กระบะสองผัวเมียยางระเบิด! เสียหลักอัดก๊อบปี้เทรลเลอร์ รถพังยับ สาหัสทั้งคู่

กระบะสองผัวเมียยางระเบิด! เสียหลักอัดก๊อบปี้เทรลเลอร์ รถพังยับ สาหัสทั้งคู่

กระบะสองผัวเมียยางระเบิด! เสียหลักอัดก๊อบปี้เทรลเลอร์ รถพังยับ สาหัสทั้งคู่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สองผัวเมียขับกระบะกลับจาก รพ.บุรีรัมย์ มุ่งหน้าจะกลับบ้าน ระหว่างทางเกิดยางระเบิดเสียหลักพุ่งอัดก๊อบปี้ข้างรถเทรลเลอร์ที่วิ่งสวนทางเต็มแรง จนล้อเทรลเลอร์หลุดกระเด็นแม็กบิดเบี้ยว ด้านหน้ากระบะพังยับยุบไปจนถึงคอนโซลทำให้สองผัวเมียถูกอัดกระแทกเต็มแรงติดภายในสาหัส กู้ภัยฯ เร่งงัดช่วยเหลือนำส่ง รพ.

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 6 ก.ย. 61 ได้เกิดอุบัติเหตุรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กท-4566 บุรีรัมย์ ซึ่งมีนายสวัสดิ์ กุลชลิต อายุ 60 ปี เป็นคนขับพา นางสุกัญญา กุลชลิต อายุ 53 ปี ภรรยานั่งข้าง เพิ่งกลับจากหาหมอที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์

แต่พอมาถึงบริเวณบ้านโคกใหญ่ ม.2 ต.ร่อนทอง อ.สตึก ยางรถล้อหน้าด้านขวาเกิดระเบิดทำให้รถเสียหลักหมุนไปอัดก๊อบปี้ด้านข้างรถเทรลเลอร์ หมายเลขทะเบียน 70-8703 เชียงใหม่ ที่วิ่งสวนทางมาเต็มแรง จนล้อรถเทรลเลอร์หลุดกระเด็นออกจากตัวรถ และแม็กบิดเบี้ยว

ขณะที่ด้านหน้าของรถกระบะก็พังเสียหายยับเยินยุบเข้าไปจนถึงคอนโซล กระจกแตกละเอียด ทำให้นายสวัสดิ์ และนางสุกัญญาถูกอัดกระแทกอย่างแรงได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังได้รับแจ้งหน่วยมูลนิธิสว่างจรรยาธรรมสถานบุรีรัมย์ ได้ใช้เครื่องตัดถ่างทำการงัดซากรถ เพื่อช่วยเหลือนำทั้งสองสามีภรรยา ส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน

จากการสอบถามนายไชยวัฒน์ ทองโสม อายุ 50 ปี คนขับรถเทรลเลอร์ บอกว่าได้ตีรถเปล่ามาจาก จ.นครพนม กำลังจะไปขึ้นลำไยที่ จ.จันทบุรี เพื่อส่งต่อไปยังประเทศจีน ซึ่งก็ขับมาตามปกติ แต่พอถึงจุดเกิดเหตุรถกระบะคันดังกล่าวเสียหลักข้ามเลนมาโดยไม่ทราบสาเหตุ

ซึ่งตนพยายามหักหลบแล้วแต่ก็ไม่พ้น ทำให้รถกระบะพุ่งชนบริเวณด้านข้างอย่างแรงจนล้อหลุดกระเด็น และแม็กบิดเบี้ยว ทำให้คนขับและคนนั่งข้างได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สตึก หลังได้รับแจ้งก็เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานในเบื้องต้น จากนั้นจะได้สอบปากคำคู่กรณีทั้งสองฝ่าย และพยานแวดล้อมที่เห็นเหตุการณ์ เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook