คนร้ายจับ พนง.บริษัทรัดคอทำร้ายร่างกาย ก่อนงัดเซฟชิงเงินสดเกือบ 70,000 บาท
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 10 กันยายน 2561 ร.ต.อ.สุริยา ผลชู รอง สว.สอบสวน สภ.คลองหลวง รับแจ้งมีเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนงัดตู้เซฟนิรภัยเพื่อลักทรัพย์เงินสด และจับพนักงานบริษัทรัดคอทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ ที่เกิดเหตุบริษัทเมืองไทย ลิสซิ่งจำกัด (มหาชน)
หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ฤทธินันท์ ปุ้ยพันธวงศ์ ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.ฐานพันธ์ เฉลิมพัชรพรกุล รอง ผกก.สส.สภ.คลองหลวง ชุดสืบสวน สภ.คลองหลวง ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน
ในที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ประกอบกิจการด้านสินเชื่อ บริการเงินกู้ทะเบียนรถยนต์ และโฉนดที่ดิน ภายในห้องใต้บันไดพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อต่อมานายอานนท์ อินอ่อน อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นพนักงานด้านสินเชื่อถูกเชือกไนลอนรัดที่ลำคอ และถูกทุบด้วยของแข็งเข้าที่หน้าท้องจนเป็นรอยแดงช้ำ
หน่วยกู้ชีพเทศบาลเมืองท่าโขลงจึงช่วยเหลือนำส่ง รพ.การุณเวช นอกจากนี้บริเวณห้องโถงใหญ่ชั้นที่ 1 พบตู้เซฟนิรภัย ยี่ห้อคิงดอม สีบรอนซ์ ขนาดความกว้าง 50 ซม. ยาว 50 ซม. สูง 50 ซม. ถูกงัดจนฝาหน้าเปิดออก ชิ้นส่วนกระจัดกระจายข้างกันยังพบค้อนเหล็ก 2 ด้าม ประแจปากตาย 4 ตัว
ขณะที่ประตูด้านหลังถูกคนร้ายใช้แม่กุญแจคล้องกับสายยูจึงไม่สามารถเปิดออกได้ เจ้าหน้าที่จึงกันบริเวณไว้เพื่อรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอย่างละเอียด โดยการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า ที่บริษัทดังกล่าวมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้จำนวน 2 ตัว และถูกคนร้ายปิดกล้องเวลา 01.20 น. และมาเปิดอีกครั้ง 09.00 น.
หลังจากที่เกิดเหตุแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างหาตัวว่าผู้ใดเป็นคนปิดเปิดกล้องวงจรปิด ทั้งนี้พบว่าอุปกรณ์ที่คนร้ายใช้งัดตู้เซฟนั้นเป็นอุปกรณ์ของทางบริษัทที่เก็บไว้ใกล้กับประตูทางออกด้านหลัง
สอบสวนเบื้องต้นนายสุทธิดนัย อินอ่อน อายุ 22 ปี เปิดเผยว่าตนเองเคยเป็นพนักงานแห่งนี้แต่ได้ย้ายไปอยู่อีกสาขาหนึ่งที่หมู่บ้านแฟลตปลาทอง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี แต่ได้เดินทางมาเพื่ออยู่กับพี่ชายเพราะเป็นวันหยุด
โดยค่ำคืนที่ผ่านมาตนเองเล่นเกมเสร็จ ก็ขึ้นนอนที่ชั้น 3 เวลาประมาณ 23.00 น. โดยที่พี่ยังนั่งกินเบียร์อยู่ด้านล่าง กระทั่งช่วงเช้า 07.00 น. ตนเองกำลังจะออกไปทำงานพบว่าผู้จัดการ และพนักงานบางส่วนรออยู่ที่ประตูหน้าพร้อมกับบ่นงึมงำว่าประตูด้านหลังล็อก
ตนเองจึงเปิดประตูเหล็กหน้าบริษัทขึ้น ก่อนที่ผู้จัดการและพนักงานอีก 2 คนจะเข้ามา จึงพบว่าตู้เซฟนิรภัยที่ภายในมีเงินสดอยู่ถูกคนร้ายงัด และลักทรัพย์เงินสดไป ก่อนจะเดินดูรอบตัวอาคารจึงพบว่าพี่ชายถูกคนร้ายรัดคอและทำร้ายร่างกายอยู่บริเวณห้องใต้บันได จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและประสานหน่วยกู้ภัย
นายสิริศักดิ์ บุญมา อายุ 33 ปี หัวหน้าฝ่ายอนุมัติสินเชื่อเปิดเผยว่า ปกติประตูด้านหลังจะไม่เคยล็อกแม่กุญแจ เพราะจะเป็นทางเข้าออกของพนักงานโดยจะล็อกเฉพาะลูกบิด แต่รุ่งเช้าที่มาทำงานพบว่าประตูด้านหลังถูกล็อกด้วยแม่กุญแจ
ตนเองจึงเดินวนมาด้านหน้าและเป็นจังหวะเดียวกันกับที่น้องชายผู้ได้รับบาดเจ็บมาเปิดประตูให้พอดี ตนเองจึงเดินเข้าไปบริษัทจึงพบว่าถูกงัดเซฟและเดินดูโดยรอบจึงพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจึงประสานหน่วยกู้ภัย ซึ่งจากการตรวจสอบพบเงินสดหายไป 69,459 บาท
พ.ต.อ.ฤทธินันท์ ปุ้ยพันธวงศ์ ผกก.สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า ได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดเก็บ DNA ของคนร้าย รวมทั้งให้ชุดสืบสวนเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริษัท ห้างร้านใกล้เคียง และสอบปากคำพยานเพื่อใช้เป็นเบาะแสในการจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป