สารพัดวิธี "ฆ่าตัวตาย" 'รสนิยม' แยกแยะได้ตามเชื้อชาติและเผ่าพันธุ์

สารพัดวิธี "ฆ่าตัวตาย" 'รสนิยม' แยกแยะได้ตามเชื้อชาติและเผ่าพันธุ์

สารพัดวิธี "ฆ่าตัวตาย" 'รสนิยม' แยกแยะได้ตามเชื้อชาติและเผ่าพันธุ์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากรายงานอัตราการฆ่าตัวตายในประเทศไทย ประจำปี 2560 ของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าประเทศไทยมีอัตราการฆ่าตัวตายเท่ากับ 6.03 (อัตราต่อแสนประชากร)

โดยภาคเหนือมีอัตราการพยายามฆ่าตัวตายสูงสุดมากกว่าภาคอื่นๆ มี ‘แม่ฮ่องสอน’ เป็นจังหวัดที่มีอัตราการฆ่าตัวตายมากที่สุดของภาค เท่ากับ 14.55 (อัตราต่อแสนประชากร) รองลงมาคือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้

ในส่วนของจังหวัดชลบุรีมีประชากรประมาณ 1,479,401 คน ปี 2560 พบว่ามีการฆ่าตัวตายอัตราต่อแสนประชากรจำนวน 4.33 (ตามทะเบียนบ้าน) และมีผู้เสียชีวิตจำนวนทั้งหมด 96 ราย (จำนวนตามสถานที่เสียชีวิต) รวมทั้งจังหวัดคิดเป็นร้อยละ 6.49 (อัตราต่อแสนประชากร)

1535962460446

ถึงแม้ “โรคซึมเศร้า” จะเป็นสาเหตุที่พบได้มากในผู้ที่ คิดสั้นและพยายามจะฆ่าตัวตาย แต่ยังคงมีปัจจัยอื่นๆ ที่นำไปสู่สาเหตุของการฆ่าตัวตายได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความรักที่ไม่สมหวัง ความเครียดจากการเรียน การทำงาน ครอบครัว อาการป่วยเรื้อรัง และความน้อยเนื้อต่ำใจอะไรบางอย่างในชีวิต

ในอดีตคนที่คิดสั้นมักจะเลือกใช้วิธีการปลิดชีพตัวเองเพียงไม่กี่วิธี อาทิ กินยาพิษ, ผูกคอตาย, ยิงตัวตาย, วิ่งออกไปกลางถนนให้รถชน, นอนบนรางรถไฟให้ม้าเหล็กทับ หรือถ้าในจังหวัดที่มีตึกสูงก็จะมีการฆ่าตัวตายด้วยการ ‘ดิ่งพสุธา’

แต่ปัจจุบันสังคมมีความเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย วิธีการฆ่าตัวตายก็มีพัฒนาการต่างไปจากเดิม ซึ่งแต่ละวิธีก็มีขั้นตอนค่อนข้างจะแปลก แหวกแนว และน่าหวาดเสียว มากขึ้นทุกที

เมืองพัทยา จ.ชลบุรี มีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติเดินทางมาท่องเที่ยวและใช้เป็นที่ อาศัยพักพิงในบั้นปลายของชีวิต วิธีการฆ่าตัวตายแบบแปลกๆ และสุดสยอง ก็มีที่มาจากชาวต่างชาติแทบทั้งนั้น

ไม่ว่าจะเป็นการใช้ถุงครอบหัว, ปิดห้องจุดเตาอั้งโล่รมควันตัวเอง, ต่อท่อไอเสียเข้ามาในรถยนต์ที่ ปิดกระจกทั้ง 4 ด้าน, ใช้มีดหรือของมีคมทำร้ายตัวเอง หรือแม้กระทั่งเอาศีรษะมุดลงไปในถังน้ำที่มีความสูงไม่ถึ ง 1 เมตร ก็สามารถกระทำการอัตวินิบาตกรรมได้

46872989556

ยกตัวอย่างกรณีการเสียชีวิตของ นายสเท็น ลันด์โฮล์ม (Mr.Sten Lundholm) อายุ 62 ปี สัญชาติสวีเดน ภายในห้องน้ำของห้องพักย่านชายหาดจอมเทียน เมืองพัทยา เมื่อกลางดึกวันที่ 6 ก.ค.2559 จากการตรวจสอบสภาพศพพบว่าอยู่ ในท่านั่งยองๆ ศีรษะทิ่มลงไปในถังน้ำพลาสติกขนาด 50 ลิตร สีดำ ที่มีน้ำอยู่เต็มถัง

โดยมีถุงกอล์ฟทับอยู่บริเวณต้นคอ สาเหตุที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ฟันธงว่าเป็นการฆ่าตัวตาย เนื่องจากพบจดหมายที่เขียนด้วยลายมือระบุว่า หากตัวเอง(ผู้ตาย)เป็นอะไรไป ก็ขอให้คนที่พบศพช่วยโทรศัพท์ติดต่อญาติที่ประเทศสวีเดนให้ทราบด้วย

และเมื่อสอบสวนพยานแวดล้อมทำให้ ทราบว่าผู้ตายมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเงินขาดมือ ทำให้เกิดอาการเครียดเลยตัดสินใจฆ่าตัวตาย

16 ธ.ค.ปีเดียวกัน พบศพนายแฟรงค์ โทมัส เคช อายุ 52 ปี สัญชาติอเมริกันลอยอืดอยู่ในทะเล ห่างจากหาดแสม บนเกาะล้าน ประมาณ 200 เมตร สภาพศพสวมชุดดำน้ำ มีเชือกผูกมัดติดเสาปูนในทะเล ที่ลำคอถูกของมีคมบาดจนเป็นแผลเหวอะหวะ!

คดีนี้ตอนแรกตำรวจตั้งประเด็นและพุ่งเป้าไปว่าน่าจะถูกฆาตกรรม แต่สุดท้ายก็กลับลำฟันธงว่าเป็นการฆ่าตัวตายแบบพิสดาร เนื่องจากมีพยาน-หลักฐานยืนยันชัดเจนแบบจัดเต็ม

1535864148336

ส่วนในปีนี้ เมื่อวันที่ 6 ก.ค.61 ที่ผ่านมา นายจิน เฉินอี้ นักท่องเที่ยวชาวจีนวัย 27 ปี ซึ่งพักอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านพัทยาใต้ เกิดความเครียดเรื่องปัญหาครอบครัว เลยตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยการก่อไฟในเตาอั้งโล่ถึง 2 เตา ก่อนยกไปตั้งไว้ในห้องน้ำ

แล้วปิดประตูหน้าต่างห้องอย่างมิดชิด จากนั้นก็ไปนั่งอยู่ในห้องน้ำ เพื่อตั้งใจสูดเอาควันไฟเข้าไปให้เต็มปอด สุดท้ายก็เลยได้ตายสมใจปรารถนา

ล่าสุดวันที่ 3 ก.ย.61นายมิเชล ฮอสเทลเลอร์ คุณปู่วัย 80 ปี ชาวฝรั่งเศส ปีนระเบียงห้องพักบนชั้น 17 ของคอนโดฯ แห่งหนึ่ง ก่อนทิ้งตัวกระโดดลงไปจนร่างกระแทกพื้นเสียชีวิตคาที่ ทั้งๆ ที่ดูจากวัยอีกไม่กี่ปีก็น่าจะหมดอายุขัยไปตามธรรมชาติ แต่คุณปู่เมืองน้ำหอมก็ตัดสินใจลิขิตชีวิตตัวเอง ส่วนสาเหตุมาจากปัญหาครอบครัว

“มนูญ ใจตรง” เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา เล่าประสบการณ์การเก็บศพที่ทำมากว่า 20 ปี ให้ฟังว่า เคยเก็บศพคนฆ่าตัวตายมาแล้วนับไม่ถ้วน ส่วนการฆ่าตัวตายแต่ละวิธีเท่าที่เห็นส่วนใหญ่แยกได้ตามลักษณะของเชื้อชาติ

1535962460446

อาทิ หากเป็นชาวเอเชีย โดยเฉพาะ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย ฯลฯ มักจะใช้วิธีรมควัน หรือไม่ก็เอาถุงครอบหัวให้ ขาดอากาศหายใจ ซึ่งเป็นการตายแบบไม่อุจาดตา แต่ถ้าตายแบบชนิดที่ว่า 'ศพไม่สวย' มักจะเป็นชาวยุโรปและอเมริกา

เพราะชอบใช้ของมีคมปาดแขน ปาดคอ แทงตัวเอง หรือไม่ก็ดิ่งพสุธากระโดดตึกลงมากระแทกพื้นจนร่างแหลกเหลว ตับไตไส้พุงทะลัก เลือดแดงฉานเป็นที่น่าสยดสยอง

โดยส่วนใหญ่จะใช้ตึกคอนโดมิเนียม หรือห้างสรรพสินค้าที่มีคนพลุกพล่าน เป็นสถานที่จบชีวิตตัวเอง ขณะที่คนไทยก็ใช้วิธีการแบบเดิมๆ ไม่ว่าจะ ผูกคอตาย , ยิงตัวตาย , กินยาตาย เป็นต้น

1535864163209

ทางด้านนายบิล (ขอสงวนนามสกุล) ชาวอังกฤษในวัย 60 ปี ที่พักอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านพัทยากลาง ยอมรับว่า ในอดีตเมื่อไม่นานมานี้ เคยพยายามจะฆ่าตัวตายด้วยการใช้ มีดกรีดแขนและแทงร่างตัวเองจนเลือดโชกมาแล้ว สาเหตุเกิดจากความเครียดเรื่องอาการป่วยเรื้อรังรักษาไม่หายขาด

แต่บังเอิญวันนั้นเพื่อนมาเห็นเสียก่อน จึงรีบโทรศัพท์แจ้งให้หน่วยกู้ภัยมารับตัวไปส่งโรงพยาบาล โดยแพทย์ได้ทำการเยียวยาจนพ้นขีดอันตรายก็เลยไม่ได้ตายสมใจ ภายหลังญาติพี่น้องคนในครอบครัว และเพื่อนๆ ในประเทศบ้านเกิดทราบข่าว

ต่างพากันเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาให้กำลังใจถึงขอบเตียง ทำให้ตัวเองคิดได้และตัดสินใจที่ จะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อคนที่เรารักและรักเรา

1535864160750

สำหรับการฆ่าตัวตายด้วยวิธี แปลกๆ ของชาวต่างชาตินั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ "คนเมืองแพ" ได้เข้าพบ พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา เพื่อขอสัมภาษณ์ความคิดเห็นในมุมมองของตำรวจ แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ

พร้อมกับให้เหตุผลสั้นๆ ว่า เรื่องฆ่าตัวตายกำลังเป็นกระแสทางสังคม ทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงจึงสั่งงดให้สัมภาษณ์

สรุปแล้วนอกจากโรคซึมเศร้า จะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คนคิดสั้นแล้ว การฆ่าตัวตายก็ยังเกิดขึ้นได้จากอีกหลายปัจจัย ทั้งความเครียด , ผิดหวังเสียใจในเรื่องความรัก ฯลฯ รวมถึงโรคไบโพล่าห์ หรือโรคอารมณ์สองขั้ว ที่ 'เสก โลโซ' กำลังเป็นป่วยอยู่ในขณะนี้ด้วย เพราะหากเป็นระยะสุดท้าย ก็อาจจะทำให้คิดฆ่าตัวตายได้เช่นกัน

ดังนั้น...คนในครอบครัวและคนรอบ ข้างจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการคอยสังเกตสัญญาอันตราย หากคนใกล้ตัวเกิดความผิดปกติ ก็ควรรีบพาไปปรึกษาแพทย์ เพื่อจะได้หาวิธีการที่เหมาะสมในการรักษา เพื่อทำให้คนที่กำลังท้อแท้สิ้นหวังมีกำลังใจ และกลับมามีชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook