ยอมจำนน-รวบแก๊งโจรกรรม จยย.ส่งขายนอก หัวโจกสารภาพฉกมาแล้ว 100 คัน

ยอมจำนน-รวบแก๊งโจรกรรม จยย.ส่งขายนอก หัวโจกสารภาพฉกมาแล้ว 100 คัน

ยอมจำนน-รวบแก๊งโจรกรรม จยย.ส่งขายนอก หัวโจกสารภาพฉกมาแล้ว 100 คัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

( 14 ก.ย. 61 ) พล.ต.ต.คำรณ  บุญเลิศ ผบก.ภจว.นครปฐม , พ.ต.อ.สีหเดช  สระกอบแก้ว ผกก.สภ.นครชัยศรี พร้อมชุด ปจร. สภ.นครชัยศรี รวบคนร้ายแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ในเขตพื้นที่อำเภอนครชัยศรี 2 ครั้ง อำเภอเมืองนครปฐม 4 ครั้ง ส่งขายออกต่างจังหวัดทางภาคเหนือ 

เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 61 ได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ บริเวณหมู่ 2 ต.พะเนียด อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ได้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟไอ 110  สีดำ-ขาว ทะเบียน 1กฆ 7017 นครปฐม

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบลงพื้นที่ทำการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด พบว่ามีคนร้าย 2 คน เป็นชาย-หญิง ทราบชื่อผู้ต้องหา นายพิพัฒน์ หรือออย อายุ 37 ปี  นางสาวสุมินตรา หรือเล็ก  อายุ 29 ปี จึงได้ทำการจับกุมได้ที่เมืองนครปฐม พร้อมของกลางเป็นจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 110 สีชมพู ทะเบียนรถ 1กฎ 7763 นครปฐม (ซึ่งสีเดิมรถเป็นสีน้ำเงิน-ขาว) เป็นยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุ

หลังก่อเหตุจึงเปลี่ยนเป็นสีชมพู และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง พร้อมเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ ทั้ง 2 คนสารภาพว่า ได้ก่อเหตุจริงในอำเภอนครชัยศรี 2 ครั้ง และอำเภอเมืองนครปฐม 4 ครั้ง หลังจากขโมยรถจักรยานยนต์ไปแล้วก็จะนำส่งขายทั้งหมดให้กับนายอ้วน (ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง) และนำเงินมาซื้อยาเสพติดมาเสพ

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ปจร.สภ.นครชัยศรี ทำการขยายผลจนสามารถจับกุมนายอ้วน ทราบชื่อภายหลัง นายชินโชติ หรือหนึ่ง  อายุ 40ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.บางช้าง อ.สามพราน จ.นครปฐม ให้การสารภาพว่า ตนเองได้ติดต่อซื้อขายกับนายพิพัฒน์กับนางสาวสุมินตรา  จริง โดยการใช้การติดต่อซื้อขายทางเฟซบุ๊กกลุ่มซื้อขายนครปฐม และทางโทรศัพท์โดยการสอบถามยี่ห้อรุ่น และตกลงราคาและนัดหมายเอารถมาให้นายชินโชติ เพื่อนำไปส่งต่อตามคำสั่งของ “เจ๊ฝน” กับ “เจ๊อารีย์” ซึ่งเป็นคนจ่ายเงินค่ารถจักรยานยนต์ให้กับนายพิพัฒน์ และนางสาวสุมินตรา

โดยการจ่ายเงินจะโอนผ่านบัญชีนายชินโชติ และทางนายชินโชติ ก็จะกดให้นายพิพัฒน์ และนางสาวสุมินตรา  ส่วนนายชินโชติ จะได้ค่าดำเนินการคันละ 500 บาท  และจักรยานยนต์ที่ส่งไปนั้นจะส่งโดยขนส่งเอกชนและเรื่องเอกสารทางเจ๊ฝนกับเจ๊อารีย์จะเป็นคนดำเนินการให้ทั้งหมด

และส่วนใหญ่รถจักรยานยนต์ที่ขโมยมาทั้งหมดจะส่งไปที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งนายชินโชติ ก็ยอมรับอีกว่า ทั้งรถรับจำนำและรถที่ดาวน์มาแล้วไม่ส่ง และรถที่ขโมยมา ก็ทำการส่งไปเชียงรายทั้งหมด และยอมรับด้วยว่าทำมากว่า 100 คัน ตำรวจได้ทำการสอบสวนผู้ต้องหาเพื่อทำการขยายผลต่อ

นางกนกวรรณ  อายุ 46 ปี  ผู้เสียหายชาว ต.พะเนียด อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เล่าให้ฟังว่า 2 ผู้ต้องหาทำทีมาสั่งข้าวอาหารตามสั่ง โดยเห็นว่า มีผู้หญิงท้องด้วยเลยรีบพอหันไปทำอาหารให้ พอทางผู้เสียหายเผลอผู้ต้องหาทั้ง 2 ก็ขโมยไปต่อหน้าต่อตา เนื่องจากผู้เสียหายคิดว่าจอดหน้าบ้านเสียบกุญแจ ไม่น่าจะหายง่ายๆ  

ทั้งนี้ ผู้เสียหายเดินทางมาดูรถจักรยานยนต์ที่โดนขโมยไปนั้นเหลือแค่ตะกร้าหน้ารถใบเดียว เพราะจะจำได้ว่าตระกร้าจะแตก  ซึ่งรถของผู้เสียหาย ทางผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย รับสารภาพว่า ได้ส่งไปเชียงรายเรียบร้อยแล้ว

จากนั้น พ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว ผกก.สภ.นครชัยศรี ได้แถลงเพิ่มเติมคดีสองพี่น้องขโมยมะพร้าวน้ำหอม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 61 ได้รับแจ้งว่า มีคนร้าย 2 คนขี่จักรยานยนต์มาตัดมะพร้าวน้ำหอมไปจำนวน 5 ทลาย มะพร้าว 32 ลูก และขับขี่หลบหนีไป และทางเจ้าของสวนมะพร้าวคือ นายมนัส  ได้ติดตามคนร้ายไป

จนกระทั่งคนร้ายขี่จักรยานยนต์เสียหลักเข้ากอไผ่ แล้วพากันวิ่งหลบหนีไป ทิ้งจักรยานยนต์ไว้ที่เกิดเหตุ ยี่ห้อ ฟีโน่ สีน้ำเงิน ทะเบียน 1กค  6158 นครนายก และทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบได้ทำการสืบสวนสอบสวนทราบชื่อภายหลัง คือ นายธนกฤต หรือป๊อก  นายปิยะ หรือแป็ก  ทั้ง 2 เป็นพี่น้องกัน

โดยได้ยอมรับสารภาพว่า นายปิยะ เป็นคนขี่จักรยานยนต์ และ นายธนกฤต เป็นคนลักมะพร้าวน้ำหอม  และขี่จักรยานยนต์บรรทุกไปเพื่อไปขายต่อไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ทรัพย์ที่เป็นของผู้มีอาชีพกสิกรรม โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นแก่การจับกุม

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ ของ ยอมจำนน-รวบแก๊งโจรกรรม จยย.ส่งขายนอก หัวโจกสารภาพฉกมาแล้ว 100 คัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook