ชุดพยัคฆ์ไพรติดตามขบวนการค้าไม้เครือข่าย “มู่หลาน” ผงะเจอโรงเลื่อยกลางป่าละเมาะ

ชุดพยัคฆ์ไพรติดตามขบวนการค้าไม้เครือข่าย “มู่หลาน” ผงะเจอโรงเลื่อยกลางป่าละเมาะ

ชุดพยัคฆ์ไพรติดตามขบวนการค้าไม้เครือข่าย “มู่หลาน” ผงะเจอโรงเลื่อยกลางป่าละเมาะ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

( 7 ก.ย. 61 ) ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า ประกอบด้วย ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้  ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร (ศปป.4 กอ.รมน.) เจ้าหน้าที่ ส่วนป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรป่าไม้ ภาคเหนือ เจ้าหน้าที่ ทหาร ชป.ข่าว ประจำที่ว่าการอำเภอแม่พริก มทบ.32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี

เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.22 แม่ปะ นำโดย นายสักรินทร์ ปัญญาใจ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและปราบปรามภาคเหนือ กรมป่าไม้ พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน ได้เดินทางเข้าไปยัง เส้นทางลัดเลาะในป่า หลังได้รับแจ้งว่ามีรถบรรทุก สิ่งของต้องสงสัยและคาดว่าน่าจะหลบเข้าไปซุกซ่อน ในพื้นที่ดังกล่าว

เหตุเกิดที่ป่าละเมาะ ในหมู่บ้านบ้านแม่ปะแพะ ตำบลแม่ปะ อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง โดยระหว่างเส้นทางได้พบ โรงเลื่อยชื่อ ธนัตต์ ธนากร จำกัด ได้เปิดประตู ไว้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 โดย พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวและพบว่า มีโรงเลื่อยไม้ และกองไม้แปรรูป รวมทั้งไม้สักท่อนจำนวนมากกระจัดกระจายไปในพื้นที่

เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังเข้าตรวจสอบและพบคน งานนอเฝ้าโรงเลื่อยแห่งนี้ 1 คนเป็นชายสูงอายุ  ได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ก่อนที่จะมีการประสานให้เจ้าของโรงงานมาพบ เบื้องต้นพบว่า เจ้าของโรงเลื่อยแห่งนี้ คือ นางภัสพร อายุ 50 ปี ได้เข้ามาพบเจ้าหน้าที่ และได้นำหลักฐานการเปิดโรงงาน การขออนุญาตแปรรูปไม้ และการทำสิ่งประดิษฐ์ ปรากฏว่า ใบอนุญาตทั้งหมด หมดอายุตั้งแต่ปี 2560 ได้อ้างว่า อยู่ระหว่างการขออนุญาต

ส่วน การจัดทำบัญชีไม้ทั้งหมด สามีตนเองเป็นคนทำการจัดบัญชีไม้เข้าหรือออกโรงเลื่อย และไม้ทั้งหมดซื้อมาจากส่วนป่าออปงและส่วนป่า สปก.ของชาวบ้าน เจ้าหน้าที่จึงให้ประสาน สามีเจ้าของโรงงานให้เดินทางมาพบ และพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับดาบตำรวจแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดลำปาง และได้เดินทางเข้ามาพบและชี้แจ้งทั้งหมดทันที

ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสารบัญชีไม้ต่างๆ พบว่า หลายๆ จุดบัญชีไม้เข้าออกไม่ตรงกัน อีกทั้ง ไม้สักทองท่อนที่พบคาดว่าอายุน่าจะเกิน กว่า 100 ปี เพราะมีขนาดใหญ่ และไม้สักที่แปรรูปอีกจำนวนมาก พบว่า ยังไม่ได้รับการอนุญาตให้แปรรูปไม้ และสิ่งประดิษฐ์ แต่กลับมีไม้สักแปรรูปนับ 1 พันแผ่นเหลี่ยม อุปกรณ์แปรรูปทั้งโรงงานครบครัน

โดยอุปกรณ์แปรรูไม้เป็น เลื่อยยนต์ 5 เครื่อง พบว่า ไม่มีใบอนุญาต รวมทั้งแท่นเลื่อยและเลื่อยวงเดือน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดอุปกรณ์ทั้งหมดทันที ส่วนไม้สักท่อน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งให้ทางเจ้าของว่า ได้อายัดไม้ทั้งหมดไว้ตรวจสอบ ที่มาที่ไปของไม้ทั้งหมด เพราะเอกสารต่างๆ ในการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ไม่ตรงกันหลายจุด จึงต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง คาดว่าน่าจะใช้เวลา 3-5 วันในการที่จะตรวจสอบทั้งหมดได้ และให้ความเป็นธรรมแก่เจ้าของโรงเลื่อยให้นำเอกสารหลักฐานต่างๆ มาแสดงให้ครบต่อไป

ส่วนการเข้าตรวจยึดจับกุมครั้งนี้ พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน เปิดเผยว่า ได้ติดตามขายผล ขบวนการค้าไม้ข้ามชาติ กลุ่มเครือข่าย “นางมู่หลาน” ที่หลบหนีการจับกุมในขณะนี้ โดยมีไม้เถื่อนส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถขนถ่ายลงท่าเรือที่ จังหวัดเชียงรายได้ และได้บรรทุกมาซุกซ่อนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ

และที่จังหวัดลำปาง คือหนึ่งในพื้นที่ที่จะมีการนำไม้ชิงชันมาซุกซ่อน ทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามหาข่าวจนพบรถต้องสงสัยวิ่งเข้ามายังพื้นที่ อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง แล้วหายไปจึงออกติดตามและพบพื้นที่ต้องสงสัย 3 จุด จึงได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ ตำบลแม่ปะ 2 จุด ไม่พบไม้ชิงชันแต่พบโรงเลื่อยผิดกฎหมาย

ส่วนอีก 1 จุดที่ ตำบลเถินบุรี ไม่พบการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งจะได้เร่งติดตามไม้ที่เหลือและหลุดรอดการติดตามจับกุมครั้งนี้ต่อไปและคาดว่าจะสามารถจับกุมได้ในเร็วๆ นี้

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ ของ ชุดพยัคฆ์ไพรติดตามขบวนการค้าไม้เครือข่าย “มู่หลาน” ผงะเจอโรงเลื่อยกลางป่าละเมาะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook