พบแล้ว-ศพชายโดดสะพานบ้านโป่ง แม่ผู้ตายเผยลูกเครียดปัญหาชีวิต

( 12 ก.ย. 61 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีชายวัย 30 ปีเศษ ตัดสินใจกระโดดสะพานวัดบ้านโป่ง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี และก่อนหน้าที่ชายคนดังกล่าวจะมากระโดดน้ำ ได้เดินทางนำแหวนและกุญแจรถไปฝากไว้ให้ลูกชายที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.4 และฝากบอกรักลูกมาก

ก่อนจะเดินร้องไห้และมากระโดดน้ำที่กำลังไหลเชี่ยวกราดจนร่างจะจมหายไปกับสายน้ำต่อหน้าเด็กนักเรียนผู้เห็นเหตุการณ์ที่กำลังบันทึกภาพไว้ได้

ล่าสุด ร.ต.อ.สุรชัย บุญอินทร์ พนักงานสอบสวน สภ.บ้านโป่ง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่กำลังเดินอยู่บริเวณริมแม่น้ำแม่กลอง ใกล้สะพานข้ามแม่น้ำแม่กลองวัดใหญ่นครชุมน์ ติดระหว่าง บ้านหัวหิน หมู่ที่ 3 อำเภอบ้านโป่ง ว่าพบศพผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นชายสภาพนอนคว่ำหน้า ใส่เสื้อสีน้ำเงินเข็ม สวมกางเกงขาสั้น ในลักษณะนอนคว่ำหน้า

จึงได้แจ้งไปยังมูลนิธิรวมใจการกุศลราชบุรี และคาดว่าจะเป็นชายวัย 30 ปีเศษ ที่กระโดดสะพานวัดบ้านโป่ง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่มูลนิธิรวมใจการกุศลราชบุรีจึงได้นำกำลังพร้อมเรือท้องแบนกู้ภัยออกไป ตรวจบริเวณเกาะกลางแม่น้ำแม่กลองที่ได้รับแจ้งดังกล่าว

จากการตรวจสอบสภาพศพมีสภาพคล้ายคลึง กับชายวัย 30 ปีเศษ ที่กระโดดน้ำฆ่าตัวตาย เจ้าหน้าที่จึงใช้เชือกผูกที่ลำตัวศพ และลากเข้ามาที่บริเวณบันไดหน้าวัดบัวงาม อำเภอบ้านโป่ง ใกล้เคียงกับที่พบศพ ประมาณ 500 เมตร จากนั้น ได้แจ้งให้ญาติของชายคนดังกล่าวทราบ

ต่อมานางบุญเสริม วัย 62 ปี ชาวบ้านโป่ง พร้อมด้วยญาติ ได้เดินทาง มายังที่เกิดเหตุ และลงไปดูสภาพศพชายคนดังกล่าว พร้อมทั้งยืนยันว่าผู้เสียชีวิต เป็นลูกชายของตนเอง ทราบชื่อต่อมาคือ นายโชคชัย อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นชายที่ปรากฎอยู่ในคลิปกระโดดน้ำเสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2561 ที่ผ่านมาจริง

>>ภาพสุดท้าย-นร.ถ่ายคลิปชายคิดสั้นโดดสะพานวัดบ้านโป่งจมหายไปกับสายน้ำ<<

จากนั้นลูกชายของนายโชคชัย ผู้เสียชีวิต ทั้ง 3 คน ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุด้วยซึ่งทั้งหมด ก็ยืนยันว่าผู้เสียชีวิตเป็นพ่อของตนเอง โดยลูกชายที่ผู้ตายนำแหวนและกุญแจไปฝากไว้ให้ก่อนมากระโดดน้ำ ได้เล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่า ก่อนหน้าที่พ่อของตนจะมากระโดดน้ำได้เดินทางไปที่โรงเรียนพร้อมทั้งนำแหวนที่พ่อใส่ติดตัวประจำ เป็นแหวนสตางค์ประเพชรและพลอย พร้อมด้วยกุญแจรถ มาฝากไว้ให้ตนโดยผ่านครูผู้ช่วยสอน ก่อนที่จะเดินทางมากระโดดน้ำฆ่าตัวตาย

ลูกชาย ยังกล่าวอีกว่าตนกับพ่อ ไม่ได้อยู่ด้วยกันซึ่งตนเองพักอยู่กับปู่กับย่า ส่วนพ่อเดินทางไปทำงานที่จังหวัดกาญจนบุรีและเลิกรากับมารดาของตน ไปเมื่อหลายปีก่อนจากนั้นก็ได้ไปคบกับภรรยาใหม่ ล่าสุดภรรยาใหม่ก็เพิ่งจะตั้งท้อง ปกติพ่อกับภรรยาใหม่ ก็จะมีการถกเถียงกันอยู่ประจำ และก็จะแยกห่างกันเมื่อดีกันก็กลับมาเหมือนเดิมและก็อยู่บ้านเดียวกัน และไม่คาดคิดว่าพ่อของตนเองจะฆ่าตัวตายได้

ส่วนทางด้านนางบุญเสริมมารดาของผู้ตายให้การว่า ผู้ตายเป็นลูกคนเดียวของที่บ้าน โดยตนเองทำงานรับจ้างเป็นแม่บ้านอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในอำเภอบ้านโป่ง ส่วนสามีก่อนหน้านี้มีอาชีพรับจ้างขับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แต่เนื่องด้วยมีโรคประจำตัวขาขวาอ่อนแรงไม่สามารถเดินได้ จึงได้หยุดวิ่งทำให้ตนเองต้องเป็นเสาหลักของครอบครัว

ส่วนผู้ตายก็ไม่มีงานทำได้แต่ไปรับจ้างขายซีดีที่จังหวัดกาญจนบุรี และเป็นคนขี้น้อยใจตั้งแต่เล็ก ก่อนหน้าเสียชีวิตไม่มีลางสังหรณ์ใดๆ เลย แต่ก็คาดว่า น่าจะเกิดจากอาการเครียด หลังจากที่ตกงาน ประกอบกับภรรยาใหม่ตั้งครรภ์ด้วย และระยะหลังหันมาดื่มเหล้าหนัก มีบ้างที่ถกเถียงกับภรรยาใหม่ ซึ่งก็จะเห็นห่างออกไปและก็กลับมา และก็อยู่บ้านเดียวกัน จึงไม่คิดว่าลูกชายจะมาคิดสั้นแบบนี้ 

หลังจากที่ลูกชายกระโดดน้ำ ภรรยาใหม่ของลูกชายได้เล่าให้ตนเองฟังว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้กลิ่นคล้ายเหม็นเน่าบนที่นอนและมีน้ำเปียกที่นอนซึ่งก็ไม่ใช่ฉี่ของเด็กจึงคิดว่าลูกชายน่าจะมาหา จนรุ่งเช้าวันนี้ตนจึงได้นำหมอน ผ้าห่ม มาโยนลงน้ำจุดที่ลูกชายกระโดดลงสะพานวัดบ้านโป่ง ตามความเชื่อ

หลังจากนั้นช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่ก็โทรมาบอก ว่า พบศพชายที่คาดว่าจะเป็นลูกของตัวตนเอง ลอยมาติดเกาะกลางแม่น้ำดังกล่าว และเมื่อมาดูก็พบว่าเป็นลูกชายของตนเองจริง ส่วนศพครอบครัว จะนำไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลศพ ณ วัดบ้านโป่ง ต่อไป