พล.ร.ท.บรรจบ โพธิ์แดง ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ผอ.ศรชล. เขต 1 ได้รับแจ้งว่ามีเรือบรรทุกน้ำมันที่มิได้เสียภาษี วิ่งมาทางน่านน้ำแหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี

จึงได้ร่วมกับเจ้าพนักงานสรรพสามิต สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 2 ร่วมกันวางแผนจับกุม โดยมอบหมายให้ พล.ร.ต.สำเริง จันทร์โส เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 1 สั่งการให้ เรือเอกธนรัตน์ จันทนกรณ์ ผบ.เรือ ต. 264 ซึ่งลาดตระเวนอยู่ในพื้นที่เข้าตรวจสอบ

พบเรือบรรทุกน้ำมัน ช.ธาราสมุทร 2 ลักษณะเป็นเรือเหล็กตัวสีน้ำเงิน เก๋งเรือสีขาว บริเวณแบริ่ง 110 ระยะ 17 ไมล์ จากแหลมผักเบี้ย ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม่มีเอกสารแสดงประเภทเรือ

ไม่มีเอกสารมากับน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลในระวาง ลูกเรือ 6 นาย สัญชาติไทยไม่มีสัญญาจ้าง จึงได้ควบคุมเรือบรรทุกน้ำมันดังกล่าวมาจอดทอดสมอ บริเวณน่านน้ำท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

และในเวลา 09.00 น. ของวันนี้ 10 ก.ย.61 พล.ร.ท.บรรจบ โพธิ์แดง พร้อมด้วยเจ้าพนักงานสรรพสามิต สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 2 นำโดย นายนิคม เหล็กศิริ นักวิชาการสรรพสามิตชำนาญการพิเศษฯ

นายปรีดา บุญภา เจ้าพนักงานธุรการอาวุโสฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารเรือ จากทัพเรือภาคที่ 1 และเจ้าหน้าที่จากสรรพสามิต สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 2 เดินทางเข้าตรวจสอบ

จากการสอบสวน นายชัยณรงค์ อายุ 50 ปี ไต๋เรือ ทราบว่าได้นำเรือ ช.ธาราสมุทร 2 ขนาด ยาว 40 เมตร กว้าง 6 เมตร นน.บรรทุก 150 ตันกร้อส ไปบรรทุกน้ำมันดีเซล จำนวน 240,000 ลิตร ในเขตน่านน้ำไทย เพื่อนำไปส่งที่ท่าเรือมหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร แต่มาถูก จนท.ทหารเรือ เข้าจับกุมเสียก่อน

พล.ร.ท.บรรจบ โพธิ์แดง กล่าวว่าหลังจากรับแจ้ง จึงได้ประสานกับเจ้าพนักงานสรรพสามิต สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 2 วางแผนเข้าจับกุม พบน้ำมันไม่ผ่านการเสียภาษี จำนวน 240,000 ลิตร มูลค่าประมาณ 6 ล้านบาท

หากหลุดรอดไปได้จะทำให้รัฐบาลต้องสูญเสียรายได้จากการไม่เสียภาษีในครั้งนี้ประมาณ 10.6 ล้านบาท พร้อมกับจะได้มีการขยายผลถึงที่มาที่ไปของน้ำมันที่ไม่ถูกต้องในครั้งนี้ต่อไปอีกด้วย

ด้านนายนิคม เหล็กศิริ นักวิชาการสรรพสามิตชำนาญการพิเศษฯ กล่าวว่า จากการเข้าร่วมตรวจสอบพบว่าเรือไม่มีเอกสารมากับน้ำมัน จึงได้ยึดไว้ตรวจสอบเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

อัลบั้มภาพ จับเรือลักลอบขน "ดีเซลเถื่อน" กลางอ่าวไทย มูลค่าของกลางรวม 6 ล้านบาท ภาพที่ 2 / 10

จับเรือลักลอบขน "ดีเซลเถื่อน" กลางอ่าวไทย มูลค่าของกลางรวม 6 ล้านบาท