพระพุทธรูปที่หล่อด้วยทองคำแท้ ขนาดหน้าตักกว้าง 9 นิ้ว หนัก 40 บาท ที่ประดิษฐานไว้ด้านบนของศาลา วอดไปกับกองเพลิงหาซากไม่เจอ รวมความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

ชาวบ้าน ญาติโยมที่เดินทางมาช่วยกันดับเพลิงตั้งแต่เมื่อคืน ได้กลับไปนอนพักเพียงชั่วครู่ก็สว่าง เช้าก็ได้เดินทางออกมาตรวจสอบความเสียหายอีกครั้ง ทุกฝ่ายถึงกับน้ำตาคลอ ขณะที่หลวงพี่เจ้าอาวาส ร่ำไห้ยังไม่หยุดตั้งแต่เมื่อคืน ซึ่งชาวบ้าน ญาติโยม ก็ได้นำฝ้ายขาวมาผูกแขน เรียกขวัญหลวงพี่ และให้กำลังใจตลอด

ซึ่งเมื่อคืนนี้ เวลา 22.00 น. ร้อยตำรวจวิเชียร ธรรมบุตร ร้อยเวรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรวังหิน ได้รับแจ้ง จาก นายอำไพ บึงคง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 บ้านหนองตาพรม ตำบลวังหิน ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้วัดป่าพรหมนิมิตร ตำบลวังหิน จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนที่จะได้โทรประสานเร่งด่วนกับสำนักงานเทศบาลตำบลวังหิน และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ได้นำรถดับเพลิง เจ้าหน้าที่ออกมาช่วยดับเพลิงทันที พร้อมตนเองก็ได้เร่งรัดเข้าพื้นที่เพื่อตรวจสอบ อำนวยความสะดวกในการดับเพลิง เมื่อเดินทางไปถึง พบเพลิงกำลังลุกไหม้สาลาปฏิบัติธรรมขนาดใหญ่ โดยเพลิงได้ลุกโหมอย่างแรง เนื่องจากศาลาดังกล่าวสร้างด้วยไม้ล้วนๆ และฝ้าเพดานยังทำจากไม้ไผ่สาน ทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว รถดับเพลิงใช้เวลาอยู่ราว 1 ชั่วโมง เพลิงจึงเริ่มสงบลง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่รอการตรวจสอบในช่วงเช้า โดยเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาตรวจสอบ บันทึกภาพ บันทึกเหตุการณ์อีกครั้ง ทราบเบื้องต้นว่า จุดที่เกิดเพลิงไหม้ครั้งแรกน่าจะมาจากปลายเสาไม้ที่ตั้งของกล่องกระจายสวิตซ์ไฟ ที่มีกระเบื้องหลังคาเปิดเล็กน้อย อาจจะโดนน้ำฝนและทำให้ลัดวงจร ก่อนที่จะเกิดเพลิงไหม้ได้ ซึ่งจะได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุอีกครั้ง

ด้าน พระอาจารย์บุญชู พุทธิญาโณ เจ้าอาวาสวัดป่าพรหมนิมิตร เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวรับฟังทั้งน้ำตา ว่า เมื่อคืนขณะที่ตนได้จำวัดอยู่ ได้ยินเสียงตูมใหญ่ดังแรงมาก ตกใจตื่นขึ้นมา และเดินออกไปดูนอกกุฎิ ก็พบกลุ่มควันลอยขึ้นมาจากหลังศาลาปฏิบัติธรรม จึงได้วิ่งไปดูและวิ่งเข้าไปเปิดหน้าต่าง ประตูออก พบเพลิงกำลังลุกไหม้จากปลายเสาที่เป็นที่ติดตั้งกล่องกระจายสวิตซ์ไฟฟ้า มองหาถังดับเพลิงก็ไม่มี จึงได้วิ่งลงมาเอาโทรศัพท์มาโทรบอกญาติโยมที่พอจะมีเบอร์ และวิ่งไปตีกลอง ระฆัง แจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย

จากนั้นเพลิงก็โหมลุกท่วมศาลา ขณะที่ชาวบ้านก็ได้วิ่งออกมาช่วยกัน พร้อมกับรถดับเพลิงจากหลายที่ทยอยกันเข้ามาช่วยดับเพลิง ศาลาปฏิบัติธรรมแห่งนี้ เริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ.2553 จนมาแล้วเสร็จปีนี้ แต่ก็ยังถือว่ายังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี ใช้ปฏิบัติธรรมเรื่อยมา มีพระพุทธรูปที่หล่อด้วยทองคำแท้หนัก 40 บาท 1 องค์ หน้าตักกว้าง 9 นิ้ว ประดิษฐานไว้ด้านบนทางฝั่งทิศตำวันตก หลังจากเพลิงไหม้หาซากก็ไม่เจอ รวมๆ มูลค่าความเสียหายจากแรงศรัทธาของญาติโยม ก็น่าจะเกิน 10 ล้านบาท เพราะได้จากเงินบริจาคก็สร้างไปเรื่อยๆ แต่วันนี้หมดแล้ว 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook