"มังคุด" ทำพิษ พัด "สะพานบ้านโพซอ" ขาด 5 หมู่บ้านสัญจรไม่ได้-รถตำรวจถูกซัดพังเละ
ฤทธิ์มังคุด ทำสะพานบ้านโพซอ ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอนถูกตัดขาดขาด ส่งผลให้ 5 หมู่บ้านเข้าออกไม่ได้ขณะที่รถตำรวจเสาหินเจอน้ำป่าซัดพังเละ
เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2561 เวลา 07.30 น. พ.อ.วุฒิ ปฐมเรืองกุล ผบ.ฉก.ทพ.36 มอบหมายให้ พ.ต.สมยงค์ ทองมิตร ผบ.ร้อย.ทพ.3602 จัด กพ.ชป.บรรเทาสาธารณภัย เข้าสำรวจตรวจสอบ
บริเวณลำห้วยแม่สามแลบที่ใช้เป็นเส้นทางผ่านเข้า-ออก บ.แม่สามแลบ พิกัด LV.671887 ม.1 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน โดยเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2561 ที่ผ่านมา มีฝนตกหนักในพื้นที่ บ.ห้วยโผ ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง
ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก มาสมทบลำห้วยแม่สามแลบ น้ำป่าได้พัดพาหิน, ดินโคลนและต้นไม้ทับถมบริเวณท่อระบายน้ำ คอนกรีต ทำให้ท่อแตกและขาดมีความกว้างประมาณ 6 เมตร
ขณะนี้น้ำในลำห้วยลดระดับลงแล้ว การสัญจรของ บุคคล, ยานพาหนะไม่สามารถผ่านเข้า-ออกได้ จากการประสาน อบต.แม่สามแลบ, ผญบ.แม่สามแลบ แจ้งว่าได้รายงานต้นสังกัดทราบแล้ว เพื่อของบประมาณและวัสดุอุปกรณ์มาทำการปรับปรุงแก้ไขโดยเร็วต่อไป หากมีความจำเป็นที่ผ่านเข้า-ออก บ.แม่สามแลบ สามารถเดินข้ามลำห้วย ซึ่งมีความลึกประมาณ 20-30 ซม. และเดินทางต่อด้วยรถยนต์หรือ จยย.
หน่วยได้จัด กพ.เฝ้าระวังแจ้งเตือนราษฎรในพื้นที่ติดตามสถานการณ์ สำหรับบ้านเรือน ทรัพย์สินไม่ได้รับความเสียหาย ซึ่งจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป เวลานี้การติดต่อสื่อสารโทรศัพท์มือถือทุกระบบไม่มีสัญญาณ
สำหรับที่บ้านโพซอ และ บ้านเสาหิน พันเอกวุฒิ ปฐมเรืองกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ได้เปิดเผยว่า ทางหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ได้ส่งชุดเคลื่อนที่เร็วป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเข้าพื้นที่
เพื่อตรวจสอบความเสียหายและเตรียมให้ความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกแก่ราษฎร ในพื้นที่ ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน หลังได้รับรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ของเย็นวานนี้ ในพื้นที่ ต.เสาหิน ได้เกิดฝนตกหนัก
เบื้องต้นทราบว่า มีรถเช่าของเจ้าหน้าที่ สภ.เสาหิน หมายเลขทะเบียน ฎม940 กรุงเทพ ซึ่งได้ออกตรวจพื้นที่ได้ถูกน้ำป่าพัดไปกับสายน้ำ ก่อนข้าบ้านแพะ หมู่ 6 ต.เสาหิน ประมาณ 3-4 กิโลเมตร โดยมีดาบตำรวจวิลอนดอล ธุระเสน เป็นพลขับ
เบื้องต้นทราบว่า ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสาหิน นำรถออกตรวจพื้นที่ได้เกิดฝนตกหนัก เป็นจังหวะเดียวกับที่รถมาถึงลำห้วย เจ้าหน้าที่จึงได้จอดรถไว้ตรงเนินข้างลำห้วย เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์
แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดมวลน้ำขนาดใหญ่ไหลทะลักออกมาทำให้รถที่จอดอยู่ถูกน้ำป่าพัด โชคดีที่ทางเจ้าหน้าที่ไม่เป็นอันตราย ล่าสุดเมื่อสถานการณ์น้ำเข้าสู่สภาวะปกติ พบรถเช่า สภ.เสาหิน ถูกพัดพาไปจากจุดที่เกิดเหตุ ประมาณ 400 เมตร
นอกจากนี้ โรงเรียนบ้านโพซอก็ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าทะลัก ซึ่งความเสียหายต่างๆ อยู่ระหว่างการสำรวจเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป นอกจากนี้ ฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนัก
ทำให้น้ำในลำห้วยแม่แงะทะลัก พัดพาเศษไม้มาติดบริเวณสะพานบริเวณบ้านโพซอจนทำให้สะพานขาด ราษฎรที่จะเดินทางไปยัง 5 หมู่บ้าน ประกอบด้วย บ้านโพซอ ม.5 ต.เสาหิน บ้านอูหลู่ ม.7 บ้านกองสุม บ้านจอท่า บ้านจอซิเดอ ต.แม่คง ที่ต้องใช้เส้นทางดังกล่าว ขณะนี้ไม่สามารถสัญจรไปมาได้
นอกจากนี้ยังมีดินโคลนเลื่อนไหล ปิดทับเส้นทาง อีก 3 จุด ฝนที่ตกหนักในพื้นที่เสาหินตอนบนทำให้น้ำป่าไหลนองลำห้วยแม่แงะที่ไหลจากสล่าเชียงตองถึงโพซอมีระดับสูงมาก เบื้องต้นมีสะพาน เหมือง ฝาย ไร่นา สวน ถนน ที่อยู่ริมห้วยได้รับความเสียหาย ยังไม่มีรายงานประชาชนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
หน่วยพิทักษ์ป่าโพซอ รายงานว่า เกิดความเสียหายจาก พายุ ฝน ฟ้าคะนอง ดังรายการต่อไปนี้ 1.สะพานข้ามลำห้วยแม่แงะ ที่บ้านโพซอ ขาดได้รับความเสียหาย ไม่สามารถใช้เส้นทางสัญจรได้
2.เส้นทางไปบ้านกองสุม จอซิเดอ หน่วยพิทักษ์ป่าสบแงะ เส้นทางขาด ดินสไลด์ปิดทับเส้นทาง ไม่สามารถใช้เส้นทางได้ 3.หน่วยพิทักษ์ป่าโพซอได้รับความเสียหาย แปลงเพาะชำถูกน้ำท่วมทรายทับถมหมดทั้งแปลง 4.เสาอากาศวิทยุโค่นล้มเสียหาย
การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ได้ร่วมกับหน่วยงานทหารพราน ตำรวจ ราษฎรในพื้นที่บ้านโพซอ หมู่ 5 อบต.เสาหิน อบต.แม่คง ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สะเรียง โดยนายอำเภอแม่สะเรียง นายพงค์พีระ ชูชื่น ได้ร่วมอำนวยการในการช่วยเหลือ เบื้องต้นรายละเอียดจะได้นำเรียน
ส่วนที่ อำเภอสบเมย พ.อ.วุฒิ ปฐมเรืองกุล ผบ.ฉก.ทพ.36 มอบหมายให้ พ.ต.ธนิก รัศมี ผบ.ร้อย.ทพ.3607 จัด กพ.ชป.บรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับ จนท.อบต.สบเมย และชาวบ้านในพื้นที่ร่วมกันเปิดเส้นทาง
เนื่องจากฝนตกหนักลมแรงทำให้ต้นไม้ล้ม เสาไฟฟ้าล้มทับขวางถนนเส้นทางจาก บ.ห้วยน้ำใส - บ.เลโค๊ะ ปัจจุบันรถยนต์รถจักรยานยนต์ผ่านได้ตามปกติ การปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นายเรืองฤทธิ์ ผลดี ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ผลความเสียหายยังไม่ได้ข้อสรุป ต้องรอทางพื้นที่ทำรายงานขึ้นมายัง ปภ.เพื่อที่จะได้หาแนวทางช่วยเหลือต่อไป
เบื้องต้นหากความเสียหายไม่มากนักก็จะให้ทางอำเภอ และ องค์การบริหารส่วนตำบล ดำเนินการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน ถ้าใช้งบประมาณมากเกินกว่าความสามารถของ 2 หน่วยงาน ทาง ปภ.จะดำเนินการเสนอเรื่องของบประมาณจากส่วนกลางมาให้การช่วยเหลือต่อไป