น้องสาว "เสี่ยเกาะเต่า" อุบเรื่องบัตรเครดิตพี่ชาย ไม่ขอพูดมากแต่ตรวจสอบได้
น้องสาว "เสี่ยเกาะเต่า" โพสต์เฟซบุ๊ก ไม่โทษใครทั้งนั้นเพราะยังไงพี่ชายก็ไม่ฟื้น ขอขัดคำสั่งจัดงานศพด้วยตัวเอง
จากกรณี นายพัชรพล เอกปฐมศักดิ์ หรือ หนุ่ม อายุ 48 ปี แต่งชุดไบค์เกอร์ไลฟ์เฟซบุ๊กสั่งลาก่อนยิงตัวตาย ภายในบ้านพัก อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี โดยก่อนหน้านั้นได้โพสต์ข้อความในพันทิปตัดพ้อภรรยา จนเรื่องราวถูกวิพาษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์เป็นวงกว้างนั้น
>> "เสี่ยเกาะเต่า" โพสต์ก่อนลาโลก ชีวิตนี้พอแล้ว ลั่นขอตามอาฆาตหลังฆ่าตัวตาย
ล่าสุด เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) ที่วัดโพธิ์นิมิตร ทางครอบครัวและญาติได้จัดพิธีกรรมทางศาสนา โดย น.ส.พึงพิศ หรือ ผึ้ง ภรรยานายพัชรพล ได้เดินทางไปที่บ้านที่เกิดเหตุ ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณสามี ตามความเชื่อ ในส่วนพิธีฌาปนกิจ ครอบครัวได้นิมนต์พระสงฆ์ 9 รูป มาสวดมาติกาบังสุกุล เผาจำลอง ก่อนจะเคลื่อนศพขึ้นสู่เมรุทำพิธีฌาปนกิจจริง บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า โดยมีบุตรสาวคนโตถือภาพบิดาเดินนำหน้าขบวน น.ส.พึงพิศ ภรรยา เดินหน้าศพร่ำไห้อย่างหนัก ต้องมีญาติคอยประคองตลอดเวลา จนถึงเวลาฌาปนกิจศพ น.ส.พึงพิศ ได้พาบุตรสาวคนโตไปอำลาบิดาที่หน้าศพ
ด้าน นายสหภูมิ ศรีสกุลฉั่ว พ่อของนายพัชรพล กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของครอบครัว ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว คิดว่าเค้าได้เตรียมการไว้นานเลย ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องที่สังคมสนใจและสงสาร เนื่องจากคงเขียนจากความรู้สึก ส่วนตัวรู้สึกชื่นชมลูกชายที่ใช้คำพูดที่ดีไม่หยาบคาย เคยพูดให้ลูกฟังว่าลูกผู้ชายถ้าได้เมียดีก็ดีเหมือนแม่ ถ้าเมียไม่ดีก็เปรียบเสมือนงูเห่า ซึ่งตัวเองก็ไม่ทราบว่าลูกชายได้เมียดีหรือไม่ดี การตัดสินใจคงจะเกิดจากความกดดัน แม้แต่พ่อก็ยังไม่ยอมบอก ตอนลูกชายกลับไปหาครั้งสุดท้ายเหมือนจะไปสั่งลา โดยการซื้อของกินมาฝาก คิดไม่ถึงว่าจะมาจากไปในลักษณะนี้ แทนที่จะจัดงานศพให้พ่อแต่พ่อต้องมาจัดงานศพให้ลูกแทน
ด้าน น.ส.ธรรมมรณ์ นิชนิภาโฆสิต น้องสาวของนายพัชรพล กล่าวว่า พี่หนุ่มไม่เคยคุยเรื่องปัญหาให้ใครฟัง นอกจากคุณพ่อและตามความเป็นจริงไม่อยากจะโทษใครทั้งนั้น พี่หนุ่มเป็นคนไม่ชอบพูดให้ใครฟัง ความรู้สึกส่วนตัวจะไม่โทษใครแม้กระทั่งภรรยาของพี่หนุ่ม อยากให้เรื่องทุกอย่างเงียบไปแม้จะรู้ว่ายังเป็นกระแสแรงในสังคมก็ตาม
นอกจากนี้ น้องสาวของนายพัชรพล ได้โพสต์เฟซบุ๊กหลังงานเผาศพของพี่ชาย ระบุว่า เสียใจกับการจากไปของพี่ชายแทบจะขาดใจ แต่ตอนนี้ก็เริ่มทำใจได้ และไม่โทษใครทั้งนั้น เพราะโทษกันไปมาไม่เกิดประโยชน์อะไร ไม่ได้ทำให้พี่ชายฟื้นกลับมา และสาเหตุที่เกิดขึ้นตั้งแต่แรกมันมีความเป็นมา ซึ่งพวกเราหลายไม่มีใครรู้ แต่มารับรู้ในวันที่พี่ชายจากไป คนที่ไม่เจอปัญหาหนักๆ คงไม่มีทางเข้าใจ
ก่อนหน้านี้ น.ส.ธรรมมรณ์ ได้เล่าว่าได้ยินญาติฝั่งพี่สะใภ้พูดว่า "หนี้บัตรเครดิตใครจ่าย" แต่ตอนนี้ไม่ขอพูดอะไรมากเพราะทุกอย่างตรวจสอบได้ว่า การใช้ในแต่ละครั้งใครเป็นคนใช้ ก่อนทิ้งท้ายไว้ว่า "การเปิดใจคุยกันมันเป็นเรื่องดี ไม่ใช่ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง จิตใจคนสามารถเปลี่ยนได้ตลอดเวลา"
>> วิญญาณ "เสี่ยเกาะเต่า" โผล่บอกอยากกินขนมจีน เมียปล่อยโฮบอกเป็นเมนูสื่อรัก