ญาติไม่ติดใจผลชันสูตร "น้องแอ๋ม" เพิ่งฉุกคิดลาง...ใส่เสื้อดำตอนไปส่ง

จากกรณี น.ส.กรกมล หรือ น้องแอ๋ม อายุ 25 ปี นักศึกษาสาว ถูกฆาตกรรมเสียชีวิตพร้อมกับรูมเมท น.ส.ฐิฏิอร หรือ น้องออย เสียชีวิตภายในอะพาร์ตเมนต์ในเมืองซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา กระทั่งล่าสุดมีรายงานถึงผลชันสูตรมาจากทางเจ้าหน้าที่ที่อเมริกา ระบุว่าน้ำหนักการเสียชีวิตน่าจะเป็นเหตุฆ่ากันตายและฆ่าตัวตายตาม ตามข่าวที่รายงานไปแล้วนั้น

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับ นายวีระศักดิ์ หลีนวรัตน์ สจ.ปทุมธานี พี่ชายของน้องแอ๋ม ได้เปิดบ้านพักใน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยระบุว่า หลังจากทราบเรื่องจากญาติที่ต่างประเทศที่เดินเรื่องให้ ก็ไม่ได้ติดใจเกี่ยวกับเสียชีวิตของน้องแอ๋ม ก็ยอมรับในการตรวจสอบข้อเท็จจริงของทางเจ้าหน้าที่ที่นั่น

>> ผลชันสูตรศพ 2 นักศึกษาไทย เทน้ำหนัก "ฆ่ากันเอง" น้องแอ๋มถูกแทงหลายจุด

ขณะนี้ทางครอบครัวที่เมืองไทยก็เร่งรวบรวมเอกสารฉบับจริง เพื่อส่งไปให้กับญาติที่อยู่ต่างประเทศ พร้อมทั้งมอบอำนาจให้ญาติดำเนินการรับศพน้องแอ๋มส่งกลับเมืองไทย ส่วนทางครอบครัวที่เมืองไทยก็จะได้เตรียมเร่งรอรับศพน้องสาวและนำมาประกอบพิธีทางศาสนา ซึ่งคาดว่าร่างจะมาถึงเมืองไทยภายในสัปดาห์หน้า

นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ทุกคนในครอบครัวยังคงทำใจไม่ได้กับการสูญเสียครั้งนี้ แต่ก็ต้องเดินหน้าทำเรื่องเพื่อขอรับร่างน้องกลับมาประกอบพิธีทางศาสนา แต่ที่ทุกคนเป็นห่วงคือคุณพ่อ เพราะพ่อรักน้องแอ๋มมา คอยดูแลน้องอย่างใกล้ชิด ไปรับไปส่งโรงเรียนตลอด เป็นเหมือนลูกหัวแก้วหัวแหวน และเป็นน้องสาวที่น่ารักของพี่ๆ และครอบครัวทุกคน

น้องแอ๋มเป็นคนร่าเริง น่ารัก และจะคอยปลอบหรือเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีกันในครอบครัวเสมอ และน้องเป็นคนชอบเรียนหนังสือ มีความตั้งใจจะเรียนเพื่อให้ได้ปริญญาโทใบที่ 2 หวังจะเป็นผู้พิพากษาให้ได้ ส่วนเพื่อนรูมเมทก็รู้จักกันมาตั้งแต่นาน ตั้งแต่เรียนปริญญาโทใบแรกแล้ว แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้กับครอบครัวที่ต้องสูญเสียน้องไปอย่างไม่มีวันกลับ

สมาชิกครอบครัวเกือบทุกคนสวมใส่เสื้อสีดำ มาส่งน้องแอ๋มบินไปอเมริกา โดยไม่ได้นัดหมาย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องลางที่มีคนทายทักในโลกโซเชียลมีเดีย นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ก็เพิ่งกลับมาดูรูปภาพเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ขณะที่ไปส่งน้องแอ๋มที่สนามบิน ก็พบว่าทุกคนครอบครัวพากันสวมเสื้อสีดำโดยไม่ได้นัดหมาย อีกทั้งหลายๆ ครั้งที่น้องจะไปต่างประเทศ ก็มักจะไปส่งที่สนามบิน แต่ก็ไม่พร้อมหน้าพร้อมตากันทุกคนเช่นนี้

โดยน้องแอ๋มกอดกับตนและบันทึกภาพถ่ายภาพกัน ทั้งที่ปกติตนจะเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยกอดน้อง หรือถ่ายรูป แต่ครั้งนี้มีการกอดและลูบหัวเล่นกันอย่างมีความสุข ไม่คิดว่าจะเป็นการอำลากันครั้งสุดท้ายแบบนี้

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ต้องพยายามเข้มแข็งเพื่อเดินหน้า ดูแลพ่อและครอบครัวต่อไป และรอรับน้องสาวกลับเมืองไทย พร้อมประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดนาบุญ คลองเจ็ด เป็นวัดที่เก็บอัฐิคุณแม่เอาไว้ จึงตั้งใจให้น้องไปอยู่กับคุณแม่ ส่วนทางครอบครัวของเพื่อนน้องแอ๋ม หลังจากทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดก็ยังไม่ได้ติดต่อกันแต่อย่างใด