หญิงจีนคืนเงินให้ผู้บริจาคทุกคน หลังฟ้องเรียกค่ารักษาลูกสาวได้ตามกฎหมาย

“ฉันจะไม่ทรยศต่อน้ำใจที่คนอื่นหยิบยื่นให้” หญิงจีนคืนเงินบริจาคทุกบาททุกสตางค์ให้ผู้บริจาคทุกคน หลังฟ้องร้องเรียกค่ารักษาลูกสาวได้ตามกฎหมาย 

สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 กันยายน ปี 2017 “เสี่ยว ซิงซิง” เด็กหญิงชาวจีนในเมืองต้าซิง มณฑลเฮยหลงเจียง ประสบอุบัติเหตุขณะฝึกเรียนอยู่ที่สถาบันสอนเต้น ส่งผลให้เธอเป็นอัมพาตกะทันหัน วันต่อมาเธอถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลในปักกิ่ง “จ้าว อิงเจี๋ย” แม่ของเธอที่จำเป็นต้องใช้เงินด่วนเพราะต้องการให้ลูกได้รับการรักษาที่ดีที่สุด จึงประกาศขายบ้านของตัวเองบนวีแชท (โซเชียลมีเดียของจีน) 

แต่หลังจากทราบเรื่องราวก็มีชาวเน็ตใจดีจำนวนมากแชร์ต่อ รวมถึงบริจาคเงินเข้ามาจนได้รับเงิน 6 แสนหยวน ภายในเวลาชั่วข้ามคืน โดยมีจำนวนการบริจาคถึง 1.8 หมื่นครั้ง โดยจ้าวได้จดชื่อผู้บริจาค ยอดเงิน ที่มาที่ไปของการบริจาคทั้งหมดไว้อย่างละเอียด พร้อมประกาศว่าเธอจะไม่แตะต้องเงินก้อนนี้เลยถ้าไม่จำเป็นจริงๆ และถ้าหากใช้เธอจะแจ้งรายละเอียดการใช้อย่างชัดเจน

ปีต่อมายอดเงินบริจาคทั้งหมดทุกบาททุกสตางค์ที่เธอได้รับจากผู้มีน้ำใจ ถูกโอนกลับคืนยังบัญชีของบุคคลและองค์กรที่บริจาคเงินมาทุกรายไม่ขาดแม้แต่นิดเดียว เนื่องจากพิสูจน์ได้ว่าลูกของเธอเป็นอัมพาตเพราะท่าทางในการฝึก ไม่ใช่มีโรคที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิดอย่างที่สถาบันอ้าง จนจ้าวชนะคดีและได้เงินชดเชยจากสถาบันสอนเต้น บวกกับได้เงินที่ยืมจากญาติๆ และเพื่อนจนเพียงพอต่อการรักษา เสี่ยว ซิงซิง 

ปัจจุบัน เสี่ยว ซิงซิง ดีขึ้นมากแล้ว สามารถเดินได้ด้วยตัวเอง แม้จะยังไม่หายดี 100% และยังต้องทำกายภาพบำบัดต่อหลังย้ายกลับบ้านเกิด

หน่วยงานด้านการกุศลแห่งหนึ่งกล่าวว่า จริงๆ แล้วเธอจะรอจนลูกหายก่อนค่อยคืนก็ได้ เพราะอาจมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นอีก แต่เธอและสามีก็ตัดสินใจคืนเงินก้อนนี้แก่ผู้บริจาคทุกราย ซึ่งเป็นเคสที่หาได้ยากมากๆ เพราะส่วนมากที่คืนเงินบริจาคจะเป็นกรณีที่รักษาหายแล้ว และเงินยังเหลือ

“ฉันคิดว่าน้ำใจและความดีงามของผู้คนควรได้รับการส่งต่อและเห็นคุณค่า ไม่ควรถูกทรยศ” พร้อมกล่าวว่าหลังได้คืนเงินแล้วตนรู้สึกสบายใจขึ้นมากและนอนหลับได้อย่างเต็มอิ่มกว่าเดิม แม้ว่าจะต้องหางานพาร์ทไทม์เพิ่ม เพื่อหาเงินรักษาลูกก็ตาม