ไต๋เรือจ่ายค่าปรับห้าแสนยึดปลา 2 ตัน ซ้ำเคราะห์ถูกสั่งหยุดออกทะเล 30 วัน
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากสมาคมประมงจังหวัดพังงาว่ามีเรือประมงกระทำความผิดพร้อมดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายจนถึงขั้นปรับตามกฎหมาย แต่ถูกสั่งให้หยุดเดินเรือออกหาปลาโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า
จึงเดินทางเข้าเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พบนายธนา เกตุสอาด อายุ 49 ปี ไต๋เรือวรภัทร 16 พร้อมลูกเรือประมง รวมจำนวน 36 คน อยู่บริเวณแพปลา ป ดวงทวีพร 1 บ้านทับละมุ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา กำลังซ่อมแซมเครื่องมือและอวนดำ อยู่ภายในเรือวรภัทร 16
จากการสอบถามทราบว่าเรือวรภัทร 16 นายธนา ได้ซื้อมาจากนายมนัส สุขวาณิชวิชัย อยู่เลขที่ 91/21 หมู่ 1 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง เมื่อต้นเดือน ส.ค.61 ที่ผ่านมา และถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในข้อกล่าวหา
ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศกรมประมง เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการแจ้งเข้าออกท่าเทียบเรือประมงพาณิชย์ พ.ศ.2560 โดยนายธนา แจ้งนำเรือออกจับปลาในทะเลอันดามันโดยมีลูกเรือจำนวน 35 คน ขณะที่มีลูกเรือออกไปจริงจำนวน 36 คน ทำให้ผิดตามข้อกล่าวหาดังกล่าวจริง
จากนั้นมีการดำเนินการตามระเบียบของทางราชการโดยมีการเสียค่าปรับจำนวนเงิน 500,000 บาท พร้อมยึดปลาทูลังจำนวน 2,000 กิโลกรัม ในวันที่ 22 ส.ค.61 และมีหนังสือเพิกถอนการสั่งกักเรือประมงและเครื่องมือทำการประมง ลงวันที่ 23 ส.ค.61 จึงถือว่าเป็นการเสร็จสิ้น
จากนั้นทางนายธนา เตรียมพร้อมจะออกเรือจึงได้ซื้อเครื่องมือหาปลา พร้อมเตรียมน้ำมันเรือ น้ำแข็ง และอุปกรณ์ต่างๆ โดยตกลงจ้างลูกเรือพร้อมเสนอค่าจ้าง ค่าแรง ค่าอาหาร รวมเป็นเงินกว่า 600,000 บาท
จนกระทั่งมีหนังสือ ให้ระงับการเดินเรือออกหาปลาเป็นระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค.61 จนถึง 30 ก.ย.61 ทำให้นายธนา เสียเงินการเตรียมสิ่งของและค่าจ้างทั้งหมดอีกครั้ง
โดยนายธนา เกตุสอาด อายุ 49 ปี ไต๋เรือวรภัทร 16 กล่าวว่า เหตุที่ถูกปรับจากการกระทำผิดไปนั้นตนเองยังพอรับได้ หลังจากจ่ายค่าปรับก็มีหนังสือจากศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออกเรือประมงพังงา เพิกถอนการสั่งกักเรือประมงและเรื่องมือทำการประมงเรียบร้อย
แสดงว่าตนเองสามารถนำเรือออกหากินตามอาชีพได้โดยทำตามขั้นตอนตามกฎหมาย แต่กลับมีหนังสือแจ้งตนเองไม่ให้นำเรือออกหาปลาเป็นระยะเวลา 30 วัน ขณะที่ตนเองลงทุนเตรียมออกหาปลาทำให้สูญเงินลงทุนซ้ำไปอีก รวมแล้วตนเองสูญเงินทั้งค่าปรับและค่าไม่ได้ออกหาปลาไปกว่าล้านบาท
ด้านนายทวี แพใหญ่ กรรมการสมาคมประมงจังหวัดพังงา กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่เคยเจอทั้งในจังหวัดพังงาเองหรือจังหวัดอื่น เรื่องนี้ทางสมาคมได้รวบรวมข้อมูลและนำเสนอในที่ประชุมเพื่อหาข้อเท็จจริง
ซึ่งจะนำไปสู่การประชุมสมาคมประมงแห่งประเทศไทยเพื่อเป็นกรณีตัวอย่าง ซึ่งอาจจะเกิดการกลั่นแกล้งของภาครัฐก็เป็นไปได้