"แพท ณปภา" ดีใจที่สุด "เบนซ์ เรซซิ่ง" ได้ประกันตัว แต่แอบกังวลชีวิตคู่จะเป็นอย่างไร

นักแสดงสาวอารมณ์ดี แพท-ณปภา ตันตระกูล ออกมาเปิดใจกลาง งาน Lingerie Parade Terminal 21 หลังศาลชั้นต้น มีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัว เบนซ์-อัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง ในคดีร่วมสมคบฟอกเงิน ที่ศาลสั่งจำคุก 8 ปี โดยตีราคาประกัน 1 ล้านบาท พร้อมกำหนดให้ติดกำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ (กำไล EM) และห้ามมิให้จำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล

>>ด่วน! ศาลให้ประกันตัว “เบนซ์ เรซซิ่ง” ห้ามออกนอกประเทศ-ติดกำไล EM

ซึ่งงานนี้นอกจาก แพท ณปภา จะออกมาเปิดใจถึงความรู้สึกถึงข่าวดีดังกล่าวแล้ว เจ้าตัวก็ยังได้เผยถึงแพลนการใช้ชีวิตคู่ในอนาคตให้เราฟังด้วยว่า

ศาลมีคำสั่งให้ เบนซ์ เรซซิ่ง ประกันตัวเรียบร้อยแล้ว ?

"ใช่ค่ะ แพททราบเรื่องตอนประมาณ 4 โมงกว่าๆ เห็นว่าเวลามันล่วงเลยมาสักระยะแล้วก็เลยโทรไปถามคุณแม่สามี ซึ่งท่านก็ให้ข่าวว่าประกันตัวได้แล้ว แพทก็เลยบอกท่านว่า โอเคเลยค่ะแม่ และหลังจากนี้เราควรจะทำยังไงต่อ เพราะแพทเองก็อยากจะไปรับเขา คือถ้าเสร็จจากงานนี้ แพทก็ยังเหลืออีกแค่หนึ่งงานที่รับไว้เท่านั้นเอง"

ความรู้สึกของเราหลังจากที่ลุ้นมาทั้งวันเป็นยังไงบ้าง ?

"คือที่ผ่านมาเรายื่นประกันบ่อยมากๆ และเราก็จะรู้อยู่แล้วว่าเวลาโดยประมาณที่จะรู้ผลก็คือ ช่วง 4 โมงครึ่ง ถึง 5 โมง ซึ่งมันก็เลยทำให้แพทแอบเอะใจเล็กๆ ว่าเอ๊ะทำไม 4 โมงกว่าแล้วยังไม่มีข่าว เพราะฝั่งนั้นยังไม่โทรมาบอก แพทก็เลยตัดสินใจโทรไปหาคุณแม่พี่เบนซ์อย่างที่เล่าไป (ยิ้ม) ถามว่าแพทรู้สึกยังไง เอ่อ...จริงๆ ก็แอบลุ้นอยู่แล้วนะคะ เพราะด้วยรูปคดีต่างๆ แพทแอบคิดคนเดียวว่าน่าจะประกันได้"

แสดงว่าที่ผ่านมาเราก็มีความหวังที่จะได้กลับมาอยู่เป็นครอบครัว ?

"แพทคิดว่าเขาน่าจะเป็นคนที่อยากได้อิสรภาพมากที่สุด เพราะตอนนี้แพทเองก็ชินแล้ว ชินกับการที่ได้อยู่กับลูกแบบนี้ มันจึงทำให้แพทรู้สึกว่าคนที่น่าจะดีใจที่คือเขาและครอบครัวเขามากกว่า"

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเราได้มีโอกาสคุยอะไรกับเบนซ์บ้างไหม ?

"คุยค่ะ เขาก็บอกว่าเขารออย่างเดียวเลย เขามีความหวังมากว่าเย็นนี้เขาจะได้กลับบ้าน เขาต้องได้กลับบ้าน แพทก็เลยบอกเขากลับไปว่า โอเค เย็นนี้เราจะได้กลับไปบ้านพร้อมๆ กัน"

ส่วนตัวเราเองแอบคิดไหมว่าอาจจะต้องผิดหวังอีก ?

"คือเราเคยผ่านช่วงเวลานี้มาหลายครั้งมาก เพราะหลายๆ ครั้งเราเองก็ยื่นประกันและมันก็ไม่ได้ มีหวังทุกครั้งและก็ไม่ได้ รวมถึงครั้งนี้ด้วย คือต่อให้ทุกคนจะมั่นใจแค่ไหน แต่ใจแพทเองก็ยังแอบรู้สึกว่าอย่าหวังเยอะ เพราะมันไม่ใช่การประกันตัวครั้งแรก และเราก็ทำกันมาอย่างนี้นับครั้งไม่ถ้วนแล้ว เรียกว่าทำใจไว้บ้างมันก็ดีเหมือนกัน ดีกว่าที่จะต้องผิดหวัง ซึ่งทางพี่เบนซ์เอง แพทก็รู้สึกนะว่าต่อให้เขาพูดว่าคืนนี้เจอกัน แต่ลึกๆ เขาก็แอบทำใจไว้ครึ่งหนึ่งเหมือนกันค่ะ"

ตั้งใจจะให้เป็นยังไงต่อไป ?

"ณ ตอนนี้ยังนึกไม่ออกเลยค่ะว่าจะเป็นยังไง คงต้องรอคืนนี้เลยค่ะว่ามันจะเป็นยังไงต่อจากนี้ ตอนนี้พอเรารู้ข่าวได้ออก เราดีใจ เราอยากไปรับ แต่เราบอกกับเขาไว้ ตั้งแต่เราไปเยี่ยมที่ศาลแล้วว่า พี่เบนซ์ วันนี้น้องทำงานยาวเลยนะ เลิกอีกที 2 ทุ่มเลย ถ้าไปรับทันก็จะไปรับให้ได้ที่เรือนจำ แต่ถ้าไม่ได้ก็ค่อยเจอกันที่บ้านละกัน”

จะพาน้องไปด้วยไหม ?

"ไปอยู่แล้วค่ะ จุดประสงค์ของเขาคือเป็นลูกมากที่สุดแล้วค่ะ"

ทราบไหมว่าเบนซ์ต้องติดเครื่องติดตามตัว ?

"ทราบพร้อมๆ กันนี่แหละค่ะ มันเป็นเงื่อนไขที่คุณแม่ของเขายื่นประกันด้วย แล้วศาลก็อนุญาตด้วย"

วางแผนว่าจะไปอยู่บ้านแพทหรือบ้านแม่เบนซ์ ?

"อันนี้เราก็ค่อยว่ากัน ตอนนี้เราไม่รู้ว่าด้วยหลักเกณฑ์ของการติดเครื่อง มันต้องยังไง เดี๋ยวคืนนี้เราต้องคุยกัน แพทก็ไม่รู้ว่า ติดเครื่องแล้วไปไหนได้ไหม หรือต้องอยู่ในจุดที่เขาแจ้ง คงต้องรอกลับไปคุยกับเขาว่ายังไง เราเองก็บอกเขาตั้งแต่แรกว่าเราสะดวกอยู่บ้านเรามากกว่า หรือช่วงนี้จะแยกกันไปก่อน ต้องคุยกันอีกที"

เรายืนยันจะอยู่บ้านเรา ?

"แพทบอกเขาแล้วว่า แพทสะดวกอยู่บ้านแพทมากกว่า"

ความรู้สึกเป็นยังไงบ้างจะกลับมาอยู่เป็นครอบครัว ?

"นั่นสิ เดี๋ยวคงต้องคุยกันคืนนี้ เราห่างกันนานมากเลย เราห่างกันเป็นปีเลย ความเคยชินต่างๆ พอเราย้ายกลับมาอยู่บ้านเรา ก็คิดไม่ออกว่า เราจะต้องย้ายกลับ หรือเขาย้ายมา เขาใส่เครื่องติดตามตัว คือมันเยอะแยะไปหมดเลย เราก็เลยตอบไม่ได้"

มีความกังวลส่วนตัวอะไรไหม ?

"ถามจากใจไม่มีกังวลอะไรแล้วค่ะ กังวลแค่ว่าชีวิตคู่เราจะเป็นยังไง"

แสดงว่าต้องรอคุยกันหลังจากนี้ ?

"แพทมีคุยกับเขาไปแล้ว เวลาไปเยี่ยมเขา เราสะดวกใจที่อยู่แบบไหน ตอนนั้นเขาก็บอกว่ารอเขาออกมาแล้วค่อยคุยกันเป็นกิจลักษณะดีกว่า รอฟังเหตุผล แล้วค่อยคุยกันจริงจัง"

แพท ให้สัมภาษณ์ถึงความสัมพันธ์ต่อไปกับ เบนซ์ เรซซิ่ง

เรามีปมในใจอยู่แล้วว่าเราจะใช้ชีวิตคู่แบบไหน ?

"ก็แอบมีหน่อยนึง เราผ่านอะไรมาเยอะมากในชีวิตเรา ชีวิตครอบครัวเรา ในชีวิตของเราสองคน เขาอาจจะไม่ได้รับรู้ทั้งหมด เพราะเราไม่ได้เล่าทั้งหมด ไม่รู้จะเริ่มพูดยังไง แต่ล่าสุดก็บอกว่าถึงเวลาที่เราจะต้องเริ่มคุยกันแล้วว่าจะยังไง"

 

ในใจมีไว้ในทิศทางไหน ?

"ดีค่ะ เป็นในแนวทางที่ดี เราสองคนต้องตัดสินร่วมกัน เขาน่าจะโอเคนะคะ"

เป็นการได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ?

"อันนั้นแหละต้องมาคุยกัน จริงๆ แพทไม่ได้อยากจะแยก เพียงแต่ว่าด้วยหลายๆ อย่าง เช่น พอเรากลับมาบ้าน ลูกเราโต ใช้พื้นที่ เรามีคนดูแลทั้งเรา และเราสามารถดูแลแม่เราได้ มันครบวงจร มันก็ต้องมานั่งคุยกันตรงนี้ว่า ยังไงคุณจะมากับเราไหม ถ้ายืนยันว่าเขาไม่โอเค ก็ต้องคุยกันในเนื้อหาว่าเราสองคนจะเอายังไงกันดี คือปัญหาหลายๆ อย่างทุกครอบครัวมีกันอยู่แล้ว"

แม่สามีจะโอเคไหม ถ้าให้เบนซ์มาอยู่กับเรา?

"เรื่องนั้นให้เขาเป็นคนคุยดีกว่าค่ะ ในเมื่อวันนี้ ก่อนหน้านี้ตัวกลางไม่อยู่ มันก็จะยากหน่อย วันนี้ตัวกลางออกมาล่ะ เราก็ให้คนกลางเป็นคนจัดแจงให้ง่ายกว่า"

กลัวลูกจำเบนซ์ได้ไหม ?

"เราคิดว่าพี่เบนซ์จะต้องดีใจอยู่แล้ว แต่เรซซิ่งนะสิ มันต้องอยู่ในสายเลือด ก็ต้องรู้จักบ้างแหละใครเป็นพ่อใครเป็นแม่"

ไม่ได้ห่วงเรื่องความห่าง ?

"คือตัวเราแค่รู้สึกว่า อย่าทำให้พ่อผิดหวังนะ เขาอุตส่าห์ออกมา เอ็งอย่าไปทำอะไรนะ ไม่น่ารักนะ อันนี้คือความเป็นแม่"

น้องไปเจอมามีปฏิกิริยายังไง ?

"น้องไม่มีปฏิกิริยาเลย น้องเล่นไมค์อย่างเดียว ไม่รู้ว่าเขารู้รึเปล่าว่านี้คือพ่อ ต้องมาลุ้นกัน"

กลัวไหมว่าเขาจะกลายเป็นคนแปลกหน้า ?

"แพทเคยบอกว่าแพทให้ลูกดูรูปแล้วพยายามชี้ว่า ป๊ะป๋า ยังไงลูกก็ไม่อินเท่ากับลูกได้เจอ วัดกันตรงนี้ว่าหลังจากนี้เขาจะทำหน้าที่พ่อได้ดีแค่ไหนเท่านั้นเอง หลายคนบอกอย่าลืมเปิดรูปพ่อให้ดูบ่อยๆ แพทรู้สึกลูกไม่เข้าใจ ลูกเข้าใจว่าเราเปิดรูปทำไม เราคิดว่าการที่เขาได้ออกมา เขาจะได้ทำหน้าที่ป๊ะป๋าเต็มที่ เขาอยากให้ลูกรักเขา เขาก็ต้องทำ มันไม่ใช่แค่บอกว่าคนนี้ป๊ะป๋าต้องรักนะ มันไม่ใช่ สำหรับแพท แพทเลี้ยงมา แพทรู้ แพทถึงได้อยู่กับเขาตลอดเวลา ใส่ใจทุกรายละเอียด ถ้าพี่เบนซ์อยากให้ลูกรักก็ถึงเวลาของคุณที่จะแสดงความเป็นพ่ออยากให้ลูกรักก็ใส่เขาเยอะๆ"

ยังรักเบนซ์อยู่ไหม ?

"ก็ยังรักค่ะ ยังรักเหมือนเดิม"

การออกมาครั้งนี้เป็นการพิสูจน์ ?

"ทั้งคู่ค่ะ ว่าครอบครัวเราจะทำได้ดีแค่ไหน เพราะก่อนหน้านี้เราก็ยอมรับว่าพี่เบนซ์ยังรักความเป็นอิสระของเขา หลายๆ อย่าง ความเป็นเพลย์บอย พอวันหนึ่งมีลูกก็งวยงง ประจวบกำลังจะปรับตัวได้ก็ต้องห่างจากลูก แล้วไม่ได้หายไปแค่ 3 เดือน แต่นี้หายไปปีกว่า เราก็ต้องกลับมาสร้างกันอีกรอบ ถ้าได้กลับมาก็เป็นเรื่องน่ายินดีมากๆ ของเราสามคน ถ้าสุดท้ายจะเป็นยังไงก็บอกไม่ได้ วันนี้จะเป็นวันแรกของครอบครัวเราค่ะ"

คุณแม่เบนซ์ว่ายังไงบ้างที่วันนี้เป็นวันแรกที่ศาลปล่อยตัวเบนซ์ ?

"เดี๋ยวขอโทรหาแม่สามีก่อนค่ะ"

เขาโอเคกับเงื่อนไขของเราไหม ?

"อย่างที่บอกทุกอย่างของเราสองคนเกิดขึ้นเร็วไปหมด ท้อง แต่งงาน ลูกคลอด สามีไม่อยู่ กระชั้นชิดมาก ในระยะไม่ถึง 2 ปี เรารับอะไรมาเยอะมาก หลังจากนี้คือ เรื่องราวของเราจริงๆ แล้ว ที่จะต้องมีดูกันว่าสามารถประคับประคอง รับกันได้ไหมในเรื่องต่างๆ ถามว่าแม่สามีโอเคไหม แม่สามีก็ต้องโอเค เราก็ให้เขาคุยกัน แม่สามีก็ต้องโอเคกับเรา ลูกชายว่ายังไง แม่สามีก็ว่าอย่างงั้น"

ถามถึงไปออกรายการที่กลัวว่าลูกจะโดนล้อ ?

"เมื่อนานมาแล้ว เรามีโอกาสพาลูกไปเยี่ยมคุณพ่อเขา แล้วเรารู้สึกแบบคนที่ไปเยี่ยมด้วยกัน เขาก็จะแบบนั่นไง ลูกเบนซ์ ตอนนั้นน้องยังเด็ก แต่พอโตขึ้นมา เราก็แอบกลัวว่าจะมีคนล้อลูกเราไหม ต่อให้เราอธิบาย เราอธิบายกับการที่ลูกโดนล้อไม่เหมือนกัน ทุกคนก็บอกว่าเราคิดแทนลูก เราก็ยอมรับว่าคิด เวลาเราไปโรงเรียนยังล้อชื่อพ่อแม่กันเลย เราก็กลัวว่าถ้าเกิดลูกเราไปโรงเรียน"

"คนก็รู้จักน้อง รู้จักเรา แล้วข่าวของพ่อแม่เขาก็เป็นข่าวดัง คนก็พูดถึง แล้วเพื่อนจะล้อเขาไหม “ว่าไอ้เรซที่พ่อมันติดคุก” เราก็ใจไม่ดี กลัวเขารู้สึกไม่ดี แต่เราก็สอนลูกให้รักพ่ออยู่แล้ว พาเขาไปเยี่ยมป๊ะป๋าเขาบ่อยๆ เราไม่ได้รู้สึกว่าคนติดคุก คนอยู่ในเรือนจำ เป็นคนไม่ดี ครั้งนึงถ้าเกิดเขาเคยทำผิด เราก็ควรให้โอกาส พอพูดแล้วก็เป็นอะไรที่ติดอยู่ในใจเราตลอด ห้ามใครล้อลูกฉันนะ"

เราสร้างเกาะป้องกันให้ลูกยังไง ?

"พูดความจริงค่ะ แพทคิดว่าความจริงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แพทไม่เคยสร้างเรื่องอะไรทั้งนั้น สอนเขาในสิ่งที่เป็นจริง มันไม่ได้มีอะไรน่ากลัวเลย พ่อเขาเข้าไปด้วยเหตุผลอะไร แล้วตอนนี้พ่อเขาออกมาแล้ว เราก็ควรจะดีใจ ถ้าลูกเราเข้าใจก็ดี บางทีถ้าเด็กโดนล้อมากๆ เขาอาจจะไม่เข้าใจไปเลยก็ได้"

กลัวไหมจะเป็นปมในใจ ?

"ไม่ค่ะ ตอนนี้แพทแค่กลัวไปก่อน แต่มันก็ยังไม่เกิดขึ้น และหวังว่าจะไม่เกิดขึ้นเท่านั้นเองค่ะ"