สาวไส้คดีอุ้มสาวม้งเรียกค่าไถ่ 25 ล้าน-ตร.เผยเชื่อมโยงแก๊งยานรกขัดขากันเอง

( 5 ก.ย. 61 )  รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภ. 5 ได้นำตัว นางหลี่ เลาจาง อายุ 50 ปี ชาวเขาเผ่าม้ง บ้านปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ พร้อมกับบุตรชาย เข้าพบพูดคุย

หลังจากที่บุตรชายแจ้งว่าวันที่ 29 ส.ค. 61 แม่ถูกคนร้าย 5 คน หลอกให้ไปคุยกันเรื่องเงินที่บ้านพักใน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ แล้วถูกอุ้มไปมัดตามัดมือ ไปไว้รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ใน อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย ต่อมา ทาง พ.ต.อ.ทรงกริช ออนตะไคร้ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ นำกำลังบุกไปช่วย นางหลี่ เลาจาง เอาไว้ได้ และสั่งการไล่ล่าคนร้าย

กระทั่งควบคุมตัวคนร้ายจำนวน 3 คน ประกอบด้วย นาย สิทธิศักดิ์ อายุ 37 ปี นายธีรธร  อายุ 32 ปี  และ นางสาว หทัยรัตน์ อายุ 21 ปี เอาไว้ได้ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวเขาเผ่าม้ง โดยเจ้าหน้าที่จับกุมทั้งหมดได้ในพื้นที่ อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย ต่อเนื่องกับ พื้นที่ สภ.แม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่

เบื้องต้นแจ้งข้อหา พร้อมกับพวกที่หลบหนี “ร่วมกัน กับพวกที่หลบหนี เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด หรือ หน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง”

และผู้ต้องหาที่ 1 ในข้อหา “สมคบกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์เกินกว่า 20 กรัม ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามหมายจับของศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ 37/2555 ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555

และผู้ต้องหาที่ 2 ในข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ซึ่งไม่มีหมายเลขทะเบียนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาต

ทั้งนี้การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2561 ที่ผ่านมา คนร้ายมาด้วยกันประมาณ 5 คน ได้อุ้ม นางหลี่ เลาจาง จากบ้านพื้นที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ จากนั้นได้เรียกค่าไถ่จำนวนเงิน 25 ล้านบาท ซึ่งต่อมาลูกชายของนางหลี่ ได้ เตรียมเงิน 25 ล้านบาท ไว้แล้ว และได้แจ้งความกับตำรวจ

จนกระทั่ง ซ้อนแผนจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้ 3 คน ประกอบด้วย นาย สิทธิศักดิ์ นายธีรธร และ นางสาว หทัยรัตน์ ส่วนคนร้ายอีก 2 คน ได้หลบหนีไปได้

ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การรับสารภาพว่า คนบงการให้อุ้มเรียกค่าไถ่ในครั้งนี้ คือ “นายเปา” ไม่ทราบชื่อจริงสกุลจริง ซึ่งหลบหนีไปได้ หากสำเร็จจะเอาเงินมาแบ่งเท่าๆ กัน รวม 5 คน ตกคนละ 5 ล้านบาท แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจซ้อนแผนจับได้เสียก่อน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบแก๊งเหล่านี้ว่าเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายด้วยหรือไม่

โดย พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภาค 5 ได้เปิดเผยว่า พวกแก๊งอุ้มเรียกค่าไถ่ครั้งนี้ มาจากสาเหตุที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งส่วนกลางและภาคเหนือ ภาคอีสาน ได้จับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่ได้ 8 ครั้ง และพบว่าเป็นเครือข่ายเกี่ยวโยงกันมา ซึ่งผู้ต้องหาอีกหลายคนก็หลบหนีไปได้

จากการขยายผลจับได้เฉพาะคนขับรถ และคนรับจ้าง ส่วนตัวการใหญ่ตอนนี้ยังจับไม่ได้เลย แต่ยึดของกลางไว้จำนวนมาก ทำให้พวกแก๊งยาเสพติดนั้น เกิดระแวงกันเอง คิดว่ามีการหักหลังกันและเรียกร้องเงินค่าจำหน่ายยาเสพติด พวกที่รับมาจำหน่ายก็ไม่มีให้ และหลบหนีไปแล้ว

พวกขบวนการยาเสพติดจึงได้มาอุ้ม นางหลี่ เล่าจาง แม่ของผู้ต้องหารายสำคัญที่หลบหนีคดียาเสพติด เพื่อบีบให้ลูกของนางหลี่ หาเงินมาไถ่ตัวดังกล่าว 

ต่อมาทางญาติของนางหลี่ ได้เข้ามาร้องขอตำรวจดำเนินการช่วยเหลือ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนนำเงินสดปลอมไปให้กับกลุ่มผู้ต้องหาที่รับจ้างมาอุ้มนางหลี่ โดยนัดหมายกันที่บริเวณเขตท้องที่ สภ.แม่โจ้ อ สันทราย จ.เชียงใหม่ และจับผู้ต้องหาได้ 2 คน เป็นผัวเมียกัน และขยายผลไปช่วยเหลือนางหลี่ ได้สำเร็จ ซึ่งถูกจับมัดไว้ที่รีสอร์ท เขตท้องที่ สภ.พญาเม็ดราย จ.เชียงราย

โดยพบคนเฝ้า 1 คน จึงได้นำตัวมาสอบปากคำที่ตำรวจภาค 5 เพื่อขยายผลจับกุมที่เหลือคนบงการจ้างต่อไป ทั้งนี้ ตำรวจ เผยด้วยว่า กลุ่มพวกนี้เป็นกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดที่ ระแวงกันและจับญาติพี่น้องของผู้ร่วมขบวนการเพื่อบีบขอเงินค่ายาเสพติด