ผู้ต้องหาแสบหนีตำรวจ ขณะนำตัวมาฝากขังศาล โชคดีตามรวบทันควัน
15 ก.ย. 2561 ที่ จ.สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุ 191 ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.ท.ศาสตรา คงนาม รอง ผกก.ป.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุผู้ต้องหาหลบหนีการควบคุมตัว ที่บริเวณหลังศาลจังหวัดสุพรรณบุรี
จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.รัชชาติ สุขสวัสดิ์ สวป.สภ.อู่ทอง ช่วยราชการ สภ.เมืองสุพรรณบุรี กำลังสายตรวจ ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่สมาคมเณรแก้วกู้ภัยทางหลวง
ที่เกิดเหตุบริเวณด้านหลังศาลจังหวัดสุพรรณบุรี พบเพียงรองเท้าแตะสีส้มที่ผู้ต้องหาทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าส่วนตัวผู้ต้องหาวิ่งหลบหนีไปได้
จากการสอบถาม ร.ต.ต.ณัฐพงศ์ ชาวขอนแก่น รอง สวป.สภ.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง ทราบว่าก่อนเกิดเหตุตนและ พ.ต.ท.ชูศักดิ์ ศิริทรัพย์ทวี สารวัตรสอบสวน สภ.บางตาเถร ได้นำตัวนายพิพัฒน์ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาคดีรับของโจรมาฝากขังต่อศาลจังหวัดสุพรรณบุรี
ขณะที่กำลังนำตัวลงจากรถควบคุมผู้หา ซึ่งถูกใส่กุญแจมือไว้ด้วย ได้สะบัดอย่างแรงจนหลุดมือหลุดจากเจ้าหน้าที่ แต่ยังใส่กุญแจมืออยู่ด้วย จากนั้นได้วิ่งไปมุดรั้งลวดหนามด้านหลังศาลวิ่งหนีเข้าดงต้นปรือที่รกทึบ
จึงวิทยุแจ้งขอกำลังสนับสนุนให้ช่วยติดตาม หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันออกไล่ติดตาม โดยใช้เวลาในการติดตามค้นหาประมาณ 40 นาที จึงพบผู้ต้องหานอนหงายหน้าอยู่ในน้ำในดงต้นปรือ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวกลับไปฝากขังที่ศาลสุพรรณบุรีได้อย่างโล่งอก
จากการสอบสวนนายพิพัฒน์ ผู้ต้องหาให้การว่าตนประกอบอาชีพช่วยพ่อแม่เลี้ยงกุ้งกุลาดำ ประมาณ 20 ไร่ และเมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา ตนได้รับซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะรุ่นเก่าจากวัยรุ่นคนหนึ่ง ราคา 1,200 บาท โดยไม่รู้ว่าเป็นคอมพิวเตอร์ที่ถูกขโมยมา
ต่อมาได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง สืบสวนจับกุมตัวเอาไว้ได้ และวันนี้ตำรวจได้นำตนมาฝากขังที่ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ด้วยความกลัวความผิดและกลัวจะติดคุก จึงตัดสินใจสะบัดตัวจากเจ้าการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากนั้นได้วิ่งหนีออกด้านหลังศาลซึ่งมีเพียงรั้วลวดหนามและสังกะสี ก่อนจะวิ่งไปซ่อนตัวอยู่ในดงปรือ กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาเพิ่มจากเดิมคือ ข้อหารับของโจร ได้ข้อหาเพิ่มอีกคดีหนึ่งคือข้อหาหลบหนีการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่