โดนหลอกยกแก๊ง หวังไปเก็บผลไม้เงินดีที่เมืองนอก ไม่ทันได้ไปสูญเป็นแสน

นางพัทธนัน อายุ 39 ปี และ นางฬุริยา อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น และเหยื่ออีก 7 คน ได้โชว์หลักฐานการโอนเงินให้กับนายหน้า ที่เป็นเพื่อนบ้านอำเภอเดียวกัน หลังโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ประกาศตามหาคนต้องการไปทำงานประเทศนิวซีแลนด์ ยืนยันว่าเข้าประเทศถูกกฎหมาย รับเพียง 8 คน พร้อมวีซ่า 1 ปี จึงมีผู้หลงเชื่อติดต่อสอบถามข้อมูล ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

นางกนกวรรณ ผู้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กดังกล่าว ได้บอกกับทุกคนว่า ผู้ที่จะเดินทางไปเก็บผลไม้ที่ประเทศนิวซีแลนด์ สามารถเดินทางไปได้ โดยตนเองและสามีจะเป็นการดำเนินการให้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวีซ่า ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ประสานงานกับนายจ้างและสถานทูต โดยผู้ที่สนใจจะต้องจ่ายเงินจำนวน 40,000 บาท

ทั้งนี้ผู้ที่ไปทำงานจะได้ค่าจ้างในการเก็บผลไม้เป็นเงิน 840 เหรียญนิวซีแลนด์ต่อสัปดาห์ (ประมาณ 18,000 บาท) นางกนกวรรณยังอ้างว่าญาติๆ ได้เดินทางไปหลายคนแล้ว โดยผู้สนใจต้องจ่ายเงินสดให้ แต่ถ้าใครยังไม่สะดวกก็สามารถโอนทางบัญชีได้ โดยก่อนเดินทางจะต้องทำการไปตรวจโรค ทำหนังสือเดินทางให้เรียบร้อยตามขั้นตอน

หลังจากนั้นพวกตนจึงได้นำเงินมาจ่ายให้กับนางกนกวรรณถึงที่บ้าน โดยมีมารดาของกนกวรรณเป็นพยานพร้อมด้วยเพื่อนๆ ที่จะเดินทางไปด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้ทำสัญญากันไว้เนื่องจากเป็นสัญญาใจกัน เพราะเห็นว่าเป็นคนบ้านเดียวกัน

จากนั้นทางกนกวรรณได้นัดให้เตรียมตัวเดินทางวันที่ 19 มิถุนายน แต่เมื่อถึงวันก็ไม่ได้เดินทาง เลื่อนมาเป็นวันที่ 30 มิถุนายน และก็เลื่อนอีกเป็นวันที่ 4 กรกฎาคม แต่ก็ยังไม่สามารถเดินทางได้ โดยอ้างว่าติดปัญหาเรื่องสัญญากับนายจ้าง

ต่อมาจึงเลื่อนมาอีกในวันที่ 4 สิงหาคม พวกตนเก็บกระเป๋ารอหลายรอบ พร้อมกับเอะใจตั้งแต่ตอนแรกว่า ในเมื่อจะมีการเดินทางติดขัด ทำไมทางนายหน้ารายใหญ่ไม่โอนเงินมาก่อน จึงได้โทรติดต่อไปทางนายหน้าแจ้งว่าตอนนี้นายจ้างคนเดิมไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้ทำการหานายจ้างคนใหม่ซึ่งอยู่ในการติดต่อให้มาทำสัญญาใหม่ โดยในเนื้อหาของสัญญาก็ไม่เห็นว่ามีการจ้างงานระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างแต่อย่างใด โดยให้ทางพวกตนลงชื่อแต่ฝ่ายเดียว

พวกตนจึงได้ขอเงินทั้งหมดคืน ซึ่งตอนแรกนายหน้ารับปากว่าจะคืนเงินให้ในวันที่ 31 สิงหาคม แต่ก็ยังไม่เห็นนัดมา โทรหาก็บ่ายเบี่ยง จึงได้ติดต่อไปทางเฟซบุ๊กของนางกนกวรรณ ซึ่งอ้างว่าอยู่ที่ต่างประเทศ แต่กลับยังพบว่ามีการเช็คอินที่ จ.เชียงใหม่ จึงมั่นใจน่าจะถูกหลอก

ต่อมาจึงได้นำเรื่องไปเข้าแจ้งความที่ สภ.กระนวน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าไม่สามารถรับแจ้งได้ ต้องไปแจ้งที่สำนักงานแรงงานจังหวัด สำหรับความเสียหายในครั้งนี้พวกตนเสียเงินให้กับนายหน้าจำนวน 40,000 บาท พร้อมค่าตรวจโรค ทำเอกสารเดินทาง คิดเป็นเงินคนละประมาณ 70,000 บาท รวมทั้งสิ้น 1,190,000 บาท

เมื่อเป็นเช่นนี้จึงได้ร้องเรียนมายังสื่อมวลชนเพื่อเป็นกระบอกเสียง และจะได้เข้าร้องทุกข์ที่ศูนย์ดำรงธรรมที่ว่าการอำเภอกระนวนต่อไป