สมาคมนักกฎหมายสิทธิฯ จี้รัฐหยุด "ฟ้องปิดปาก" เพจแฉคดีข่มขืนเกาะเต่า
สมาคมนักสิทธิมนุษยชน เผยแพร่แถลงการณ์ในหน้าเว็บไซต์ของตัวเอง เรียกร้องให้ภาครัฐทบทวนและหยุดดำเนินคดีกับแอดมินเพจซีเอสไอ แอลเอ (CSI LA) และคนที่แชร์ข้อมูลจากเพจนี้อีก 12 คน เกี่ยวกับคดีข่มขืนบนเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี
แถลงการณ์นี้ ออกร่วมกับอีก 3 องค์กร คือ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม มูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน และสมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งมีเนื้อหาระบุว่า แม้ภาครัฐรู้อยู่แล้วว่า สุดท้ายแล้วการฟ้องร้องนี้ก็จะโดนยกฟ้องในชั้นศาล แต่ยังเดินหน้าฟ้องร้องอยู่ จึงถือเป็นการใช้กลยุทธ์ทางกฎหมายเพื่อต่อต้านการมีส่วนร่วมของประชาชน หรือ การฟ้องเพื่อปิดปาก ที่เป็นการใช้สิทธิอย่างไม่ถูกต้อง
"ทั้งๆที่รู้ว่าการกระทำของประชาชนที่ใช้สื่อออนไลน์ดังกล่าวมีสิทธิอันชอบธรรมที่จะทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย และในที่สุดอัยการจะสั่งไม่ฟ้อง หรือศาลยกฟ้อง ถือว่าเข้าข่ายเป็นการฟ้องคดีปิดปาก (Strategic Litigation Against People Participation-SLAPP) และอาจถือว่าเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตหรือมาศาลโดยมือที่ไม่สะอาดได้"
นอกจากการเรียกร้องให้หยุดดำเนินคดีกับแอดมินเพจซีเอสไอ แอลเอ และคนที่แชร์โพสต์อีก 12 คน องค์กรทั้ง 4 รายนี้ ยังเรียกร้องไปยังภาครัฐอีก 2 ข้อ คือ ให้ตำรวจและพนักงานสอบสวนปฏิบัติกับคนที่โดนจับไปแล้ว และผู้ต้องสงสัย ตามสิทธิทางกฎหมาย และควรมีการทบทวนการใช้และเนื้อหาของ พ.ร.บ. ว่าด้วยการประทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 (พ.ร.บ. คอม)
เมื่อช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อต่างประเทศรายงานว่า นักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษ อายุ 19 ปี ได้มาท่องเที่ยวบนเกาะแห่งนี้ และไปแจ้งความกับตำรวจว่าโดนข่มขืน แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความ
>> สื่ออังกฤษตีข่าว นทท.ถูกมอม-ข่มขืนบนเกาะเต่า อ้าง ตร.ไม่รับแจ้งความ
หลังจากข่าวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้ลงพื้นที่เกาะแห่งนี้ และระบุว่าไม่มีการข่มขืนเกิดขึ้นแต่อย่างใด แต่แม่ของสาวที่อ้างตัวว่าโดนข่มขืน ยืนยันว่ามีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริง แถมมีดีเอ็นเอของผู้ร้ายด้วย
>> แม่สาวอังกฤษ ยืนยันลูกโดนข่มขืนที่เกาะเต่า ระบุมี DNA ของคนร้าย
