ชาวบ้านสุดระทม "ไร่อ้อย 300 ไร่" ถูกเพลิงเผาวอด เสียหายกว่า 3 ล้านบาท
8 ก.ย. 2561 ที่ จ.สุพรรณบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายถวัลย์ มีทองคำ ชาวบ้าน หมู่ 3 ต.แจงงาม อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี ว่าเกษตรกรชาวไร่อ้อย ตำบลแจงงาม กว่า 10 รายได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากถูกไฟไหม้ไร่อ้อยได้รับความเสียหายรวมกว่า 300 ไร่
จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่บริเวณ หมู่ 7 ต.แจงงาม พบเกษตรกว่า 20 รายที่ได้รับความเดือดร้อนมาดูไร่อ้อยของตนเองด้วยสีหน้าเคร่งเครียดพร้อมกันเดินดูต้นอ้อยที่กำลังงามถูกไฟไหม้เสียหาย บางรายถึงกับน้ำตาคลอเบ้า
จากการสอบถามนายชื่นชม โฉมกอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.แจงงาม ซึ่งนำลูกบ้านลงพื้นที่สำรวจความเสียหายของไร่อ้อยที่ถูกไฟไหม้ เพื่อทำรายงานส่งทางอำเภอ เล่าว่าพื้นที่เกิดเหตุอยู่ในพื้นที่หมู่ 7 ต.แจงงาม
มีเกษตรกรจากหมู่ 3-5-6-7 กว่า 10 รายได้มาทำไร่อ้อยในพื้นที่และถูกไฟไหม้เสียหายรวมทั้งหมดกว่า 300 ไร่ ซึ่งอ้อยที่ถูกไฟไหม้นั้นเพิ่งอายุได้ประมาณ 7-8 เดือน ซึ่งอายุอ้อยยังไม่ถึงกำหนดเก็บเกี่ยว
ตามปกติอ้อยจะต้องมีอาประมาณ 11-02 เดือนโดยจะครบกำหนดช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม โรงงานจึงจะเปิดหีบและรับซื้ออ้อย โดยเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุไฟไหม้ไร่อ้อย
เจ้าของพยายามช่วยกันดับแต่ไม่ทัน จึงลุกลามขยายเป็นวงกว้างทำให้มีไร่อ้อยถูกไฟไหม้เสียหายกว่า 300 ไร่ ซึ่งตนได้ลงพื้นที่เก็บรวบรวมรายละเอียด ซึ่งมูลค่าความเสียหายครั้งนี้รวมแล้วประมาณ 3,000,000 บาท เพื่อนำส่งทางอำเภอเพื่อเตรียมให้การช่วยเหลือในลำดับต่อไป
นางพยุง ธัญญเจริญ อายุ 45 ปีเจ้าของไร่อ้อย อยู่หมู่ 3 ต.แจงงาม เล่าว่าตนทำไร่อ้อย จำนวน 10 ไร่ลงทุนไปแล้วกว่า 500,000 บาทและอ้อยกำลังงาม รอเวลาเก็บเกี่ยวซึ่งเหลือเวลาอีกไม่ถึง 3 เดือนก็จะครบกำหนดตัดแล้ว แต่กลับมาถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด
ยุคนี้ยิ่งเป็นยุคที่ข้าวยากหมากแพง เงินจะซื้อข้าวสารแทบจะไม่มี ทำให้เครียดมาก เช่นเดียวกับนายประทวน ขังธรรมเนียม อายุ 46 ปีชาวบ้านหมู่ 6 ซึ่งทำไร่อ้อย 24 ไร่ และถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายทั้งหมดกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เนื่องจากตนได้ลงทุนกู้เงินทั้งจาก ธกส. และเจ้าหน้าที่นอกระบบมาลงทุนทำไร่อ้อยพร้อมกับซื้ออุปกรณ์ ท่อส่งน้ำ ท่อน้ำหยด ปั๊มน้ำต่างๆ รวมแล้วกว่า 100,000 บาท แต่ไร่อ้อยกลับมาถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด ตนและครอบครัวจึงเครียดมากเงินทองที่กู้มาก็นำมาลงทุนในไร่จนหมด
สำหรับเหตุการณ์ไฟไหม้ไร่อ้อยครั้งนี้ยังไม่ทราบว่ามีผู้ไม่หวังดีเป็นการลอบวางเพลิง หรือมีคนมือบอนโดยก้นบุหรี่ลงมาในไร่อ้อยโดยไม่ตั้งใจ อย่างไรก็ตามอยากขอฝากผู้ที่ไม่หวังดี และคนที่สูบบุหรี่แล้วชอบดีดก้นบุหรี่ลงพื้นโดยไม่ระวัง
ให้คิดถึงหัวอกเกษตรกรที่มีความลำบาก ทั้งจากการทำไร่และหนี้สินที่ต้องกู้เขามาลงทุน เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้อ้อยที่ถูกเผาก็ไม่สามารถนำไปใช้อะไรได้ แล้วยังต้องเสียเงินจ้างคนมาตัดอ้อยทิ้ง
ทางด้านนายถวัลย์ มีทองคำ เกษตรกร หมู่3 ต.แจงงาม กล่าวว่าอยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยลงมาดูและหาทางช่วยเหลือเกษตรเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ขณะนี้เกษตรกรหมดเนื้อหมดตัวกันแล้วไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้ที่กู้มาลงทุน
เนื่องจากอ้อยที่ถูกไฟเผาก็นำไปใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ และยังจะต้องเสียเงินจ้างคนงานมาตัดทิ้งเพื่อที่จะปลูกใหม่ ซึ่งต้องใช้เงินอีกจำนวนมาก ขณะนี้เกษตรกรที่ถูกไฟไหม้ไร่อ้อยต่างพากันเครียดมาก เหตุการณ์ไฟไหม้ไร่อ้อยครั้งนี้นับว่ายังโชคดีที่ไม่ลุกลามเข้าบ้านเรือนประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง