ฟ้าหลังฝน “กัปตัน ชลธร” ออกงานครั้งแรก แจกรอยยิ้มสดใส

ฟ้าหลังฝนมักสดใสเสมอ คำๆ นี้คงใช้ได้กับนักแสดงหนุ่มวัยรุ่น กัปตัน-ชลธร คงยิ่งยง ที่หลังจากเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 4 ก.ย. เจ้าตัวได้เข้าไกล่เกลี่ยกับอดีตแฟนสาว มิ้ง-ศวภัทร สุนทรนันท์ และอีกฝ่ายได้ออกมายอมรับความจริงต่อหน้าสื่อมวลชนว่าไม่ได้ตั้งท้อง แต่ที่โกหกไปทั้งหมดเพียงเพราะรักมาก

>>"มิ้ง ศวภัทร" สารภาพโกหกว่าท้อง บอกทำไปเพราะรัก "กัปตัน"

ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 5 ก.ย. กัปตัน ชลธร ได้เดินทางมาร่วมงานแถลงข่าวละครล็อตใหม่ ช่องวัน 31 เลือดข้นคนจาง ซึ่งถือว่าเป็นงานแรกที่เจ้าตัวมีโอกาสได้กลับมาพบแฟนคลับอีกครั้งหลังเกิดเรื่องขึ้น โดยงานนี้กัปตันมาพร้อมรอยยิ้มที่สดใสเหมือนเคย พร้อมเปิดใจให้ฟังว่า ที่ผ่านมาไม่ได้ออกงานเพราะอยากให้เวลาตัวเองได้ทบทวนอะไรหลายๆ อย่าง ยอมรับว่าเครียดจนถึงขั้นอยากออกจากวงการ แต่พอวันนี้ได้กลับมาเจอทุกคนอีกครั้งก็รู้สึกดีใจมาก

หลังจากผ่านเรื่องราว ตอนนี้เป็นอย่างไร ?
"วันนี้เป็นวันแรกที่ได้มาออกงาน หลังจากที่ไม่ได้ออกงานมานานพอสมควร รู้สึกดีใจที่ได้มาออกงาน เจอเพื่อนๆ เจอแฟนคลับ ก็รู้สึกดีใจครับ"

ก่อนหน้านี้เรียกว่าเก็บตัวไหมไม่กล้าไปไหน ?
“จริงๆ ผมนั่งคิดทบทวนกับตัวเองมากกว่ากับสิ่งที่มันเกิดขึ้นอยากเรียนรู้ตัวเอง"

เห็นว่าไปปฏิบัติธรรมมา เป็นอย่างไรบ้าง ?
"เหมือนได้ข้อคิดอะไรหลายๆ อย่าง เรามีสิ่งที่ต้องตั้งใจทำงาน เราต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะทำอะไร"

เห็นไปปล่อยปลากับเจเจ ต้าเหนิง ?
"เมื่อวานมีโปรเจกต์ใหม่กับเจเจ กับต้าเหนิงครับ อยากให้รอติดตาม เป็นโปรเจกต์พิเศษดีๆ อีกหนึ่งโปรเจกต์ น่าจะเดือนนี้แหละจะได้เห็นกัน"

ไม่ได้ไปทำบุญหรือไปแก้บนใช่ไหม ?
"ไม่ได้แก้ครับ"

ย้อนกลับไปตอนนั้นเราต้องจัดกระบวนการความคิดของเรายังไงบ้าง ?
"ก็คงนอยด์ๆ แหละ กลับไปคิดทบทวนกับตัวเองว่าอะไรที่เราทำพลาดไป เรากลับไปแก้ไขไม่ได้ เราแค่ต้องทำวันข้างหน้าต่อไปอย่างระมัดระวังที่สุดครับ"

เห็นพี่ย้งบอกช่วงนั้นเราดูเครียดและซึมไปเลย ?
"ก็เรียกว่าซึมๆ แหละ แต่ยังไม่ถึงซึมเศร้า ไม่ถึงกับต้องไปปรึกษาคุณหมอครับ"

IG: ccaptainchกัปตัน ชลธร คงยิ่งยง

ตอนนั้นมันยากต่อการทำงานไหม ?
"ก็ยากนะครับ เพราะว่ามันเกิดอะไรหลายอย่าง ที่มันเปลี่ยนแปลงกับผมไปเยอะเหมือนกัน ก็เคยมีความคิดท้อเหนื่อย"

อยากออกจากวงการไปเลยไหม ?
"มันก็มีความคิดแบบนั้นขึ้นมาบ้าง คนเราพอเวลาเหนื่อยและท้อก็อาจจะมีความคิดแบบนี้ แต่เราชอบและรักผลงาน เราอยากผลิตผลงานดีๆ ออกมา เรามีเพื่อนๆ มีพี่ๆ มีผลงานที่เราตั้งใจทำมา ก็อยากให้ทุกคนรอติดตามผลงานที่ตั้งใจทำมากจริงๆ"

ให้กำลังใจตัวเองยังไงบ้าง ?
"ไม่ค่อยได้ให้หรอก ส่วนมากก็ดูยูทูป อ่านหนังสือ มันก็ทำให้ไม่ต้องคิดอะไรได้เยอะเหมือนกัน แค่จดจ่อกับสิ่งที่ทำครับ"

ย้อนกลับไปตอนที่เรา โพสต์ #มิ้งโป๊ะแตก ขึ้นมา คนคิดว่าเรื่องมันกระจ่างแล้ว เราเลยโพล่งขึ้นมา ?
"เรื่องนั้นจริงๆ แล้ววันนั้นผมไปวัดพอดี ผมกำลังทำกิจอยู่ แล้วผมก็เปิดทวิตเตอร์อยู่พอดี แล้วเอาใส่กระเป๋าหนีบไว้มันก็คงขยับ พอเห็นอะไรไม่รู้แว๊บๆ เปลี่ยนไปหน้าต่อไป ขอให้ไม่ใช่นะ ไปดูก็เลยดันกดโดน"

คนคิดว่าเรารู้ความจริงตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ?
"พูดไม่ได้หรอกว่าเรารู้ความจริงหรือไม่รู้ ณ ตอนนั้นก็คงปล่อยวาง อยากให้ชีวิตสงบ"

ตอนที่ไปปฏิบัติธรรมได้ข้อคิดอะไรกลับมาบ้าง ?
"ได้ข้อคิดหลายๆ อย่าง ตั้งใจทำงาน มีสติตลอดเวลาในการจะทำอะไร ได้การปล่อยวาง ปล่อยความคิดอะไรบางอย่าง การอยู่กับธรรมชาติ เราไม่สามารถเป็นคนกำหนดอะไรหลายๆอย่างได้แต่เราเป็นส่วนหนึ่งถ้ามันจะเกิดอะไรขึ้น เราก็ได้แต่ยอมรับและสู้ต่อไป ในอนาคตก็คงมีอะไรอีกเยอะรอเราอยู่"

วันนี้ได้กำลังใจจากแฟนคลับหนาแน่นมาก ?
"ดีใจครับที่ได้เจอคนที่เคยอยู่กับเรา และเราไม่ได้มีโอกาสได้เจอเขา วันนี้เป็นวันแรกเลยที่ได้มาเจอแฟนคลับ"

แฟนคลับให้กำลังใจเรามาตลอด ไม่เชื่อว่าข่าวที่เกิดขึ้นเป็นความจริง ?
"ก็ตัดสินไม่ได้หรอกว่าเป็นจริงหรือไม่จริง สุดท้ายมันก็จบลงได้ด้วยดี เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ให้ความคิดอะไรกับผม"

เรารู้สึกว่าได้ความสุขกลับคืนมาสู่ชีวิตอีกครั้ง ?
"เราคงไม่ได้คิดไปถึงอนาคตหรอก ตอนนี้กำลังมีความสุข เราแค่รู้สึกว่าตอนนี้เราได้ทำงานที่เรารัก ได้ดำเนินชีวิตในแบบที่อยากจะเป็น แค่นี้ก็ทำให้มีความสุขกับตัวเองมากขึ้นแล้ว คงหาความสุขได้กับตัวเอง"

ตอนแรกที่ไม่ออกงาน เพราะค่ายสั่งห้ามใช่ไหม ?
"ผมว่ายังไม่ถึงเวลามั้ง"