ตำรวจสงขลาไล่ล่าระทึก ตะครุบคนร้ายหนีหมายจับยิงถล่มคู่อริ

ตำรวจสงขลาไล่ล่าระทึก ตะครุบคนร้ายหนีหมายจับยิงถล่มคู่อริ

ตำรวจสงขลาไล่ล่าระทึก ตะครุบคนร้ายหนีหมายจับยิงถล่มคู่อริ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจสงขลาขับรถไล่ล่า เพื่อจับกุมเซียนวัวผู้ต้องหาคนสำคัญหนีหมายจับ คดีใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มบ้านคู่อริ เมื่อปี 2557

เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (18 ก.ย.) พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผู้กำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม และ พ.ต.ท.ปิยพล แป้นแก้ว สารวัตรกองกำกับการ6 กองบังคับการปราบปราม ขับรถยนต์ไล่ล่าและสกัดจับรถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้ 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ไม่ติดหมายเลขทะเบียน บนถนนบ้านทอนคลอง หมู่ 2 ต.คลองหลา อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา

ทั้งนี้เพื่อจับกุม นายจักรพงษ์ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสงขลา ในคดีพยายามฆ่าและคดีอาวุธปืนรวม 4 ข้อหา ซึ่งหลบหนีการจับกุมมา 4 ปี และสามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้ แม้ว่าจะพยายามขับรถหลบหนี แต่สุดท้ายก็ไม่รอดเพราะยางรถล้อหลังด้านขวาแบน เพราะถูกเจ้าหน้าที่ยิงขับไปต่อไม่ได้ โดยในขณะเกิดเหตุยังมีเพื่อนที่นั่งมาในรถอีก 7 คน แต่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ จึงได้ปล่อยตัวไป

สำหรับเหตุระทึกในครั้งนี้ทางตำรวจสืบทราบว่าในวันนี้ นายจักรพงษ์ ซึ่งเป็นเซียนวัว ได้มาดูการแข่งขันวัวชนที่สนามชนโคบ้านท่าหรั่ง อ.คลองหอยโข่ง จึงมาดักซุ่มรอ จนกระทั่ง นายจักรพงษ์ ออกจากสนามและขับรถออกมาพร้อมกับเพื่อนอีก 7 คนและภรรยา จึงแสดงตัวใช้รถวิทยุของกองปราบและรถยนต์ขวางทางเข้าออก แต่ปราฏว่า นายจักรพงษ์ ได้ขับรถกระบะพุ่งชนเจ้าหน้าที่จนต้องกระโดดหลบ และขับรถฝ่าวงล้อมออกไปได้

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบจึงใช้ปีนยิงล้อหลังด้านขวา เพื่อสกัดแต่ก็ยังขับต่อไปได้ แต่หลังจากที่ขับหลบหนีและเกิดการไล่ล่ากันราว 1 กิโลเมตร จึงยอมจำนนและถูกตำรวจจับกุมตัวเอาไว้ได้ พร้อมกับยอมรับสารภาพ

สำหรับนายจักรพงษ์ ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีพยายามฆ่าฯและข้อหาเกี่ยวกับอาวุธปืนรวม 4 ข้อหา จากการก่อเหตุใช้อาวุธปืนสงครามอาก้า ยิงถล่มใส่บ้านเลขที่ 30 ม.5 ถนนหลังมัสยิดกลางบ้านดอนขี้เหล็ก ต.พะวง .เมืองสงขลา เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 29 สิงหาคม 2557 ซึ่งเป็นบ้านพักของชายคนหนึ่งที่ไปติดพันกับอดีตภรรยาคนก่อน แต่ไม่มีใครได้รับอันตราย และแม้จะหนีการจับกุมมาตลอด 4 ปี แต่ก็หนีไม่รอด โดยก่อนหน้านี้ นายจักรพงษ์ เพิ่งคว้าชัยชนะในการเล่นวัวชนและเตรียมที่จะเดินทางกลับไปฉลองกับเพื่อนๆ ที่นั่งมาในรถกระบะด้วยกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook