ผบ.ตร. สั่งหาทางปัองกันอุบัติเหตุตามด่านตรวจ หลัง "ป้าเมาซิ่งชนด่าน" จนท. บาดเจ็บ
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณี ผู้ต้องหาขับรถในขณะเมาสุราแล้วเฉี่ยวชนเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าบริเวณจุดตรวจ ในเขตพื้นที่ สน.ราษฎร์บูรณะ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันตั้งจุดตรวจเพื่อป้องกันการแข่งรถในทางอยู่ที่ถนนสุขสวัสดิ์ บริเวณจุดกลับรถหรือแยกสัญญานไฟวัดสน อยู่นั้น
ต่อมาได้มี นางอิสรีย์ อัศวชัยชัช อายุ 57 ปี จ.นครปฐม ผู้ต้องหา ได้ขับขี่รถยนต์เก๋งโตโยต้ามาตามถนนสุขสวัสดิ์ จากแยกพระประแดง เพื่อมุ่งหน้าแยกประชาอุทิศ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้เกิดเหตุเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ของประชาชนและรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จอดอยู่ จำนวนรวม 4 คัน ได้รับความเสียหาย และเฉี่ยวชนผู้อื่นที่อยู่ในที่เกิดเหตุได้รับบาดเจ็บ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนางอิสรีย์ ฯ และทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอร์ฮอล ผลการตรวจวัดพบมีปริมาณแอลกอร์ฮอลในร่างกายเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมในข้อหา ขับรถขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น ในขณะหย่อนความสามารถ โดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์ผู้อื่นและทรัพย์สินของทางราชการได้รับความเสียหายและเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> "ป้าเมาซิ่ง" ชนด่านตรวจ กวาดรถชาวบ้าน 4 คัน ตำรวจ-ประชาชน บาดเจ็บหลายราย
ปัจจุบันคดีอยู่ในระหว่างการสอบสวนและได้ส่งตัวผู้ต้องหาไปตรวจหาสารเสพติดและปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายเพิ่มเติมที่ โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้นัดคู่กรณีมาเจรจากันในภายหลังต่อไป
รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้ผู้บังคับบัญชา ช่วยเหลือดูแลสวัสดิการต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างใกล้ชิดอย่าให้เกิดข้อบกพร่อง พร้อมทั้งเรื่องความเสียหายในทรัพย์สิน และการบาดเจ็บของประชาชนที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งขณะเดียวกัน ได้สั่งการไปยังตำรวจทั่วประเทศให้ทบทวนยุทธวิธีต่างๆ โดยเฉพาะเจ้าหน้าตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ตั้งด่านหรือจุดตรวจในเวลากลางคืนต้องหมั่นทบทวนและเพิ่มยุทธวิธีการตั้งด่านให้มากขึ้น
ในกรณีที่ปฏิบัติอยู่พบเห็นความผิดปกติของรถที่ขับขี่มาด้วยความไม่ปลอดภัยหรือเป็นอันตรายต่อผู้ปฏิบัตหน้าที่ ขอให้หลบหลีกเข้าที่ปลอดภัยและให้จดจำลักษณะของรถ สี ยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียนคันดังกล่าวเพื่อติดตามและดำเนินคดีในภายหลังต่อไป ทั้งนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มแสงสว่างและป้ายเตือนต่างๆ ให้เห็นอย่างชัดเจนมากขึ้น เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจและให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด