ธรรมดาโลกไม่จำ...หนุ่มวัย 38 ปี ยืนผูกคอตายท่าพิสดาร
ธรรมดาโลกไม่จำ หนุ่มวัย 38 ปี ยืนแอคท่า ขาข้างหนึ่งเหยียบโซฟา อีกข้างยกเหยียบขอบโซฟา ก่อนใช้เชือกไนลอนผูกกับขื่อบ้านข้างริมหน้าต่างดับคาบ้านพัก
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 9 ก.ย. 61 ร.ต.อ.วินัย แสนสุข รองฯ สว.สส.สภ.เมืองอำนาจเจริญ รับแจ้งเหตุมีคนผูกคอเสียชีวิต ที่บ้านอ่างใหญ่ หมู่ที่ 3 ต.บุ่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนที่จะประสานแพทย์เวร รพ.อำนาจเจริญ และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยอำนาจเจริญ รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ที่ชั้นล่างของบ้าน พบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อภายหลังคือนายอำนาจ ทนุจันทร์ อายุ 38 ปี สภาพศพท่อนบนเปลือยเปล่าไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นสีดำ ผู้ตายใช้เชือกไนลอนผูกเข้ากับขื่อบ้านที่อยู่ติดกับหน้าต่าง
โดยผู้ตายหันหน้าไปทางหน้าต่าง ขาข้างขวายกขึ้นเหยียบขอบโซฟาไม้ประดู่ ส่วนขาอีกข้างเหยียบตรงที่นั่งของโซฟาไม้ ซึ่งดูแล้วเป็นท่าที่แปลกประหลาดมากสำหรับคนที่จะผูกคอตายในลักษณะนี้ จากนั้นจึงได้ให้เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยจังหวัดอำนาจเจริญ นำศพของผู้เสียชีวิตลงมาเพื่อตรวจสอบ
จากการสอบถามนายอำนวย ทนุจันทร์ อายุ 41 ปี พี่ชายของผู้ตายซึ่งเป็นผู้พบศพคนแรกเล่าว่า ตนเองทำงานอยู่ จ.อุบลราชธานี วันนี้เป็นวันหยุดจึงได้กลับบ้านมาเยี่ยมพ่อคือนายฟอง ทนุจันทร์ อายุ 82 ปี ซึ่งพ่ออยู่ที่บ้านกับน้องชาย (ผู้ตาย) เพียง 2 คน โดยผู้ตายมีหน้าที่ดูแลพ่อ
เมื่อเวลาประมาณ 12.10 น. ขณะที่ตนเองกลับมาถึงบ้าน เห็นพ่อนั่งอยู่หน้าบ้าน จึงถามพ่อว่าน้องไปไหนทำไมพ่อทิ้งให้พ่ออยู่คนเดียว พ่อตอบว่าไม่รู้เหมือนกัน ไม่เห็นตั้งแต่เมื่อคืนแล้วไม่รู้ว่าไปไหน ตนเองจึงเปิดประตูเข้าไปในบ้านก็ถึงกับผงะ เมื่อพบว่าน้องชายได้ผูกคอตัวเองเสียชีวิตแล้ว
จึงได้ออกมาเรียกเพื่อนบ้าน และโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งสาเหตุการฆ่าตัวตายในครั้งนี้คาดว่าผู้ตายคงเกิดอาการประสาทหลอน เพราะพักหลังผู้ตายมักมีอาการพร่ำเพ้อ และพูดคนเดียวอยู่บ่อยครั้ง
ร.ต.อ.วินัย แสนสุข เผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้ในที่เกิดเหตุ ตามร่างกายของผู้เสียชีวิตไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้ายแต่อย่างใด พบเพียงร่องรอยที่เกิดจากการที่เชือกรัดบริเวณลำคอ
แพทย์ลงความเห็นถึงสาเหตุการเสียชีวิตครั้งนี้ เนื่องจากขาดอากาศหายใจ และเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7-8 ชั่วโมง ขณะที่ทางด้านญาติของผู้ตายเองก็ไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ จึงได้ทำการลงบันทึกประจำวันไว้ ก่อนจะมอบศพให้กับทางญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป