ตำรวจภาค 6 บุกรวบ "เครือข่ายยาบ้านครไทย" เปิดร้านกาแฟบังหน้าขายยาบ้า
ตำรวจภูธรภาค 6 แถลงข่าวผลการปฏิบัติงานด้านการปราบปรามอาชญากรรมประจำปีงบประมาณพุทธศักราช 2561 ล่าสุดจับเครือข่ายยาบ้านครไทย เปิดร้านกาแฟบังหน้า
20 ก.ย. 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 6 ได้เข้าตรวจค้นตามหมายศาลและจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายค้ายาเสพติดในท้องที่ อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก
ที่ร้านกาแฟนายโดม ตั้งอยู่บนทางเส้นทางไป อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า สามารถจับกุม นายจิรายุ หรือโดม อายุ 35 ปี พร้อมภรรยา นางสาวสุปราณี อายุ 24 ปี พร้อมพวกรวม 9 คน เป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดให้แก่ผู้เสพในพื้นที่อำเภอนครไทย
ได้พร้อมของกลางเป็นยาบ้า จำนวน 22,000 เม็ด หลังจากตำรวจสืบทราบว่านายโดมพร้อมภรรยา ได้เปิดร้านกาแฟและร้านล้างอัดฉีดบังหน้าและสร้างเครือข่าย ค้ายาเสพติดมาเป็นเวลานาน จึงได้ติดตามสืบสวนหาข่าวจนสามารถจับกุมทั้งเครือข่ายได้ในที่สุด
ล่าสุดวันนี้ พลตำรวจโททวิชชาติ พละศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้แถลงข่าวผลการปฏิบัติงานด้านการปราบปรามอาชญากรรม ประจำปีงบประมาณ 2561 ที่บริเวณหน้าอาคารที่ทำการตำรวจภูธรภาค 6
หลังจากได้สั่งการให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรม เพื่อให้การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมการรักษาความสงบเรียบร้อยการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ซึ่งผลการปราบปรามอาชญากรรมสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมายอาญา ได้ทั้งสิ้น 38,065 คดี ตรวจยึดของกลางอาวุธปืน 2996 การดำเนินการจับตามหมายจับค้างเก่ารวมทั้งสิ้น 3668 หมาย
ด้านการปราบปรามยาเสพติดสามารถจับกุมคดียาเสพติดรวมทั้งสิ้น 18261 คดีได้ตัวผู้ต้องหารวม 19467 คน สามารถตรวจยึดของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 3,580,819 เม็ด ไอซ์ 14,446กรัม กัญชา ฝิ่นและกระท่อม จำนวนหนึ่ง
โอกาสนี้ ตำรวจภูธรภาค 6 ยังได้ส่งมอบคืนโฉนดที่ดินและทรัพย์สิน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ คืนความสุขให้แก่ประชาชนลดความเหลื่อมล้ำของสังคมให้กับประชาชนในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง
โดยมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนเดินทางมารับมอบโฉนดที่ดินคืน หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่ได้ดำเนินการ เปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน
และมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนเข้ามาขอความช่วยเหลือ จนสามารถดำเนินการให้ความช่วยเหลือในคดีความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชนการกู้ยืมเงินโดยสัญญาที่ไม่เป็นธรรม หรือมีลักษณะเป็นการทำสัญญารับเอาเปรียบทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ในห้วงระหว่างวันที่ 17 สิงหาคมถึง 17 กันยายน 2561
และในครั้งนี้ ตำรวจภูธรภาค6 มีผลด้านการจับกุม ผู้ต้องหาทั้งสิ้น 21 รายของกลางทั้งสิ้น 15 รายการมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 1 ล้านบาท มีผลด้านการไกล่เกลี่ยสำเร็จ 347 ราย
สามารถคืนโฉนดที่ดิน มูลค่าประมาณ 270 ล้านบาทคืนรถยนต์จำนวน 8 คันคืนรถจักรยานยนต์จำนวน 8 คันคืนทรัพย์สินอื่นๆ อีก 69 รายการมูลค่ารวมประมาณ 6 ล้านบาทรวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ 278 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการไกล่เกลี่ย อีกจำนวน 25 ราย
พลตำรวจโททวิชชาติ พละศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ระบุว่าขณะนี้ ปัญหายาเสพติด ยังคงเกิดขึ้นทุกพื้นที่ และสิ่งที่ปรากฏคือยังพบยาเสพติดในท้องที่จำนวนมาก
เป็นการแสดงให้เห็นว่าประชาชนบางส่วนยังคงเสพยาเสพติดอยู่จึงทำให้ผู้ค้ายาเสพติดพยายามลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาค้าเข้ามาจำหน่ายซึ่งหาก ประชาชน เห็นพิษภัยของยาเสพติด สามารถลดละเลิกได้ จนผู้เสพน้อยลงผู้ค้าก็จะน้อยลงไปด้วย
ส่วนปัญหาหนี้นอกระบบหากประชาชนกู้ยืมหนี้สินนอกระบบทุกรูปแบบ ไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชนทุกท้องที่
หรือหากไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหนก็ขอให้ติดต่อได้ที่สถานีตำรวจภูธรทุกแห่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือประชาชนได้รับความเป็นธรรม จากสัญญาที่เอารัดเอาเปรียบทุกราย