จับแล้วโจรลากแตะปล้นร้านสะดวกซื้อ-ตร.ตามรวบขณะหลับ อ้างหาเงินเปิดอู่รถ

จากกรณีคนร้ายบุกเดี่ยวใช้มีดจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่นสาขาตลาดสวนแตง เลขที่ 178 หมู่ 4 ต.สวนแตง ริมถนนมาลัยแมนสายอู่ทอง-สุพรรณบุรี

ขณะเกิดเหตุภายในร้านสะดวกซื้อปลอดลูกค้ามีพนักงานหญิง จำนวน 3 คน โดยคนร้ายได้เงินสดจำนวน  2,875 บาท หลบหนีเหตุเกิดเวลาประมาณ  02.00 น.วันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา 

หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.สมพร พุกหอม ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและเจ้าหน้าที่สายตรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับสอบสวนผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านที่บันทึกภาพเหตุการณ์ขณะคนร้ายเข้ามาก่อเหตุไว้ได้

พบคนร้ายแต่งกายนุ่งกางเกงขาสามส่วน สวมเสื้อคลุม สวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธมีดในการก่อเหตุ หลังจากได้เงินจากพนักงานแล้วคนร้ายได้รีบหลบหนีโดยไม่ได้ทำอันตรายพนักงานแต่อย่างใด

( 14 ก.ย. 61 ) ความคืบหน้า พ.ต.อ.สมพร พุกหอม ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี เปิดเผยว่าจากสอบสวนผู้เสียและดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วสันนิษฐานว่าคนร้ายรายนี้ไม่น่าเป็นมืออาชีพน่าจะเป็นวัยรุ่นติดยาเสพติด จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.เรวัฎ นูมหันต์  พ.ต.ท.วิศรุตม์ จันทร์สุวรรณ สว.สส.ร.ต.อ.เจริญ หลำคำ ร.ต.อ.นนทัช มาชัยภูมิ รอง สว.สส.นำกำลังชุดสืบสวนลงพื้นที่ร่วมกับสายตรวจตำบล ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ พร้อมกับออกสืบหาข้อมูลเบาะแสของร้าย และกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้าย

โดยหลังก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีเทาดำ ทะเบียน ปทน 495 กรุงเทพมหานคร หลบหนีใช้เส้นทางมาลัยแมน สวนแตง-สุพรรณบุรี แยกเข้าเส้นทางบ้านบางหมัน-ท่าเสด็จ ไปข้ามเกาะกลาง ถนนสายอู่ยา-ดอนเจดีย์ หลบหนีเข้าซอยบ้านดงมะม่วง

หลังจากได้หลักฐานเส้นทางหลบหนีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพบหลักฐานรถจักรยานยนต์ของคนร้ายจอดอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.สระแก้ว อ.เมืองสุพรรณบุรี พร้อมกับหมวกไหมพรมและรองเท้าแตะที่ใส่ก่อเหตุ จึงเข้าตรวจค้นในบ้านพบผู้ต้องหานอนอยู่จึงควบคุมตัวมาสอบสวน

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาชื่อ นายพีรศักดิ์ อายุ 35 ปี โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยทำงานรับจ้างขับรถ ต่อมาตกงานและมาอาศัยอยู่กับพ่อแม่ และเคยมีครอบครัวแต่เลิกกัน ปัจจุบันไม่มีงานทำ ตนอยากเปิดอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ จึงขอเงินแม่ไปลงทุนแต่แม่ไม่ให้ แล้วคนในครอบครัวยังกล่าวหาว่าตนบ้า จึงเกิดความเครียดหันไปดื่มเหล้าและเสพยาเสพติด

ระยะหลังตนจะขี่รถจักรยานยนต์ออกมาตระเวนไปตามเส้นทางต่างๆ เพื่อคลายเครียด และก่อนที่จะก่อเหตุตนคิดจะไปหาดูบ้านเช่าเพื่อจะเปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์แต่ไม่มีเงินประกอบกับถูกคนในบ้านกดดันหาว่าตนบ้า จึงเข้าไปก่อเหตุเพื่อหาเงินค่าเช่าบ้านและเพื่อทำให้รู้ว่าตนไม่ได้บ้า ตนมีความคิด

หลังก่อเหตุตนได้นำมีดปลายแหลมซึ่งพกติดตัวประจำไปทิ้งลงแม่น้ำท่าว้า ส่วนเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ ตนได้เผาทิ้งที่หน้าบ้านเพื่อทำลายหลักฐานเหมือนที่เคยดูในหนัง

หลังจากสอบสวนปากคำไว้เป็นหลักฐานเสร็จ ร.ต.อ.สมเจตน์ นุชนารถ รอง สารวัตรสอบสวน พ.ต.ท.ทรงพล ศรีชมภู รอง ผกก.(สอบสวน) เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพก่อนนำตัวไปฝากขังพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธและใช้ยานพาหนะในการหลบหนี  สำหรับประวัตินายพีรศักดิ์ เคยถูกจับคดีเสพยาเสพติดมาแล้วอีกด้วย