สิ้นท่าโจรรองเท้าแตะ บุกเดี่ยวปล้นเซเว่น สารภาพหาเงินเปิดร้านซ่อมรถ

แค่อยากให้ทุกคนเห็นว่า...ผมก็มีความคิด โจรรองเท้าแตะสิ้นท่า บุกเดี่ยวปล้นร้านเซเว่น สารภาพหาเงินเปิดร้านซ้อมมอเตอร์ไซค์ หวังลบข้อครหาคนที่บ้าน

จากกรณีคนร้ายบุกเดี่ยวใช้มีดจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น สาขาตลาดสวนแตง ริมถนนมาลัยแมนสายอู่ทอง-สุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี ขณะเกิดเหตุภายในร้านมีแค่เพียงพนักงานหญิง 3 คน โดยคนร้ายได้เงินสดจำนวน 2,875 บาทหลบหนีไป เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเช้ามืด วันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา

หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.สมพร พุกหอม ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและเจ้าหน้าที่สายตรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับสอบสวนผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐาน พบคนร้ายแต่งกายนุ่งกางเกงขาสามส่วน สวมเสื้อคลุมสวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธมีดในการก่อเหตุ หลังจากได้เงินไปแล้วก็รีบหลบหนีไป โดยไม่ได้ทำอันตรายพนักงานแต่อย่างใด

ความคืบหน้าล่าสุดในวันนี้ (14 ก.ย.) พ.ต.อ.สมพร พุกหอม ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า จากสอบสวนผู้เสียและดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว สันนิษฐานว่าคนร้ายรายนี้ไม่น่าเป็นมืออาชีพ น่าจะเป็นวัยรุ่นติดยาเสพติด เมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ พร้อมกับออกสืบหาข้อมูลเบาะแสของร้าย และกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้าย

โดยหลังก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีเทา-ดำ หลบหนีเข้าซอยบ้านดงมะม่วง หลังจากได้หลักฐานเส้นทางหลบหนีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพบหลักฐาน กระทั่งพบรถจักรยานยนต์ของคนร้าย จอดอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง พร้อมกับหมวกไหมพรมและรองเท้าแตะที่ใส่ก่อเหตุ จึงเข้าตรวจค้นในบ้าน พบผู้ต้องหานอนพักผ่อนอยู่

จากการสอบสวนผู้ต้องหาคือ นายพีรศักดิ์ อายุ 35 ปี ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยทำงานรับจ้างขับรถ แต่ตกงานและมาอาศัยอยู่กับพ่อแม่ เคยมีครอบครัวแต่เลิกกันไปแล้ว ตนใฝ่ฝันอยากเปิดอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ จึงขอเงินแม่ไปลงทุนแต่ก็ไม่ได้

นอกจากนี้ คนในครอบครัวยังกล่าวหาว่าตนเป็นบ้า ทำให้เกิดความเครียด หันไปดื่มเหล้าและติดยาเสพติด ระยะหลังตนจะขี่รถจักรยานยนต์ออกมาตระเวนไปตามเส้นทางต่างๆ เพื่อคลายเครียด ก่อนที่จะก่อเหตุตนคิดจะไปหาดูบ้านเช่าเพื่อจะเปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ แต่ไม่มีเงิน

ประกอบกับถูกคนในบ้านกดดันหาว่าตนบ้า จึงเข้าไปก่อเหตุเพื่อหาเงินค่าเช่าบ้าน และพิสูจน์ทำให้ที่บ้านรู้ว่าตนไม่ได้บ้า ตนก็เป็นคนมีความคิด โดยหลังก่อเหตุตนได้นำมีดปลายแหลม ซึ่งพกติดตัวประจำไปทิ้งลงแม่น้ำท่าว้า ส่วนเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุตนได้เผาทิ้งที่หน้าบ้าน เพื่อทำลายหลักฐานแบบที่เคยดูในหนัง

หลังจากสอบสวนปากคำไว้เป็นหลักฐานเสร็จ ร.ต.อ.สมเจตน์ นุชนารถ รอง สารวัตรสอบสวน พ.ต.ท.ทรงพล ศรีชมภู รอง ผกก.(สอบสวน) เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพก่อนนำตัวไปฝากขังพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธและใช้ยานพาหนะในการหลบหนี และยังพบว่ามีประวัติอาชญากรรมติดตัวด้วย