อดีตนักยกน้ำหนักสาวไทย "เกสร" ชีวิตสุดช้ำ ป่วยโรคประสาทกว่า 10 ปี

อดีต ส.ส.ตรัง แฉอดีตจอมพลังยกลูกเหล็กสาวไทย "เกสร" เคยรับฮอร์โมนเพศชายเกินขนาด ป่วยอาการทางประสาทกว่า 10 ปี คิดฆ่าตัวตายนับครั้งไม่ถ้วน

(3 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของ นางสาวเกสร ชูบาล อดีตนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย ที่ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ซึ่งป่วยโรคโรคทางประสาท มีอาการป่วยทางจิตร หลังจากที่ได้รับเหรียญทองในนามทีมชาติไทยการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก ปี 2546

ต่อมาประสบปัญหาด้านสุขภาพป่วยด้วยโรคทางจิตและประสาท ต้องเข้ารับการรักษาโรงพยาบาลทางประสาทจังหวัดสุราษฎร์ธานี ด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันในขณะนั้นว่า สาเหตุที่เกสรป่วย เนื่องจากได้รับสารกระตุ้นสเตียรอยด์ ส่งผลเสียต่อสุขภาพรุนแรงมาจนถึงทุกวันนี้

ปัจจุบัน นางสาวเกสร อาศัยอยู่กับแม่และน้องสาว ที่บ้านประสบปัญหาได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เนื่องจากมีรายได้จากเงินสวัสดิการคนพิการเดือนละ 800 บาท และเงินสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยจากรัฐ เดือนละ 300 บาท

แต่ต้องมีภาระจ่ายดอกเบี้ยและค่าปรับให้กับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เดือนละ 500 บาท ที่กู้ขณะเข้าศึกษาสถาบันการพลศึกษาจังหวัดสุโขทัย เป็นเงินจำนวนกว่า 120,000 บาท และเป็นหนี้ ธกส.ที่ นางจิราพันธ์ กู้เงินมาปรับปรุงบ้านจำนวนกว่า 4 แสนบาท

นางสาวเกสร กล่าวว่า ขณะนี้ตนมีอาการดีขึ้นจากการได้กินยา ถ้าไม่กินยา จะมีอาการนอนไม่หลับ จะตื่นตลอดเวลา ตอนแรกไปรักษาที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่เนื่องจากมีปัญหาค่าใช้จ่าย จึงย้ายมารับยาที่โรงพยาบาลย่าตาขาว จ.ตรัง

ตนลำบากและเดือดร้อนมาก ยิ่งช่วงนี้อาการดีกว่าเดิม แต่ต้องทานยามาโดยตลอด ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทางสมาคมยกน้ำหนักมาดูตนเพียงครั้งเดียว และ ผอ.สถาบันการพลศึกษาสุโขทัยก็มาดูแลด้วย อาการที่ตนเป็นอยู่จะเกิดจากการโด๊ปยาหรือไม่ตนก็ไม่ทราบ ถ้าจะให้พูดออกไปก็ไม่ดีกับตนเอง

เพียงแต่ตนเองตอนนี้ลำบากมาก ไม่อยากคิดถึงความหลังแล้ว ตอนนี้อาศัยอยู่กับแม่และน้อง เงินที่ได้มาจากสวัสดิการคนพิการ 800 บาท เงินสวัสดิการรัฐบาล 300 บาท ต้องเจียดเงินจ่ายหนี้ กยศ.เป็นเงินค่าปรับและดอกเบี้ยเดือนละ 500 บาท

ขณะที่ นายอนันต์ ผู้เป็นน้าเขย กล่าวว่า อาการของเกสรเกิดจากการได้รับยาโด๊ป เพราะช่วงนั้นเกสรติดทีมชาติ อายุยังน้อยต้านการรับยาไม่ได้ ช่วงแรกที่มีอาการทางประสาทและกลับมาอยู่บ้านไม่กล้าบอกใคร เพราะกลัวว่าสมาคมฯจะเสื่อมเสีย

ต่อมาเมื่อมีการพูดความจริงออกมา สภาพที่กลับมามีอาการรุนแรง ถึงขนาดกระโดดบ่อน้ำข้างบ้านเพื่อฆ่าตัวตาย มีอาการประสาทหลอนว่า "มีคนสั่งให้กระโดดบ่อ" แต่ได้รับการช่วยเหลือจากญาติไว้ได้

เหตุที่ไม่กล้าออกมาพูดเพราะเกรงว่าจะเสื่อมเสียสถาบันกีฬา มาระยะหลังเกษรอาการดีขึ้นสามารถช่วยเหลือตัวเองและทำงานได้ตามปกติ แต่ยังไม่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ จะให้กลับมามีสุขภาพดีเหมือนคนทั่วไปคงเป็นไปไม่ได้

สิ่งหนึ่งที่ตนอยากขอร้องคือให้ สมาคมกีฬาฯ และรัฐบาล เข้ามาให้ความช่วยเหลืออย่าทอดทิ้ง ไม่เหลียวแลที่ผ่านมาเกษรทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ได้เหรียญทองมาแล้ว

ทางด้าน นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล อดีต สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีนี้ นางสาวเกสร เคยเป็นอดีตนักกีฬาชื่อดังของจังหวัด เป็นทั้งนักกรีฑาและนักน้ำหนักทีมชาติไทย ต่อมามีอาการป่วยทางจิต ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาจังหวัดตรัง เคยให้ความช่วยเหลือและดูแลให้ไปเป็นอาจารย์ที่ สถาบันการพลศึกษาจังหวัดตรัง

แต่เนื่องจาก นางสาวเกสร มีอาการป่วยจึงทำไม่ได้และกลับไปอยู่บ้านเช่นเดิม ตนทราบว่ามีกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ซึ่งนำเงินสรรพสามิต ร้อยละ 2 มาดูแลสวัสดิการของนักกีฬาที่เจ็บป่วยและยังชีพด้วยความลำบาก

นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ตนได้พูดคุยกับ เกสรว่า จะหาทางติดต่อกองทุนนำเงินสวัสดิการดังกล่าวมาช่วยเหลือ ทราบว่าขณะนี้ เกสร มีรายได้จากเงินคนพิการทางโรคจิต เดือนละ 800 บาท และเงินผู้มีรายได้น้อยเดือนละ 300บาท ซึ่งเป็นรายรับ ส่วนรายจ่าย นางสาวเกสร ถูกฟ้องให้จ่ายเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ช่วงที่เรียนอยู่ที่สถาบันการพลศึกษาสุโขทัย ไม่มีปัญญาที่จะชำระ เนื่องจากกู้ไว้กว่า 120,000 บาท ที่ผ่านมามีการบังคับใช้กฎหมายให้จ่ายดอกเบี้ยเดือนละ 500 บาท

นอกจากนี้ทาง นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ปรารภกับผมว่า จะประสานกองทุนมูลนิธิ มรว.เสนีย์ ปราโมทย์ เพื่อให้ความช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง

สำหรับผู้ที่มีจิตศรัทธาที่จะช่วยเหลือ อดีตจอมพลังสาว “เกสร ชูบาล” สามารถโอนเงินเข้าบัญชี นางสาวเกสร ชูบาล ธนาคารเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) สาขาย่านตาขาว จ.ตรัง ออมทรัพย์ทวีโชค เลขบัญชี 011572513948